ยอดทะลัก!! โตโยต้า ยาริส เอทีฟ 30 วัน จองกว่า 2.1 หมื่นคัน
โตโยต้า ยาริส เอทีฟ (Yaris Ativ) เจเนอเรชั่น 2 เป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของโตโยต้า ที่ใช้เงินลงทุนพัฒนารวมทั้งสิ้น 5,200 ล้านบาท รองรับตลาดทั้งในปรเทศ และแผนส่งออกไป 35 ประเทศทั่วโลก
โตโยต้า ยาริส เอทีฟ (Yaris Ativ) เจเนอเรชั่น 2 เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2565 โดยเรียกเสียงฮือฮาจากตลาดได้มาก โดยเฉพาะด้านราคาจำหน่ายที่แทบไม่เปลี่ยนแปลงจากโฉมเดิม ในขณะที่ออปชั่นต่างๆ เพิ่มขึ้นจากเดิม
โดยยาริส เอทีฟ ใหม่ มีทั้งสิ้น 4 รุ่นย่อย
- รุ่น Sport ราคา 539,000 บาท
- รุ่น Smart ราคา 584,000 บาท
- รุ่น Premium ราคา 659,000 บาท
- รุ่น Premium luxury ราคา 689,000 บาท
นอกจากนี้แนวทางการออกแบบ ก็เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมขัดเจน มีความพรีเมียมมากขึ้น ทั้งตัวถังภายอกและภายในห้องโดยสาร
สิ่งที่เรียกเสียงฮือฮาอีกสิ่งหนึ่งคือ การดึงนักร้องขวัญใจวัยรุ่น อย่าง แบมแบม GOT7 มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ มีเป้าหมายเพื่อเจาะตลาดลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ และวัยรุ่นหนุ่มสาวมากขึ้น
ซึ่งพรีเซนเตอร์คนใหม่ ก็ไม่สร้างความผิดหวังให้กับโตโยต้า เพราะวันเปิดตัว มีแฟนคลับจำนวนมากมาเฝ้ารอตั้งแต่ก่อนสว่าง แต่แบมแบม มีกำหนดเดินทางมาช่วงเย็น และขึ้นโชว์เพลงช่วงค่ำ โดยไม่ได้เปิดโอกาสให้แฟนคลับเข้าไปในฮอลล์แต่อย่างใด แต่ก็ยังเฝ้ารอเพื่อดูการถ่ายทอดผ่านจอมิเตอร์ ที่โตโยต้า นำมาบริการ
และไม่รู้ว่าด้วยพรีเซ็นเตอร์ ตัวรถ โครงสร้างราคา หรือแคมเปญ ปรากฏว่า การตอบรับของ โตโยต้า ยาริส เอทีฟ สูงกว่าคาดในช่วงแรกของการเปิดตัว โดยผ่านไป 30 วันแรก มียอดจอง 21,300 คัน
ขณะที่ โตโยต้า ตั้งเป้าหมายการขายไว้เดือนละ 3,500 คัน
ทั้งนี้ ยาริส เอทีฟ เป็นรถในโครงการอีโค คาร์ เฟส 2 ซึ่งเสียภาษีสรรพสามิตในอัตรา 12%
เครื่องยนต์ Dual VVT-iE ขนาด 1.2 ลิตร 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 94 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 110 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 23.3 กิโลเมตร/ ลิตร
เกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i พร้อม Sequential Shift
ระบบช่วงล่างด้านหน้า แม็คเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังทอร์ชั่นบีมและคอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง
พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS
ดิสก์เบรก 4 ล้อ
มาตรฐาน มลพิษ EURO 5
โดยสเปคเด่นๆ ของแต่ละรุ่นประกอบด้วย
- รุ่น SPORT
ระบบ Push start / Smart entry ไฟหน้า Full LED ล้ออัลลอยทูโทนขนาด 16 นิ้ว พวงมาลัยปรับ ได้4 ทิศทาง โหมดการขับขี่ ECO / Normal / Power ควบคุมได้จากปุ่มบนพวงมาลัย
วิทยุหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับ Apple Car Play และ Android Auto
ที่วางแก้วน้ำ 4 ตำแหน่ง แผนคอนโซลหน้าบุด้วยวัสดุแบบนุ่ม
ระบบช่วยเหลือการขับขี่และความปลอดภัย ABS / EBD / BA / VSC / TRC / HAC / EBS
- รุ่น SMART
ไฟสำหรับขับขี่เวลากลางวันแบบ LED Light Guiding มาตรวัดแบบ Full digital วิทยุหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple Car Play และ Android auto ช่องเชื่อมต่อ USB 4 ตำแหน่ง
เบาะหนังสังเคราะห์ผสมผ้า เสาอากาศแบบครีบฉลาม
ระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense ประกอบด้วย ระบบความปลอดภัยก่อนการชน หรือ Pre-Collision System ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง (Lane Departure Alert) พร้อมพวงมาลัยช่วยดึงกลับ
ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนต้ว (Front Departure Alert) ระบบป้องกันการเหยียบคันเร่งผิดปกติ (Pedal Misoperation Control) กล้องบันทึกภาพหน้ารถ และกล้องมองหลัง
- รุ่น PREMIUM
ระบบไฟส่องสว่างหลังจากดับเครื่องยนต์ (Follow Me Home)
ไฟท้าย Full LED ไฟเลี้ยวแบบ Sequential
Ambient light 64 เฉดสี ที่คอนโซลหน้า ระบบกรองฝุ่น PM 2.5 พร้อมจอแสดงสถานะ
เบรกมือไฟฟ้า EPB พร้อม Auto Brake Hold
gเพิ่มระบบความปลอดภัยจากรุ่น SMART ด้วยกล้องมองรอบคัน (Panoramic View Monitor) สัญญาณเตือนกะระยะรอบคัน 6 ตำแหน่ง
ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกข้าง (Blind Spot Monitor) ระบบเตือนขณะถอยรถ (Rear Cross Traffic Alert) ปรับไฟสูงอัตโนมัติ ดิสก์เบรก 4 ล้อ
- รุ่น Premium Luxury
ภายในห้องโดยสาร ตกแต่งด้วยสีแดง ทั้งบริเวณคอนโซลหน้าและเบาะหนังแท้
Ambient light 64 เฉดสี ทั้งที่คอนโซลหน้า คอนโซลกลาง และแผงประตูด้านหน้า
ลำโพง Pioneer Premium 6 ตำแหน่ง