ทำไม "Lamborghini Urus Performante" อาจเป็น "ตัวเปลี่ยนเกม" ตลาดรถสปอร์ต

ในงานเปิดตัว Lamborghini Urus Performante ที่อิมแพ็ค อารีนา เมืองทองธานี ฟรานเชสโก้ สคาร์ดาโอนี่ ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท ออโตโมบิลี ลัมโบร์กินี ให้สัมภาษณ์ว่า ความท้าทายที่สุดในการผลิตรถรุ่น Urus Performante คือ การผลิตรถให้ดีกว่าเดิมและยกระดับมาตรฐานใหม่จากรุ่นก่อนหน้าอย่าง Urus รุ่นขายดีของลัมโบร์กินี ซึ่งมียอดขายประมาณ 2 หมื่นคันทั่วโลก

การยกระดับมาตรฐานในที่นี้ หมายถึงทั้งในแง่การออกแบบ การพัฒนาเครื่องยนต์ให้สมรรถนะสูงขึ้น การปรับปรุงอากาศพลศาสตร์ (แอโรไดนามิก) และลดน้ำหนักให้เบาขึ้น เพื่อให้ลูกค้าขับขี่สนุกขึ้น

สคาร์ดาโอนี่ เปิดเผยว่า เมื่อเทียบกับรุ่น Urus หรือรุ่นเดิมแล้ว รุ่น Urus Performante ถูกปรับให้มีความสูงลดลง 20 มิลลิเมตร และน้ำหนักเบาลง 47 กิโลกรัม พร้อมเพิ่มกำลังเครื่องยนต์สูงสุดที่ 666CV จากรุ่นเดิมซึ่งอยู่ที่ 650CV

"นอกจากนั้น Urus Performante ยังเหมาะสำหรับใช้ในครอบครัว เพราะมีที่นั่งแถวหลังเพิ่มมาจากรุ่น Urus ซึ่งมีเพียง 2 ที่นั่งแถวหน้า" สคาร์ดาโอนี่ กล่าว

สคาร์ดาโอนี่ มั่นใจว่า ในตลาดรถซูเปอร์คาร์ โดยเฉพาะในประเทศไทยรถรุ่น Urus Performante สามารถแข่งขันกับรถรุ่นอื่นๆ ในตลาดได้ และมีจุดเด่นมากกว่ารถคู่แข่งหลายด้าน

"เอกลักษณ์คือ ขับและนั่งสบายกว่ารุ่นอื่นๆ เป็นรถเอสยูวีที่ให้ความรู้สึกแบบขับรถสปอร์ตหรือซูเปอร์คาร์" 

 

อีกหนึ่งจุดเด่นของลัมโบร์กินีคือ "การดูแลลูกค้า" สคาร์ดาโอนี่ กล่าวว่า ลัมโบร์กินี ให้ความสำคัญกับลูกค้า เพราะลูกค้าเป็นศูนย์กลางของแบรนด์

"เรามีการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า ดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิดตามความต้องการของลูกค้า เราอยากให้ลูกค้าเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์และรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์ลัมโบร์กินี"

สำหรับตลาดประเทศไทย ลัมโบร์กินีเน้นเรื่อง Personalization หรือ Customize เมื่อลูกค้าซื้อรถแล้วต้องการอะไรก็จะปรับแต่งให้เหมาะกับตัวตนหรือสไตล์ของพวกเขา ดังนั้น รถลัมโบร์กินีที่วิ่งอยู่ในท้องถนนประเทศไทยสะท้อนถึงความแตกต่างและความไม่เหมือนใคร ซึ่งคนเหล่านี้เป็นกลุ่มลูกค้าของแบรนด์

นอกจากนี้ สคาร์ดาโอนี่ เปิดเผยถึงเป้าหมายของการผลิตรถรุ่น Urus Performante ว่า ลัมโบร์กินี เป็นบริษัทฯ ที่ไม่เคยหลับใหล และท้าทายตัวเองตลอดเวลาในการผลิตรถรุ่นใหม่ที่สมรรถนะดีขึ้นเรื่อยๆ จนกว่าจะประสบความสำเร็จ ขณะที่ Urus Performante ก็เป็นการยกระดับมาตรฐานของรถเอสยูวีในตลาด

"เราจะพัฒนารถรุ่นใหม่ที่ดียิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ และ Urus Performante ถือเป็นซูเปอร์เอสยูวีรุ่นแรกของโลก จนคู่แข่งต้องลงมาแข่งขันในเซกเมนต์นี้ด้วย" 

สำหรับ Urus Performante ขณะนี้มีจำหน่ายในประเทศไทยแล้ว หลังเปิดให้สั่งจองไปก่อนหน้านี้ โดยมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 25.49 ล้านบาท

สคาร์ดาโอนี่ ระบุว่า เรนาสโซ มอเตอร์ (Renazzo Motor) พันธมิตรสำคัญและผู้แทนจำหน่ายรถ ลัมโบร์กินี อย่างเป็นทางการรายเดียวในไทย ได้เปิดพรีออเดอร์รถรุ่นนี้ไปเมื่อหลายเดือนก่อน และน่าจะเริ่มส่งมอบรถให้ลูกค้าได้ตั้งแต่เดือนธันวาคมเป็นต้นไป