ปิดฉาก มอเตอร์ เอ็กซ์โป 36,679 คัน โตโยต้า นำโด่ง เบนซ์ เฉือน บีเอ็มฯ BYD มาแรง
มหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 39 ปิดฉากแล้วค่ำคืนนี้ (12 ธันวาคม) หลังเปิดฉากมาตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายนในรอบสื่อมวลชน โดย
โตโยต้า กวาดยอดสูงสุด 6,064 คัน นิสสัน ไต่อันดับ ขึ้น Top 5
โดยงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป หรือ มหกรรมยานยนต์ ปีนี้มีรถยนต์ 35 แบรนด์ รถจักรยานยนต์ 17 แบรนด์ และสินค้าอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมงานจำนวนมาก
นอกจากการแสดงรถยนต์ ผู้จัดยังมีกิจกรรมกระตุ้นหลายอย่าง ทั้งซื้อรถชิงรถ ซื้อจักรยานยนต์ชิงบิ๊กไบค์ ซื้อบัตรชิงรถ ซื้อสินค้าชิงรางวัล หรือชมงานผ่านช่องทางออนไลน์ ชิงรางวัลเป็นต้น
รวมถึงกิจกรรมดึงดูดคนร่วมงาน ไม่ว่าจะเป็นนิทรรศการสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย มุมมอเตอร์สปอร์ต มุมแสดงเรือ ลานทดลองนั่งยานยนต์ไฟฟ้า ลานทดลองขับรถยนต์รุ่นต่างๆ ที่ผู้ชมงานสนใจ
รวมถึงกิจกรรมทดลองใช้งานระบบช่วยเหลือที่ติดตั้งมากับตัวรถ เช่น ระบบถอยจอดอัตโนมัติ ระบบเบรกอัตโนมัติ กิจกรรม สปิริต ออฟ 4x4 ไดรฟ์วิ่ง สคูล ชุมนุมรถสวย หรือ นิทรรศการศิลปินน้อย ที่เปิดโอกาสให้เยาวชนได้แสดงฝีมือภาพวาดเกี่ยวกับรถยนต์
ซึ่งงานปีนี้ถือว่าคึกคักไม่น้อย จากการที่มีรถใหม่หลายรุ่นเปิดตัว และมีความเคลื่อนไหวของกลุ่มรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ อีวี ที่สร้างสีสันให้กับงาน
สำหรับการจัดงานปีนี้ ทางผู้จัด คือ บริษัท สื่อสากล จำกัด คาดหวังยอดจองรถยนต์ภายในงาน 37,000 หมื่นคัน รถจักรยานยนต์ 5,000 คัน เพิ่มขึ้น 15-20% จากงานปีที่แล้ว และมีเงินสะพัดประมาณ 5 หมื่นล้านบาท
ขณะเดียวกันบริษัทรถยนต์ต่างก็คาดหวังที่จะสร้างยอดจองภายในงานได้เป็นกอบเป็นกำ เพื่อเร่งสร้างยอดขายปลายปีให้เป็นไปตามเป้าหมาย ท่ามกลางความท้าทายหลายอย่างในช่วงเวลานี้ โดยฉพาะหลังจากที่ภาพรวมตลาดในเดือนตุลาคม สะดุดอย่างเห็นได้ชัด
ตลาดที่สะดุดเป็นผลมาจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาน้ำท่วมหลายพื้นที่ของประเทศ ทำให้ผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจซื้อรถออกไป ภาวะเงินเฟ้อ เป็นต้น
การที่ตลาดสะดุดทำให้หลายบริษัทมองว่าอาจมีผลทำให้ภาพรวมตลาดรถยนต์ปีนี้อยู่ในระดับ 8.8 แสนคัน ลดลงจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 9 แสนคัน แต่ก็เป็นตัวเลขที่เติบโตอย่างชัดเจนจากปีที่แล้วที่ทำได้ 7.59 แสนคัน
แต่ทั้งนี้หากมองในภาพรวม ก็เชื่อว่าตลาดรถยนต์ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี รวมถึงปี 2566 ที่คาดว่าตลาดจะขยายตัวต่อเนื่อง แม้ว่าตลาดจะมีทั้งปัจจัยบวกและปัจจัยลบก็ตาม
โดยปัจจัยลบ ยังมองที่ภาวะเงินเฟ้อ ส่วนปัจจัยบวกคือเห็นว่าหลายธุรกิจปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะท่องเที่ยวที่เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักของประเทศ และมีผลต่อเศรษฐกิจ ต่อจีดีพี ประเทศ ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจอื่นๆ อีกด้วย
ส่วนแนวทางการขึ้นดอกเบี้ย เชื่อว่าสถาบันการเงินจะสามรถบริหารจัดการได้ และจะไม่มีผลอะไรกับตลาดมากนัก
สำหรับ ยอดจอง มอเตอร์ เอ็กซ์โป โดยรวมตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน-12 ธันวาคม 2565 มีจำนวนทั้งสิ้น 36,679 คัน ซึ่งใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ 37,000 คัน ส่วนจักรยานยนต์มียอดจอง 6,080 คัน สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 5,000 คัน
โดย 10 อันดับผู้สร้างยอดจองสูงสุด ประกอบด้วย
- โตโยต้า 6,064 คัน
- ฮอนด้า 3,252 คัน
- บีวายดี 2,714 คัน
- อีซูซุ 2,648 คัน
- นิสสัน 2,478 คัน
- ซูซูกิ 2,464 คัน
- เอ็มจี 2,443 คัน
- มาสด้า 2,295 คัน
- เกรท วอลล์ 1,995 คัน
- ฟอร์ด 1,707 คัน
ส่วนในกลุ่มรถพรีเมียม เมอร์เซเดส-เบนซ์ มียอดจอง 1,597 คัน อยู่ในอันดับที่ 11 นำหน้าคู่แข่งสำคัญอย่าง บีเอ็มดับเบิลยู ที่มียอดจอง 1,234 คัน