ขออีก 8.8 พัน เข้าเป้ายอดจอง มหกรรมยานยนต์

โดยงาน มอเตอร์ เอ็กซ์โป หรือ มหกรรมยานยนต์ ปีนี้ ผู้จัดตั้งเป้ายอดจองรถยนต์ไว้ที่ 30,000 คัน ซึ่งป็นตัวเลขที่ต่ำกว่างานปีที่แล้วที่ทำได้ประมาณ 32,000 คัน เป็นการตั้งตามสถานการณ์โดยรวม โดยเฉพาะปัจจัยเกี่ยวกับโควิด-19 

ขณะเดียวกันบรรดาผู้ประกอบการต่างก็คาดหวังจะให้ได้ตัวเลขที่ดีที่สุด เพื่อปิดท้ายปี 2564 ให้ดีที่สุด อย่างน้อย ก็ไม่ต่ำกว่าปีที่แล้วที่ทำได้ 7.9 แสนคัน

ขณะที่ข้อมูลล่าสุด ระหว่างเดือนมกราคม-ตุลาคม 2564 ตลาดรถยนต์ติดลบประมาณ 2%

ทำให้ก่อนหน้านี้ ผู้ประกอบการออกมาประเมินภาพรวมที่แตกต่างกันไป ทั้งยอมรับว่าตลาดปีนี้จะติดลบ โดยอยู่ที่ 7.2-7.5 แสนคัน แต่บางคนก็ยังเชื่อมั่นพลังของ 2 เดือนสุดท้าย ว่าจะทำให้โดดขึ้นไปอยู่ที่ 8 แสนคัน หรือมากกว่านั้นได้เช่นกัน

และแน่นอน ผลงานในมหกรรมยานยนต์ เป็นหนึ่งในตัวช่วยที่จะทำให้ก้าวไปถึงจุดดังกล่าว 

และสำหรับข้อมูลล่าสุดของ มหกรรมยานยนต์ คือระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน  (รอบสื่อมวลชน และแขกรับเชิญ) ถึงวันศุกร์ที่ 10 ธันวาคมที่ผ่านมา มียอดจองรถยนต์แล้วทั้งสิ้น 21,119 คัน

เท่ากับว่าหากจะทำให้ได้ตามเป้า 30,000 คัน ในช่วง 2 วันสุดท้ายจะต้องมียอด 8,881 คัน หรือเฉลี่ยวันละประมาณ 4,440 คัน 

อาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะตลอด  11 วันที่ผ่านมา ยอดจองรายวันสูงสุดอยู่ที่ 3,010 คัน เท่านั้น 

แต่ก็อย่าประมาทพลังของ 2 วันสุดท้าย เพราะโดยปกติของงานในทุกๆ ปี ยอดจองจะมาพอกอยู่ช่วง 2 วันสุดท้าย โดยเฉพาะวันปิดงาน

ไม่ได้เป็นเพราะผู้บริโภคมองว่าวันสุดท้าย จะเป็นวันที่ได้ดีลดีที่สุดเพราะรู้กันดีว่าตลอดงานก็จะเหมือนกัน แต่เพราะรถยนต์เป็นสินค้าราคาสูง อีกทั้งมักจะมีตัวเลือกในใจมากกว่า 1 ทั้งต่างยี่ห้อ หรือยี่ห้อเดียวกันแต่ต่างรุ่น เมื่อพิจารณาดูแล้วว่าราคาไม่ต่างกันมาก อยู่ในช่วงที่รับไหว โดยเฉพาะเมื่อคิดออกมาเป็นค่าผ่อนชำระรายเดือนที่ไม่ต่างกันมากนัก

นอกจากนี้การซื้อรถแต่ละครั้ง ก็ยังมีความคิดเห็นที่หลากหลายของผู้ที่เกี่ยวข้อง ก็คือ ครอบครัว ดังนั้นการจะตัดสินใจซื้อของแต่ละคน จึงใช้เวลาพอสมควร ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี เพราะการซื้อรถแต่ละครั้ง ควรตกผลึกความคิดให้ได้มากที่สุด

และนอกจากหวังยอดจองในงาน สิ่งที่ผู้ร่วมงานต้องการมากกว่านั้นคือข้อมูลของลูกค้ากลุ่มหมายที่ได้จากงาน เพื่อการติดต่อให้มาเป็นลูกค้าในอนาคตหลังจบงานไปแล้วนั่นเอง และหากสามารถปิดดีลได้ภายในปีนี้ ก็จะมีส่วนช่วยผลักดันตัวเลขอีกทางหนึ่ง 

สำหรับตัวเลขยอดจองในงาน หลายคนอาจตั้งข้อสงสัยว่าเชื่อถือได้แค่ไหน ก็ต้องบอกที่มาว่า เป็นข้อมูลที่ได้จากคูปอง “ซื้อรถชิงรถ”
โดยลูกค้าที่จองรถในงานจะได้รับคูปองชิงโชค 1 ใบ ซึ่งรายละเอียดในคูปองก็จะระบุรายละเอียดว่า จองรถยี่ห้ออะไร รุ่นอะไรไว้ นั่นหมายถึงเป็นตัวเลขที่มาจากการจองจริง

แต่ว่าหลังจากจบงาน ผู้จองรถจะซื้อจริงอาจจะไม่ได้ครบ 100% ก็เป็นได้เช่นกัน 

สำหรับยอดจองล่าสุด 21,119 คัน ค่ายที่มียอดสูงสุดคือ โตโยต้า 3,953 คัน ตามมาด้วย ฮอนด้า 2,977 คัน อีซูซุ 2,492 คัน ขณะที่มาสด้า ก็ยังเป็นค่ายที่ทำได้ดีในงาน อีเวนท์ ขายรถ โดยครองอันดับ 4 ด้วยยอด 2,249 คัน และอันดับ 5 เป็นของ ซูซูกิ 1,402 คัน 

ฝั่งตลาดรถยุโรป ซึ่งปีนี้แข่งกันสนุกทีเดียว หลังจากที่ปี 2563 ที่ผ่านมา เมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่ครองตลาดมาตลอด 19 ปี พลาดท่าเสียแชมป์ให้กับคู่แข่งสำคัญ บีเอ็มดับเบิลยู ในปีที่ 20

แต่ปีนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ มั่นใจว่าจะสามารถกลับมาทวงความยิ่งใหญ่กลับคืนมาได้ 

ซึ่งข้อมูลล่าสุดในงานนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ มีตัวเลขที่สวยทีเดียว 999 คัน นำหน้าอยู่พอควร โดยบีเอ็มดับเบิลยู ทำได้ 638 คัน 

ต้องรอดูว่าตัวเลขของ 2 วันสุดท้ายจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งหรือไม่ โดยเฉพาะตลาดแมส ที่อันดับ 3 กับอันดับ 4 ห่างกันไม่มาก โอกาสจะแซงกันโค้งสุดท้ายก็มี หรือ โอกาสที่จะเติมคันเร่ง เพิ่มช่วงห่างก็เป็นได้เช่นกัน