'อีซูซุ' ISUZU จะทิ้งไทยไปอินโดฯ ส่องปูมหลัง เปิดรายได้กำไรล่าสุด
สร้างอาณาจักรในไทยแสนล้าน ค่ายรถยนต์ 'อีซูซุ' ISUZU จะทิ้งไทยไปอินโดนีเซีย ส่องปูมหลังความเป็นมา เปิดรายได้กำไรล่าสุด
น่าตกใจสำหรับบรรดาผู้ใช้รถ "อีซูซุ" ISUZU หลังมีข่าวจากต่างประเทศว่า นายอากัส กูมิวัง คาร์ตาซัสมิตา รัฐมนตรีอุตสาหกรรมของอินโดนีเซีย กล่าวว่า บริษัท อีซูซุ มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของญี่ปุ่น มีแผนที่จะโยกย้ายการผลิตรถยนต์จากโรงงานแห่งหนึ่งในประเทศไทยมายังอินโดนีเซีย โดยจะเริ่มการผลิตอย่างเร็วที่สุดในปีหน้า
คงต้องรอการแถลงของ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด อีกครั้งต่อกระแสข่าวดังกล่าว
รายได้กำไรอีซูซุปี 65
อีซูซุ มอเตอร์ ประเทศไทย มีรายรับรวมกว่า 222,107 ล้านบาท กำไร 17,182 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 85.12% ส่วนบริษัทขาย ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ ยังทำกำไรหลังหักภาษีได้ถึง 20,425 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.55%
ขณะที่ ตลาดรถยนต์ช่วงไตรมาสแรก 2566 มียอดขายรวม 217,073 คัน ลดลง 6.1% จากช่วงเดียวกันของปี 2565
ไตรมาสแรก 2566 ยอดขายรถอีซูซุในไทย 17,133 คัน ลดลง 21.4% ส่วนแบ่งตลาด 21.4% เป็นเบอร์ 2 ของตลาดรถยนต์ รองจากโตโยต้า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เพิ่งเปิดตัวรถบรรทุกไฟฟ้าอีซูซุ ครั้งแรกของโลกที่ประเทศญี่ปุ่น
เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา (2566) สำนักงานใหญ่อีซูซุในเมืองโยโกฮาม่า นายมาซาโนริ ทาคายามะ (Mr. Masanori Katayama) ประธานบริษัท อีซูซุมอเตอร์ (ประเทศญี่ปุ่น) จัดแถลงข่าวเกี่ยวกับนโยบายการขนส่งในอนาคต พร้อมการเปิดตัวรถบรรทุกรุ่นใหม่หมด “เอลฟ์” และ “ฟอร์เวิร์ด” และเปิดตัวรถไฟฟ้าตระกูล “เอลฟ์” เป็นครั้งแรกของโลก และแนะนำโปรแกรมโซลูชั่นส์ครบวงจร “EVision” สำหรับลูกค้ารถไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์โดยเฉพาะ
เนื่องจากอีซูซุเห็นว่าโลจิสติกส์ถือเป็นแกนหลักในการเติบโตของเศรษฐกิจ กลุ่มอีซูซุในฐานะผู้นำของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มีส่วนแบ่งการตลาดรถบรรทุกมากกว่าครึ่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น จึงมีส่วนรับผิดชอบสำคัญ ในการผลิตรถยนต์ที่มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น รวมทั้งการสร้าง “นวัตกรรม” เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้รถอีกด้วย
อีซูซุกำลังดำเนินการพัฒนาเทคโนโลยีเกี่ยวกับพลังงานทางเลือกหลายรูปแบบ เพื่อ “ปรับเร่งอนาคตของการขนส่ง” เนื่องจากประเทศต่างๆในโลกนี้ต่างมีสภาพแวดล้อมของตนเอง เช่น สาธารณูปโภคด้านพลังงาน สภาพถนน และกฎระเบียบต่างๆ
นอกจากนี้ยังมีลักษณะการใช้ ตลอดจนประเภทของสินค้าในการขนส่งที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับกลุ่มลูกค้า กล่าวคือ ยิ่งมีกลุ่มลูกค้ามากประเภท ความต้องการต่างๆก็ยิ่งหลากหลายมากขึ้น ความสะดวกสบายของลูกค้าต้องไม่ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนรถใหม่เท่านั้น อีซูซุจึงมีหน้าที่ที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าโดยนำเสนอรถรุ่นที่เหมาะสมที่สุดโดยไม่ลดออพชั่นต่างๆ หรือเรียกได้ว่าอีซูซุมอบ “อิสระในการเลือก” ให้แก่ลูกค้า สำหรับรถทุกประเภท ตั้งแต่รถปิกอัพจนถึงรถบรรทุกขนาดใหญ่
ครั้งนี้อีซูซุได้เปิดตัวรถบรรทุก “อีซูซุ เอลฟ์” รุ่นใหม่หมด พร้อมกับรถไฟฟ้า “อีซูซุ เอลฟ์” ที่หลายคนรอคอย ปีนี้นับเป็นปีแรก แห่งการก้าวสู่ยานยนต์ไฟฟ้าของอีซูซุ และวันนี้ก็เป็นโอกาสสำคัญที่กลุ่มอีซูซุจะแสดงทิศทางในอนาคตให้โลกรับรู้ รถบรรทุก “อีซูซุ เอลฟ์” นั้นเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2502 และถือเป็นรถรุ่นยอดนิยมที่มียอดขายเป็นอันดับ 1 ในประเทศญี่ปุ่นมานานกว่าครึ่งศตวรรษ และยังมีจำหน่ายในหลายประเทศอีกด้วย
ประวัติอีซูซุในประเทศไทย
อีซูซุ ผู้ดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายรถอีซูซุ ชิ้นส่วนอะไหล่อีซูซุ และซ่อมบำรุงรถอีซูซุ รวมทั้งวางแผนงานธุรกิจในประเทศไทย ผลิตภัณฑ์อีซูซุ ประกอบด้วย รถหัวลาก รถบรรทุกรถโดยสาร รถปิกอัพ ขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ และรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ขับเคลื่อน 2 ล้อและ 4 ล้อ โดยมีเครือข่ายการ จำหน่าย ศูนย์บริการและอะไหล่มากกว่า 300 แห่งทั่วประเทศ
ตลอดระยะเวลา 60 ปีที่ผ่านมา รถอีซูซุได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงในประเทศไทย โดยสามารถครองความเป็นผู้นำตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ได้อย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลาอันยาวนานด้วยคุณ ภาพที่ดีเยี่ยมตรงต่อความต้องการของตลาด รวมทั้งขอบข่ายการจำหน่ายและการบริการที่ดีเลิศครอบคลุมอยู่ทั่วประเทศ
- ปี 2500 รถบรรทุกอีซูซุคันแรกที่เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยในนามของบริษัท มิตซูบิชิ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้แทนในประเทศไทยของบริษัท มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น
- ปี 2506 เริ่มการประกอบรถอีซูซุในประเทศไทยโดยบริษัท มิตซูบิชิ (ประเทศไทย) จำกัด โดยได้รับความร่วมมือด้านเทคนิคจากบริษัท อีซูซุมอเตอร์ (ประเทศญี่ปุ่น)
- ปี 2509 ขยายโรงงานประกอบรถยนต์และจัดตั้งบริษัท อีซูซุ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่ อ.พระประแดง จ. สมุทรปราการ เพื่อรับผิดชอบการประกอบรถยนต์อีซูซุ ซึ่งเป็นการร่วมลงทุนระหว่างบริษัท มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น และบริษัท อีซูซุ มอเตอร์ (ประเทศญี่ปุ่น)
- ปี 2517 ธุรกิจอีซูซุขยายตัวอย่างรวดเร็ว จึงตั้งบริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เพื่อบริหารธุรกิจการจัดจำหน่ายและบริการหลังการขายทั่วประเทศ
- ปี 2528 ก่อนหน้านี้รถปิกอัพที่ใช้ในประเทศไทยเป็นแบบห้องโดยสารธรรมดาที่เรียกว่า “รถปิกอัพแบบตอนเดียว” ซึ่งเน้นการใช้พื้นที่บรรทุกกระบะหลังเป็นสำคัญ อีซูซุเป็นแบรนด์แรกที่แนะนำรถปิกอัพห้องโดยสารกว้าง โดยใช้ชื่อว่า “สเปซแค็บ” และทำให้กลายเป็นชื่อที่ใช้เรียกทั่วไปและได้รับความนิยมสูงสุดจนถึงบัดนี้ พร้อมภาพลักษณ์ของรถปิกอัพจากรถเพื่อการบรรทุกเป็นรถเพื่อใช้ได้ทั้งส่วนตัวและบรรทุก ในระยะต่อมาแบรนด์อื่นๆจึงได้ทยอยแนะนำรถปิกอัพห้องโดยสารกว้างในลักษณะเดียวกันออกสู่ตลาดจนครบทุกแบรนด์
- ปี 2529 อีซูซุเป็นผู้บุกเบิกเครื่องยนต์ดีเซลระบบ “ไดเร็คอินเจคชั่น” ในประเทศไทย หรือที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในชื่อย่อ “ดีไอ” (Di)
- ปี 2540 ยอดการผลิตรถอีซูซุในประเทศไทยทุกรุ่นครบ 1 ล้านคัน
- ปี 2545 รถปิกอัพ “อีซูซุดีแมคซ์” (Isuzu D-Max) เปิดตัวครั้งแรกในโลกที่เมืองไทย โดยสร้างปรากฏการณ์ที่สื่อมวลชนไทยขนานนามว่า “อีซูซุดีแมคซ์ ฟีเวอร์” ด้วยยอดจำหน่ายมากกว่า 10,000 คันภายใน 10 วันแรกของการออกสู่ตลาด
- ปี 2550 อีซูซุฉลองวาระพิเศษครบรอบ 50 ปีทองของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมกับการเติบโตอย่างก้าวกระโดดด้วย ยอดการผลิตรถอีซูซุในประเทศไทยทุกรุ่นครบ 2 ล้านคัน
- ปี 2555 ยอดการผลิตรถอีซูซุในประเทศไทยทุกรุ่นครบ 3 ล้านคัน ซึ่งเป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดดที่รวดเร็วที่สุดของอีซูซุทั่วโลก อีซูซุขยายการลงทุนโดยเปิดโรงงานแห่งที่ 2 ณ นิคมอุตสาหกรรมเกตเวย์ซิตี้ จ.ฉะเชิงเทรา
- ปี 2558 อีซูซุเป็นแบรนด์แรกในโลกที่แนะนำนวัตกรรมเครื่องยนต์ “อีซูซุ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์” นวัตกรรมเปลี่ยนโลก เครื่องยนต์ดีเซลขนาดต่ำกว่า 2,000 ซีซี ที่ใช้ในรถปิกอัพ ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ขนาดเล็กที่สุดแต่มีสมรรถนะดีเยี่ยมในทุกด้าน นั่นคือ ประหยัดน้ำมันสุด มีค่ามลพิษต่ำสุด แต่ให้กำลังแรงม้าสูงกว่าเครื่องยนต์ที่มีขนาดใหญ่กว่า
- ปี 2563 ยอดการผลิตรถอีซูซุในประเทศไทยทุกรุ่นครบ 5 ล้านคัน
- ปี 2565 การเปิดตัว “ISUZU FRR” “PERFECT PARTNER” ท้าทุกความสำเร็จ รถบรรทุก 6 ล้อขนาดกลาง เน้นความสะดวกสบายด้วยฟังก์ชั่นหลากหลายในแบบฉบับสุดยอดรถบรรทุกยุคใหม่ พร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 210 และ 190 แรงม้า การเปิดตัวรถบรรทุกตระกูลเอลฟ์ ขนาดกลาง 4 ล้อ และ 6 ล้อ “เป็นหนึ่งทุกความสำเร็จ…The Only One ELF” พร้อม ISUZU NLR 130 แรงม้า แบบเกียร์กึ่งอัตโนมัติ ISUZU Smoother