'มาริโอ้ เมาเร่อ' ปมฉาวรถโบราณ ดูเจตนา-เอกสารหลักฐาน
งานเข้าพระเอกดัง 'มาริโอ้ เมาเร่อ' ช่อง 3 ปมฉาวรถโบราณ รถสวมทะเบียน อัปเดตจากตำรวจ จะออกหมายเรียก ดูเจตนา-เอกสารหลักฐาน
ตรวจสอบ กรณีงานเข้าพระเอกดัง อย่าง มาริโอ้ เมาเร่อ ซุปตาร์ละครช่อง 3 ปมฉาวที่มารถโบราณ หลังเกิดประเด็นรถสวมทะเบียน อัปเดตจากตำรวจไซเบอร์ จะออกหมายเรียก ดูเจตนา-เอกสารหลักฐาน
ภายหลังปรากฎชื่อของ มาริโอ้ เมาเร่อ หรือ โอ้ นักแสดงและนายแบบลูกครึ่งไทย-จีน-เยอรมัน เกี่ยวพันซื้อรถโบราณสวมทะเบียน ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างการสืบสวน
ล่าสุดทางด้าน พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (รอง ผบช.ตำรวจไซบอร์) เปิดเผยว่า ขณะนี้ชุดทำงานอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานของคดีหลักทั้งหมด สำหรับในส่วนของมาริโอ้นั้น จะมีความชัดเจนในช่วงบ่ายวันนี้ ว่าจะสามารถเรียกเข้ามาให้ปากคำได้วันไหน แต่คาดว่าเร็วๆ นี้
ทั้งนี้ หากเจ้าตัวมาได้ ก็ไม่จำเป็นต้องออกหมายเรียกไป แต่ถ้าติดต่อไม่ได้ ก็จะต้องออกหมายเรียกไปตามขั้นตอนปกติ เนื่องจากเจ้าตัวต้องเข้ามาให้ปากคำ โดยมีพยานเป็นเอกสารพิมพ์เป็นลายลักษณ์อักษรด้วย
สำหรับการเรียกพูดคุยนั้น เพื่อดูเจตนาหลายอย่างมาประกอบ ว่ารู้เรื่องดังกล่าวหรือมีส่วนรู้เห็นด้วยหรือไม่ ซึ่งถ้าหากรู้อยู่แล้ว ว่ารถถูกทำมา ก็มีส่วนผิด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องดูพยานหลักฐานต่างๆ
เบื้องต้นก็ทราบว่าเจ้าตัวซื้อมาอีกทอดหนึ่งเหมือนกัน และเขาก็ไม่ได้มีเจตนาแบบนั้น
รอง ผบช.ตำรวจไซบอร์ กล่าวอีกว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ จะเรียกชุดทำงานและพนักงานสอบสวน เพื่อร่วมกันหารือและวางแนวทางในการขยายผลคดีนี้ ทั้งรถส่วนที่เหลือ และคนที่ขายรถให้ มาริโอ้ รวมถึงความชัดเจนว่าจะเรียก “มาริโอ้" เข้ามาให้ปากคำได้วันไหน ซึ่งต้องนำเอกสารหลักฐานมาแสดงทั้งหมด
มาริโอ้ เมาเร่อ รับ เป็น ดารา ม. ลั่นโดนหลอก
เมื่อวันก่อน มาริโอ้ เมาเร่อ ได้เปิดเผยกับสื่อถึงกรณี รถโบราณสวมทะเบียน ว่า มีโอกาสได้คุยได้ติดต่อกับทางตำรวจแล้ว เรื่องราวเริ่มจากที่ไปซื้อรถจากคนไว้เนื้อเชื่อใจกัน รุ่นพี่แล้วก็ไม่มีโอกาสได้ของ เขาก็คืนเงินมา แต่ทะเบียนมันเป็นชื่อตนไปแล้ว ก็คือมีทางตำรวจติดต่อมาว่ารถคันนี้มีปัญหา ก็อยากให้ปากคำแล้วพูดถึงว่าคันนี้มายังไง
ตกใจ แต่ว่าก็คุยกับทางพี่ตำรวจที่ดูแลคดีนี้ เขาบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วง เป็นผู้เสียหาย อยากจะให้มาให้ปากคำช่วยในรูปคดี
"โอ้ก็โดนหลอก รุ่นพี่ก็โดนหลอกมากด้วย ขั้นตอนหลังจากนี้ก็ไม่มีอะไร ทางคุณตำรวจที่ดูแลอยากให้โอ้ไปให้ปากคำเพื่อเป็นประโยชน์กับคดีครับ ไม่ได้กังวลครับ เพราะเราก็เป็นคนปกติอยากไปซื้อรถนี่แหละครับ แต่เราก็ไม่รู้ว่าต้นขั้วเขาไปทำอะไรมา"