Range Rover SV เริ่ม 16.9 ล้าน แต่งเพิ่ม จ่ายเพิ่มได้ กับ SV Bespoke
บริษัท อินช์เคป (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์จากัวร์และแลนด์โรเวอร์อย่างเป็นทางการ เสริมตลาด พรีเมียม เอสยูวี ส่ง Range Rover SV (เรนจ์ โรเวอร์ เอสวี) ลงตลาด เคาะราคาเริ่มต้น 16,999,000 บาท
อินช์เคป (ประเทศไทย) ระบุว่า Range Rover SV (เรนจ์ โรเวอร์ เอสวี) เป็นรถเอสยูวีที่มีแนวคิดในการพัฒนาให้เป็นรถที่มีความหรูหรา และสามารถการปรับแต่งเฉพาะตัว ด้วยบริการใหม่จาก SV Bespoke Service
ไม่วาจะเป็นการใช้วัสดุพิเศษเฉพาะ ธีมการออกแบบ รวมถึงขอบเขตการปรับแต่งที่มากขึ้นกว่าที่เคย ทำให้ลูกค้ามีทางเลือกสำหรับแนวทางในของตนเอง
ทั้งนี้ Range Rover SV สามารถกำหนดธีมการออกแบบได้ทั้งภายนอกและภายใน ได้แก่
- SV Serenity
- SV Intrepid
โดยทั้ง 2 ธีม จะตกแต่งด้วยสีและวัสดุที่งดงามในทิศทางที่แตกต่างกัน ในลักษณะของสีทูโทนที่ตัดกันระหว่างด้านหน้าและด้านหลังด้วยวัสดุพิเศษ คือ โลหะชุบมันเงา เซรามิกเนื้อเรียบ งานประดับกระเบื้อง โมเสค และหนังอะนิลีน
นอกจากนี้ลูกค้า Range Rover SV ยังสามารถเลือกสีมาตรฐานของ Range Rover หรือสีเพิ่มเติมได้ 14 สีใน SV Bespoke Premium Palette ซึ่งรวมถึงสีเคลือบเงาและสีซาติน
ขณะที่รายละเอียดภายในห้องโดยสารมีเฉดสีวัสดุให้เลือก 391 เฉดสี ส่วนชุดสี SV Bespoke ประกอบด้วยสีซาตินและเคลือบเงามากกว่า 230 สี และบริการ Match to Sample ทำให้ลูกค้าสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้ สามารถเข้าถึงวัสดุได้ตามต้องการ ทั้งการตกแต่งภายในและภายนอก
"การทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญของ SV ลูกค้าจะปฏิบัติตามกระบวนการสร้างสรรค์และขั้นตอนที่มีเอกลักษณ์ โดยพิจารณาจากสี ธีม ตัวเลือก พิเศษเฉพาะของ SV วัสดุ และการตกแต่งขั้นสุดท้าย"
การใช้วัสดุที่พิเศษ ถือเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความแตกต่าง โดยเฉพาะการใช้เซรามิกในการผลิตตราสัญลักษณ์ SV สีดำที่อยู่ด้านท้าย โดยใช้เทคนิคในการผลิตแบบเดียวกับที่ใช้ผลิตหน้าปัดนาฬิกาหรู และเป็นครั้งแรกที่ใช้วิธีการดังกล่าวกับภายนอกรถยนต์
ขณะที่ภายในห้องโดยสาร แบบ 4 ที่นั่ง เบาะคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้าได้ 24 ทิศทาง พร้อมฟังก์ชันนวด ขณะที่โต๊ะ Club Table ปรับใช้ด้วยระบบไฟฟ้า โดยจะยกสูงขึ้นจากคอนโซลกลางที่มีความยาวแบบเต็มพื้นที่ตั้งแต่ด้านหน้าถึงด้านหลัง ซึ่งซ่อนฟังก์ชั่นการใช้งานไว้จนกว่าจะถึงเวลาที่ต้องการได้แนบเนียน เพื่อไม่ให้รบกวนพื้นที่อื่นๆ
ที่วางแก้วสามารถเลื่อนขึ้นจากใต้แผ่นฝาปิด ขยายไปถึงประตูตู้เย็นแบบเปิดด้วยไฟฟ้า ซึ่งควบคุมโดยใช้ตัวควบคุมบนหน้าจอสัมผัสที่เบาะหลังขนาด 8 นิ้ว โดยมีช่องที่ใส่ขวดแชมเปญได้และสามารถทำความเย็นได้เร็วขึ้น
คอนโซลกลางมีพื้นที่ซ่อนไว้สำหรับเก็บของมีค่า ติดตั้งอุปกรณ์ชาร์จไร้สาย การเชื่อมต่อ USB ช่องจ่ายไฟ 12V และปลั๊กไฟแบบที่ใช้ภายในบ้าน อยู่ใต้ที่วางแขนตรงกลางด้านหลัง
ที่นั่งด้านหลัง มีจอขนาด 13.1 นิ้ว ให้ใช้ ซึ่งเป็นจอที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดา Range Rover ทุกรุ่น พร้อมหูฟัง ที่ปรับให้มีความคมชัดเพิ่มขึ้น
Range Rover SV ใช้ขุมพลัง ปลั๊ก-อิน ไฮบริด (PHEV) โดยใช้เครื่องยนต์เบนซิน ความจุ 3.0 ลิตร Turbocharged กับมอเตอร์ไฟฟ้า
- กำลังสูงสุด 460 แรงม้า
- แรงบิดสูงสุด 550 นิวตัน-เมตร
เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ (iAWD) ควบคุมโดยระบบ Intelligent Driveline Dynamics (IDD) ซึ่งทำงานด้วยการตรวจสอบระดับการยึดเกาะและการสั่งการของผู้ขับขี่ 100 ครั้งต่อวินาที เพื่อคาดการณ์การกระจายแรงบิดระหว่างเพลาหน้ากับเพลาหลัง และกระจายไปทั่วเพลาหลัง
ระบบขับเคลื่อน Dynamic Response Pro รุ่นล่าสุดที่จะรักษาระดับสมดุลของตัวรถให้ขนานไปกับถนนในขณะเข้าโค้ง ระบบ Terrain Response ที่เพิ่มฟังก์ชัน Adaptive Off-Road Cruise Control สำหรับการรักษาความเร็วอัตโนมัติในเส้นทาง ออฟโรด
ส่วนเงื่อนไขการจำหน่ายของอินช์เคป คือ Range Rover Care นาน 5 ปี ประกอบด้วย
การรับประกันคุณภาพ บริการบำรุงรักษาตามระยะ และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน 24 ชั่วโมง ระยะเวลา 5 ปี ส่วนลูกค้าที่ซื้อรถภายในปีนี้ จะได้สิทธิ์เยี่ยมชมโรงงาน ณ ประเทศอังกฤษ ระยะเวลา 3 วัน 2 คืน