BMW X3 xDrive 30e M Sport  อัตราเร่ง-ช่วงล่าง ไว้ใจได้ เหมือนเดิม

และสำหรับ BMW X3 xDrive 30e M Sport เวอร์ชั่นล่าสุดที่ผ่านการปรับโฉม หรือ LCI มาก่อนหน้านี้ มีหน้าตาที่ดูโฉบเฉี่ยว คม

แนวทางการออกแบบของ X3 ให้อารมณ์สปอรฺ์ต ด้านหน้าดุดันกว่าเพื่อนพี่น้องในตระกูล กระจังหน้าขนาดใหญ่เป็นเอกลักษณ์ และอารมณ์ร่วมกับรูปทรงไฟหน้าได้ดี 

ไฟหน้าเป็นแบบ Adaptive LED ส่องได้ระยะทางไกลสุด 600 ม. พร้อมกับการปรับเปลี่ยนลำแสงอัตโนมัติ ช่วยให้การขับขี่ในยามค่ำคืนทำได้ง่ายขึ้น จากความสามารถในการปรับลำแสงให้เหมาะสม ส่องได้กว้าง ส่องได้ไกล เลี่ยงจุดที่รบกวนผู้อื่น เช่น รถคันอื่น หรือว่าคนเดินเท้าก็ตาม 

รูปทรงตัวถังด้านข้าง และด้านท้าย มีเส้นสายที่ชัดเจน คม ขณะที่ฝาท้ายเปิด-ปิด ด้วยไฟฟ้า พร้อมกับ คิก เซ็นเซอร์ เพิ่มความสะดวกในการขนสัมภาระที่พะรุงพะรุ่งขึ้น-ลง รถ  

และที่บริเวณห้องเก็นสัมภาระท้ายรถ บีเอ็มดับเบิลยู ให้อุปกรณ์สายพ่วงชาร์จเอาไว้ให้โดยใส่ไว้ในถุงผ้าเก็บมิดชิด แต่ถ้าหากออกแบบให้อยู่ในกล่องที่เข้ารูปน่าจะดีกว่านี้ 

รูปทรงโดยรวมของรถดูลงตัว ไม่เล็กเกิน ไม่ใหญ่เกิน ใช้งานในเมืองก็คล่องตัว เดินทางไกลก็สะดวกสบาย สำหรับครอบครัวย่อมๆ ยกเว้นใครที่อยากได้คันใหญ่จริง หรือ มีครอบครัวขนาดใหญ่ ก็คงต้องขึ้นไปเล่นรุ่นพี่อย่าง X5 หรือไม่ก็ X7 ไปเลย 

ทั้งนี้ เอ็กซ์ 3 มีขนาดความยาวตัวถัง 4,716 มม. 

• ความกว้าง 1,897 มม. 
• ความสูง 1,676 มม. 
• ระยะฐานล้อ 2,864 มม.

ความสูงใต้ท้องรถ หรือ ground clearance 204 มม. ก็รองรับการขับขี่นอกถนนได้ระดับหนึ่ง ทั้งทางดิน หิน ทางชรุขระ เป็นหลุมเป็นบ่อ รวมถึงการขับลุยน้ำหากจำเป็น เช่น กรุงเทพฯ หน้าฝน 

ภายในห้องโดยสาร ก็ยังคงเอกลักษณ์ของบีเอ็มดับเบิลยูเอาไว้ไม่ว่าจะเป็นการดีไซน์อย่างไรก็ตาม โดยทุกอย่างรอบตัวจะโอบเข้าหาผูัขับขี่ให้ความรู้สึกเป็นพื้นที่ส่วนตัวมากขึ้น พร้อมที่จะควบคุมขับขี่รถคันนี้ไปไหนก้ได้ 

การจัดวางตำแหน่งเบาะนั่ง พวงมาลัย แป้นเหยียบต่างๆ ช่วยให้รู้สึกสบาย คุมรถได้ง่าย พวงมาลัยมีความแม่นยำสูง และมีขนาดที่จับได้กระชับมือ 

แผงคอนโซลหน้าขนาดใหญ่ คอนโซลกลางก็ใหญ่เช่นกัน เบาะนั่งหนังแท้เนื้อดี โดยเบาะคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้า และมีระบบจดจำตำแหน่ง 2 ตำแหน่ง เพิ่มความสะดวกหากรถคันนั้นมีผู้ขับขี่มากกว่า 1 คน 

หลังคาพาโนรามิค ซันรูฟ เพิ่มความโปร่งโล่งภายในห้องโดยสารในช่วงแดดร่วมลมตก หรือ สูดอากาศในวันที่อากาศดี ไม่มีแดด ไม่ร้อน และไม่มีมลพิษมากเกินไ อาจจะหายากสักหน่อย แต่ก็มีแหละหากหนีเมืองออกไปสักนิด

หน้าจอสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว รวมการควบคุมหลายอย่างเอาไว้ และแสดงภาพแสดงผลต่างๆ ที่ชั้ดเจน พร้อมระบบเกสเตอร์ (BMW Gesture Control) เอาไว้ควบคุมหลายอย่าง เช่น ระดับเสียง การเปลี่ยนแทรคเพลง เปลี่ยนคลื่น ด้วยการเคลื่อนไหวมือ หรือ นิ้ว ตามที่กำหนด กลางอากาศ เพื่อช่วยให็ผู้ขับไม่ต้องเสียสมาธิละสายตาลงมองหน้าจอ หรือหาปุ่มปรับต่างๆ

รวมถึงยังมีระบบแสดงข้อมูลที่กระจกบังลมหน้าหรือ HUD ช่วยให้ผู้ขับมีสมาธิเพิ่มขึ้นอีกทาง

X3 xDrive 30e M Sport ติดตั้งเครื่องเสียง Harman Kardon ให้คุณภาพเสียงที่มีมิติ นุ่มลึก ช่วยเพิ่มความสุนทรีย์ในการเดินทางได้อีกทาง

เป็นรถที่รองรับการใช้งานทั้งทางเรียบ และเส้นทางออฟโรด ที่มีการออกแบบโครงสร้างตัวถัง และฟังก์ชั่นหลายอย่างให้เลือกใช้ รวมถึงฟังก์ชั่นช่วยเหลือการขับขี่ที่ทำให้ผู้ขับ ขับขี่ได้ง่ายขึ้น

แต่ว่าคราวนี้เป็นการลองขับแบบว่ากันด้วยทางเรียบล้วนๆ

BMW X3 xDrive 30e M Sport เป็นรถปลั๊ก-อิน ไฮบริด (PHEV) ทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน BMW TwinPower Turbo 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร ร่วมกับ มอเตอร์ไฟฟ้า 

• กำลังรวมกันสูงสุด 292 แรงม้า
• แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร 
• ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด

และสำหรับการขับขี่ด้วยโหมดไฟฟ้าอย่างเดียว มอเตอร์ไฟฟ้าตอบสนองได้ดี ให้สมรรถนะเพียงพอ ทั้งจังหวะการออกตัวและอัตราเร่งที่รวดเร็วใช้ได้ จังหวะเปลี่ยนความเร็วทันอกทันใจ 

และความเร็วสูงสุดของการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าอย่างเดียวทำได้ที่ 140 กม./ชม. ถือว่าเพียงพอ เพราะการใช้งานจริง ความเร็วที่กฎหมายกำหนดก็แค่ 120 กม./ชม. เท่านั้น และการไล่ความเร็วขึ้นไป ก็ต่อเนื่อง ไม่มีจังหวะสะดุด 

เรียกว่ามอเตอร์อย่างเดียวก็รองรับได้ และขับได้สนุก ดังนั้นหากแต่ละวันชาร์จไฟเต็มที่แล้ว ก็สามารถเลือกใช้โหมด EV อย่างเดียวก็ได้ เพียงแต่ว่าระยะทางการใช้งานสั้นไปหน่อยประมาณ 30 กม.

และก็รองรับการชาร์จแบบปกติ หรือ AC Charge เท่านั้น 

ดังนั้นโหมดนี้น่าจะเหมาะกับคนเมืองที่การเดินทางระหว่างบ้านกับออฟฟิศที่มีระยะทางไม่ไกลนัก

ขณะที่การทำงานโดยรวมของระบบไฮบริด ก็ไม่เสียดีเอ็นเอของ บีเอ็มดับเบิลยู ขับได้สนุก ได้อารมณ์สปอร์ต ด้วยความที่กำลังเรียกมาได้อย่างต่อเนื่อง ลื่นไหล และจังหวะการเปลี่ยนการส่งต่อการสลับโหมดอัตโนมัติ ทั้งเครื่องยนต์ มอเตอร์ หรือ ช่วยกัน ก็ทำได้เนียนไม่รู้สึกถึงรอยต่อ

แรงบิดเป็นสิ่งที่โดดเด่นของรถคันนี้ เพราะจังหวะการปรับเปลี่ยนความเร็ว เหมาะกับการขับขี่ในบ้านเราที่ต้องเปลี่ยนช่องทาง เปลี่ยนความเร็วกันบ่อยครั้ง และการใช้โหมดขับขี่แบบนอร์มอลก็สนุกได้แล้ว แต่ถ้าอยากได้ความดุเดือด ก็เลือก สปอร์ต ซึ่งจะได้อารมณ์การตอบสนองที่ตกต่างก้นชัดเจน อัตราเร่งมาเร็วมาก

แต่จุดที่เด่นกว่า ก็น่าจะเป็นเรื่องของช่วงล่าง M Suspension ที่น่าจะปรับการเซ็ทมาบางส่วนเมื่อครั้ง LCI เป็นช่วงล่างที่ต่อนข้างสมดุล คือ ดูดซับแรงสั่นสะเทือนได้ดี ผู้โดยสารชอบ จังหวะรีบาวน์ดน้อย 

เห็นได้ชัดเจนกับเส้นทางมอเตอร์เวย์มุ่งหน้าพัทยา ที่มีสะพานหลายจัดที่หากรถมาด้วยความเร็วก็เหมือนปีนขึ้นเนินแล้วลงมาอย่างรวดเร็ว ถ้าช่วงล่างไม่แน่พอ ก็อาจจะได้เห็นอาการกระแทก และรีบาวนด์หายจังหวะ รวมถึงบางทีก็มอาการร่อนช่วงลง ทำให้ก่อนขึ้นคอสะพาน หากเห็นว่ามีความสูงพอควร ก็ต้องเบรกหนักๆ 

แต่กับ X3 มาแบบไหนก็ไปแบบนั้นได้เลย ระวังแต่คันหน้าจะเบรกหนักหน่อยเท่านั้น ดังนั้นต้องล่วงหน้าให้ไกลๆ และต้องมั่นใจว่าจะไม่มีใครเปลี่ยนเลนตัดหน้าช่วงลงคอสะพาน

ขณะที่การขับขี่แบบที่ต้องเปลี่ยนช่องทางไปมาที่ต้องทำกันแทบจะตลอดเส้นทางกว่าจะถึงที่หมาย ถ้าไม่อยากผิดนัด ช่วงล่างของ X3 เข้ามาช่วยจัดการเรื่องนี้ได้สมหน้าที่ 

เพราะจังหวะโยกซ้ายย้ายขวา รถแทบไม่มีอาการโยนตัว บิดตัวของตัวถัง นั่นทำให้ง่ายต่อการควบคุมของผู้ขับขี่ ทั้งเกี่ยวกับกายภาพของรถไม่โยนไปมา ไม่ไถลออกซ้ายขวา และเกี่ยวผู้ขับขี่เอง ที่มีสมาธิกับเส้นทาง มองหาช่องที่จะไปช่องที่จะออกได้อย่างรวดเร็วแม่นยำ เพราะไม่ต้องไปพะวงกับอาการของรถ

ทำให้ BMW X3 xDrive 30e M Sport เป็นรถที่ขับไกลๆ นานๆ และต้องใช้สายตาในการหาช่องว่าง กับมือที่ต้องหมุนพวงมาลัยไปมาแทบจะตลอดเวลา ไม่รู้สึกเหนื่อยกับการขับครับ