Future For All ความเท่าเทียม บู๊ธ เมอร์เซเดส-เบนซ์ งาน มหกรรมยานยนต์
งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 40 ยังคงดำเนินไปอย่างเข้มข้น มีรถให้เลือกชมเลือกซื้อกันจำนวนมากแต่ก็มีบางเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับรถโดยตรง ที่น่าสนใจ เช่น แนวทางการออกแบบ บู๊ธ
หนึ่งในบู๊ธที่น่าสนใจในงานมหกรรมยานยนต์ เช่น เมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่จัดขึ้นด้วยแนวคิด “FUTURE FOR ALL” ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงความเท่าเทียมของลูกค้าที่มีความหลากหลาย
เมอร์เซเดส-เบนซ์ การออกแบบบูธให้ไม่มีทางต่างระดับแบบ Universal Design เพื่อให้ผู้สนใจทุกคนเข้าถึงบูธเมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้อย่างสะดวก
มาร์ทิน ชเวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า คอนเซ็ปต์ “FUTURE FOR ALL” เป็นการย้ำจุดยืนในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น
- ความหลากหลาย (Diversity)
- ความเท่าเทียม (Equity)
- การเคารพถึงความแตกต่าง (Inclusion)
ดังนั้นการออกแบบครั้งนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ จึงตัดสินใจนำทางต่างระดับของบูธออกไปและทำให้ดีไซน์ของบูธตรงตามหลักการออกแบบอย่างเท่าเทียม ซึ่งจะรองรับการเข้าถึงของผู้ที่ใช้วีลแชร์
ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มผู้พิการ ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีลูกเล็กและใช้รถเข็นเด็ก
ขณะเดียวกันด้านผลิตภัณฑ์ภายในบู๊ธ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ก็นำเสนอความหลากหลายของรถ นำเสนอโมเดลรถรใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการที่หลากหลายและมีไลฟ์สไตล์การใช้งานที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น
- เอสยูวีรุ่นขายดีตลอดกาลของเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่าง GLC ใหม่ ที่เสริมไลน์อัพด้วยเครื่องยนต์ดีเซล และ Mild Hybrid ในรุ่น “GLC 220 d 4MATIC Avantgarde”
- EQE 350 4MATIC SUV Electric Art รถเอสยูวีพลังงานไฟฟ้า (EV) รุ่นเริ่มต้นจากตระกูล EQE SUV ที่ขับขี่ได้ไกล 558 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็ม
- GLE 300 d 4MATIC AMG Dynamic เอสยูวี พรีเมียม
- C 220 d AMG Line รุ่นย่อยล่าสุดจาก The new C-Class
GLC 220 d 4MATIC Avantgarde มีค่าตัว 3,720,000 บาท เครื่องยนต์ดีเซล รหัส OM654M 4 สูบ แถวเรียง ขนาด 1,993 ซีซี turbochargers ทำงานคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ ISG (Integrated starter generator) แบตเตอรี่แบบ 48V on-board electrical system
มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังได้สูงสุด 17 กิโลวัตต์ หรือประมาณ 23 แรงม้า ทำให้กำลังโดยรวมของรถอยู่ที่ 197 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลา 8 วินาที จับคู่กับระบบส่งกำลังแบบ 9G-TRONIC
EQE 350 4MATIC SUV Electric Art ราคา 4,850,000 บาท เป็นทางเลือกใหม่ หลังจากก่อนหน้านี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัว EQE SUV ไปแล้ว ในรุ่นท็อป รุ่นท็อป “EQE 350 4MATIC SUV AMG Dynamic” และรุ่นกลาง “EQE 350 4MATIC SUV AMG Line”
ทุกรุ่นใช้มอเตอร์ไฟฟ้าคู่แบบ PSM (Permanently Excited Synchronous Motors)
- กำลังสูงสุด 292 แรงม้า
- แรงบิดสูงสุด 765 นิวตันเมตร
- อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง 6.6 วินาที
- แบตเตอรี่แรงดันสูง 396V แบบ Lithium-ion ความจุ 89 kWh
- ระยะทางขับขี่สูงสุด 558 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน WLTP
EQE SUV รองรับการชาร์จพลังงานไฟฟ้าแบบกระแสตรง (DC Charge) สูงสุด 170 kWh ใช้เวลาชาร์จจาก 10 – 80% 32 นาที
การชาร์จแบบกระแสสลับ (AC Charge) รองรับสูงสุด 11 kWh ชาร์จจาก 0 – 100% ใช้เวลา 9 ชั่วโมง 30 นาที
GLE 300 d 4MATIC AMG Dynamic ราคาจำหน่าย 5,590,000 บาท เครื่องยนต์ดีเซล OM654M 4 สูบแถวเรียงขนาด 1,993 ซีซี turbochargers
ทำงานคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ ISG (Integrated starter generator) แบตเตอรี่แบบ 48V on-board electrical system ให้พละกำลังสูงสุด 15 กิโลวัตต์ หรือประมาณ 20 แรงม้า
- กำลังรวมสูงสุด 269 แรงม้าที่ 4,200 รอบ/นาที
- แรงบิดสูงสุด 550 นิวตันเมตร ที่ 1,800-2,200 รอบ/นาที
- อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง 6.9 วินาที
C 220 d AMG Line ราคา 2,880,000 บาท เครื่องยนต์ดีเซล รหัส OM654M 4 สูบแถวเรียง ขนาด 1,993 ซีซี turbochargers ทำงานคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ ISG (Integrated starter generator) พร้อมแบตเตอรี่แบบ 48V ให้กำลัง 17 กิโลวัตต์ หรือประมาณ 23 แรงม้า
- กำลังรวมสูงสุด 197 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที
- แรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร ที่ 1,800 – 2,800 รอบ/นาที
- อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง 7.3 วินาที
นอกจากรถเด่น 4 รุ่น แล้ว ยังมีรถอีกหลายๆ รุ่นที่ร่วมบู๊ธ รวมถึงการจัดแสดง กล้อง
Mercedes-Benz Drive Recorder 360 องศา สามารถบันทึกเหตุการณ์ต่างๆ รอบตัวรถในระหว่างการเดินทางและขณะจอดรถ โดยประกอบไปด้วยกล้อง 3 ตัว ได้แก่
- กล้องด้านหน้า QHD
- Surround sQHD
- กล้องด้านหลัง FHD
กำหนดวางจำหน่ายวันที่ 4 ธันวาคม 2566 ราคาแนะนำ 19,000 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ไม่รวมค่าแรงในการติดตั้ง