ราคาดี! มิตซูฯ Xpander HEV ไฮบริด อัด 7 โหมด ลุยโคลนได้ ค่าตัวเท่าเดิม

ล่าสุด มิตซูบิชิ เปิดตลาด ไฮบริด ในกลุ่มตลาดรถเล็กอย่าง “เอ็กซ์แพนเดอร์” และ “เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส”

โดยเปิดตัวเอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี (Xpander HEV) และ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี (Xpander Cross HEV) เป็นครั้งแรกของโลก 

ทั้ง 2 รุ่น ผลิตจากโรงงานแหลมฉบัง ประเทศไทย ขณะที่รุ่นที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร อย่างเดียว (ICE) ที่ทำตลาดในปัจจุบัน เป็นการนำเข้าจากอินโดนีเซีย ภายใต้สิทธิพิเศษด้านภาษี จากเขตกาารค้าเสรีอาเซียน หรือ AFTA

สำหรับ HEV ปรับมาใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.6 ลิตร 

• กำลังสูงสุด 95 แรงม้า (ตัวเดิม 105 แรงม้า)
• แรงบิดสูงสุด 134 นิวตันเมตร ตัวเดิม (141 แรงม้า) 

แต่จุดเด่นของ HEV คือ การทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ที่มีสมรรถนะค่อนข้างสูง 

• กำลังสูงสุด 116 แรงม้า 
• แรงบิดสูงสุด 255 นิวตันเมตร 

ซึ่ง HEV ของตระกูล เอ็กซ์แพนเดอร์ เป็นฟูล ไฮบริด นั่นหมายถึงการขับขี่จริง จะใช้จากมอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนค่อนข้างมาก

นอกเหนือจากจุดเด่นด้านระบบไฮบริดแล้ว สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งคือ ระบบขับเคลื่อนที่ มิตซูบิชิ ใส่มาให้ถึง 7 โหมด คือ

• CHARGE สำหรับการชาร์จไฟเก็บในแบตเตอรี ก่อนนำมาใช้ในช่วงที่้องการ
• EV-PRIORITY จะเลือกใช้พลังงานจากเบตเตอรีเป็นหลัก
• NORMAL การขับขี่ทั่วไป 
• WET สำหรับการขับขี่บนพื้นเปียก หรือทางลื่น

• GRAVEL สำหรับทางลื่น เช่น ทางดิน ทางหิน กรวด ทราย 
• Terrain Modes สำหรับการขับขี่ทางโคลน ซึ่งระบบนี้จะจัดการล็อคการส่งกำลังล้อคู่หน้าโดยอัตโนมัติ หรือ ดิฟ ล็อค ทำให้สามารถผ่านอุปกสรรคอย่างทางโคลนได้ เพื่อตอบสนองการใช้งานของคนไทย ที่เห็นว่าในหลายพื้นที่ต่างจังหวัด ไม่ได้มีทางลาดยาง หรือ ทางปูนซีเมนต์ เสมอไป ทำให้เป็นอุปสรรคในการเดินทางช่วงหน้าฝน 
• TAMAC สำหรับการขับขี่แบบอารมณ์สปอร์ต เหมาะกับการขับขี่ที่ความเร็วสูง

โดยราคา Xpander HEV มิตซิบิชิตั้งค่าตัวเท่ากับรุ่น ICE ที่จำหน่ายในปัจจุบัน ทั้ง Xpander GT ซึ่งเป็นรุ่นท็อป และ Xpander Cross ประกอบด้วย 

• Xpander HEV 912,000 บาท
• Xpander Cross HEV 946,000 บาท

มิตซูบิชิ ยืนยันว่าสำหรับราคาจำหน่ายดังกล่าว อย่างน้อยจะยืนถึงวันที่ 7 เมษายน 2567 จากนั้นจึงพิจารณาอีกครั้งว่าจะปรับเปลี่ยนหรือไม่อย่างไร 

สำหรับ Mitsubishi Xpander เปิดตัวครั้งแรกในอินโดนีเซีย ปี 2562  และได้รับการตอบรับที่รวดเร็ว ก่อนนำเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีเช่นกัน จนทำให้รถขาดตลาดในช่วงแรก ต้องรอสินค้าหลายเดือน 

หลังจากนั้นจึงเสริมตลาดด้วย Xpander Cross ที่ปรับรูปโฉมให้ดุดันขึ้น มีอารมณ์ เอสยูวีมากขึ้น และมีระยะห่างจากพื้นถนนถึงใต้ท้องรถเพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มความสามารถในการขับขี่นอกถนน 

ปัจจุบัน Xpander มียอดจำหน่ายสะสมทั่วโลกกว่า 650,000 คัน 

อย่างไรก็ตาม เมื่อมิตซบิชิ พัฒนาระบบไฮบริด หรือ HEV ให้กับ Xpander ได้ตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้ไทย เป็นฐานการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศและส่งออก และได้เปิดตัวในไทยเป็นครั้งแรกของโลก (World Preimier) วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567