Hyper SSR อีวี 1,224 แรงม้า ไม่พยศสักตัว  

Hyper SSR อีวี 1,224 แรงม้า ไม่พยศสักตัว  

GAC AION (จีเอซี ไอออน) เข้ามาทำตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) ในไทยรุ่นแรก คือ วาย พลัส แม้จะขลุกขลักบ้างในช่วงแรก ทั้งด้านราคา และการตลาด แต่เมื่อปรับแล้ว ยอดขายวาย พลัส ก็ได้เป็นน้ำเป็นเนื้อทีเดียว และช่วงหลังก็รู้สึกเหมือนว่า พร้อมบวก กับใครก็ได้ ในสงครามราคา

หลังจากทำตลาดด้วย ไออน วายพลัส สักระยะ GAC AION (จีเอซี ไอออน) ก็เสริมตลาดรุ่นที่ 2 ที่คือ อีเอส เริ่มต้นช่วงแรกด้วยการเข้าสุ่ตลาดแท็กซี่ แต่ว่าที่สุดแล้วก็เปิดจำหน่ายให้กับประชาชนทั่วไป 

แต่ช่วงปลายปี 2566  ไอออน ก็เติมสีสันให้กับตนเองและตลาดด้วยการเปิดแบรนด์ใหม่ “ไฮเปอร์” (Hyper) เป็นแบรนด์พรีเมียม พร้อมเปิดรับจอง อีวี ตัวแรงอย่าง เอสเอสอาร์ (SSR) ด้วยราคาเริ่มต้น 7.89 ล้านบาท

มีเฉพาะพวงมาลัยซ้ายเท่านั้น แต่ก็ได้รับการตอบรับจากลูกจำนวนไม่น้อย หลายสิบคน ที่เห็นว่าค่าตัวระดับนี้ความแรงระดับนี้ถูกกว่า ซูเปอร์ คาร์ ที่ทำตลาดในขณะนี้มากมาย

เมื่อเร็วๆ นี้ จีเอซี ไอออน จัดกิจกรรม "Hyper SSR Trackday" โดย เชิญกลุ่มลูกค้าที่มีความสนใจไปสัมผัสกับกับรถรุ่นนี้ที่สนามพีระ อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต พัทยา ส่วนผมจับพลัดจับผลู แม้จะไม่ได้จองรถกับเขา แต่ไอออนก็เชื้อเชิญให้ได้ไปลองสัมผัสกันพอหอมปากหอมคอ 

ถือว่าสวยใช้ได้ครับ สำหรับการออแแบบ มีความโดดเด่น เส้นสายต่างๆ ดูสปอร์ต และดูมีพลังแม้ขณะที่กำลังจอดอยู่เฉยๆ ก็ตาม เส้นสายที่เล่นรวมถึงรูปทรงของโคมไฟหน้าไฟท้าย แอลอีดี ที่เน้นความเรียวยาว

แต่โดยส่วนตัวผมว่าโคมไฟหน้ามันยาวไปหน่อย ทำให้ดูไปแย่งความเด่นในส่วนอื่นๆ ส่วนด้านท้าย โอเค ลงตัว ดูแกรนด์ดีครับ รวมถึงรูปทรงของสปอยเลอร์ เมื่อมองด้านหลังตรงๆ ดูสวยงาม ซึ่งสปอยเลอร์ตัวนี้ทำงานอัตโนมัติตามความเร็วในการขับขี่ โดยมันสามารถเพิ่มแรงกดได้สูงสุด 100 กก. 

ช่องอากาศด้านท้าย หรือ Diffuser  มีไฟตัดหมอกหลัง เพิ่มทัศนวิสัยให้กับรถคันที่ตามหลังมา

Hyper SSR อีวี 1,224 แรงม้า ไม่พยศสักตัว  

การออกแบบ แน่นอนรถกลุ่มนี้เรื่องของหลักอากาศพลศาสตร์เป็นสิ่งสำคัญเพื่อรองรับความเร็ว หรืออัตราเร่งที่ร้อนแรง รวมถึงใช้ลมในการจัดการระบายความร้อนให้กับมอเตอร์ โดยด้านหน้า มีช่องดักอากาศ แบบคาร์บอน ไฟเบอร์ ให้ไหลเข้าสู่ระบบมอเตอร์หน้า และไหลอากาศไปยังส่วนล่างของกระจกบังลม ช่วยเพิ่มแรงกดเมื่อขับขี่ด้วยความเร็ว 

การออกแบบ เอสเอสอาร์ นอกจากภายนอกที่ดูสปอร์ต ภายใน ก็เน้นอารมณ์สปอร์ต และบางอย่างที่ดูแปลกตา เช่น รูปทรงพวงมาลัยแบบรถแข่งทรงหกเหลี่ยม (Hexagonal Racing Steering Wheel) เป็นพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น มีปุ่มควบคุมการทำงานของหลายๆ อย่าง รวมถึง การปรับกระจกมองข้าง หรือ ไฟเลี้ยว ซึ่งจุดนี้เอาจริงๆ จะว่าเป็นทิศทางใหม่ก็ได้ 

แต่ส่วนตัวผมยังอยากได้ไฟเลี้ยวแบบก้านเช่นเดิมครับ ส่วนปุ่มปรับกระจกมองข้างอันนี้ได้อยู่ เพราะไม่ได้ปรับกันบ่อย ปรับก่อนเดินทางก็จบ 

Hyper SSR อีวี 1,224 แรงม้า ไม่พยศสักตัว  

เบาะนั่งทรงสปอร์ตกระชับลำตัวดี มีระบบดันหลัง ทำให้นั่งได้เข้าที่เข้าทางแบบละเอียดยิ่งขึ้น โดยเบาะปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมระบบ Memory Seat หรือการจดจำตำแหน่ง นอกจากนี้มีระบบอุ่นเบาะทั้ง 2 เบาะ ก็คงเป็นฟังก์ชั่นที่ติดมากับรถอยู่แล้ว แม้ว่าถ้าขับในบ้านเราจะไม่ค่อยได้ใช้ก็ตาม

Hyper SSR อีวี 1,224 แรงม้า ไม่พยศสักตัว  

ไฟส่องสว่างห้องโดยสารแบบ LED พร้อ Ambient Light เพิ่ม่มบรรยากาศ ระบบปรับอากาศแบบ Dual Zone และมีระบบกรองอากาศแบบ PM 2.5 มาให้ ส่นวเลือกของสีภายใน สีเข็มขัดนิรภัย หรือรูปแบบการตกแต่งต่างๆ นั้น ลูกค้าสามารถเลือกตามที่ต้องการได้ 

จอแสดงข้อมูลการขับขี่ ขนาด 8.8 นิ้ว แสดงข้อมูลแบบสามมิติ ช่วยเพิ่มอารมณ์สปอร์ตในการขับดีครับ 

ส่วนมอนิเตอร์ตรงกลางคอนโซล ขนาดใหญ่ 14.6 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อออนไลน์  และยังมี ระบบสั่งการด้วยเสียง และระบบเรียนรู้การขับขี่ผ่านระบบคอมพิวเตอร์ (Human-Computer Interaction) ที่จะเรียนรู้โหมดควบคุมการขับขี่ที่แตกต่างตามสภาพถนนจริงและสร้างประสบการณ์การขับขี่ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

Hyper SSR อีวี 1,224 แรงม้า ไม่พยศสักตัว  

ด้านความปลอดภัย เช่น ระบบกันขโมยระบบแจ้งเตือนประตูอัตโนมัติปิดไม่สนิท เบรกมือไฟฟ้า พร้อม Auto hold เบรกเอบีเอส ระบบกระจายแรงเบรก ระบบเพิ่มแรงเบก ระบบช่วยจอดบนทางลาดชัน ระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน หรือว่าการแสดงแรงดันลมยางเป็นต้น 

ส่วนสายเดินทางก็มี V2L ระบบจ่ายกระแสไฟให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าภายนอก มาให้ใช้เช่นกันครับ

สำหรับการลองขับครัั้งนี้มีหลายรูปแบบ คือ การลองอัตราเร่ง การขับสลาลอม และการขับแบบไดนามิคกับเส้นทางใสสนาม แต่มีการตั้งกรวยดักความเร็วอยู่บ้าง  ก่อนถึงโค้งบางโค้ง ก็เข้าใจได้ครับ เพื่อความปลอดภัยเพราะมีคนมาขับกันมากหน้าหลายตา 

แต่เอาจริงๆ แล้ว ก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร เพียงแต่ขาดความต่อเนื่องเล็กน้อยเท่านั้น ที่ว่าไม่ใช่ปัญหาอะไร เช่น ก่อนถึงโค้ง S ที่มีกรวยตั้งขวางอยู่ แต่เมื่อหลบพ้นกรวยไปได้ ด้วยกำลังสูงสุด 1,224 แรงม้า แรงบิด 1,230 นิวตัน-เมตร ก็เพียงพอที่จะกระชากรถเข้าโค้งได้ด้วยระดับความเร็วที่เร้าใจ

รวมถึงโค้งลงเข้า ต่อเนื่องไต่เนินเข้าโค้งไออาร์ซี เลี้ยงคันเร่งดีๆ ก่อนถึงจุดกรวยชะลอรถก่อนโค้ง S1 ความเร็วก็ได้ระดับ 160-170 กม./ชม.

Hyper SSR อีวี 1,224 แรงม้า ไม่พยศสักตัว  

เอาเป็นว่าถ้าพูดถึงโดยรวมของการลองขับ การลองออกตัว แรงจริงครับ ออกได้เร็วมาก แต่ที่น่าสนใจกว่า คือจังหวะการกระจายแรงบิดไปยังล้อทั้ง 4 ที่ทำได้ดี จังหวะฟรีของบางล้อมีให้รู้สึกบ้างแค่ช่วงสั้นๆ เท่านั้น ดังนั้นรถจึงพุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วแบบนิ่งๆ 

ทั้งนี้  เอสเอสอาร์ มาพร้อมระบบเฟืองท้ายลิมิเต็ดสลิป (e-LSD)

ส่วนจังหวะอื่นๆ การตอบสนองของมอเตอร์ไฟฟ้าในด้านอัตราเร่งไม่ใช่ปัญหา ไม่ว่าจะเป็นช่วงออกจากโค้ง หรือ พ้นจุดดักความเร็ว กำลังมาได้รวดเร็ว 

Hyper SSR อีวี 1,224 แรงม้า ไม่พยศสักตัว  

ความคมของรถผมว่าใช้ได้ครับ รองรับความเร็วที่ใช้ และเส้นทางในแทรคได้พอ หน้ารถจิกโค้งได้ดี ท้ายรถไม่เกเร พวงมาลัยน้ำหนักดีใช้ได้ รวมถึงจังหวะการลองขับสลาลอม ยังสามารถคุมรถผ่านกรวยได้ไม่ยาก 

เสียดายว่าถ้าขับกันแบบไม่มีอะไรกั้น น่าจะสนุกมากกว่านี้

แต่ 3 รอบสนามของการขับ ก็จับอารมณ์ได้ครับว่าเป็นรถที่ขับได้สนุก ช่วงล่าง การควบคุมรถทำได้ดี แม้จะใช้ความเร็วค่อนข้างสูง การเกาะถนน เกาะโค้ง ไม่ยาก แม้ว่าช่วงล่างจะเซ็ทมาแบบค่อนข้างนุ่มนวลหากเทียบกับซูเปอร์คาร์ทั่วไป แต่ก็ยังรองรับการขับขี่แบบสปอร์ตได้ 

Hyper SSR อีวี 1,224 แรงม้า ไม่พยศสักตัว  

เรื่องของเบรก ระยะเบรกกับประสบการณ์การขับในแทรคถือว่าอยู่ในระยะที่แม่นยำ จุดเบรกกับจุดเลี้ยวสัมพันธ์กัน แต่ทั้งนี้การขับของผมรอบแรกก็ยังไม่ได้ใช้ความเร็วสูงมากถึงขนาดต้องการเบรกหนักๆ เพราะต้องการเพิ่มอุณหภูมิให้กับเบรกแบบคาร์บอน เซรามิคเสียก่อน จากนั้นรอบ 2 รอบ 3 จึงค่อยขยับความเร็วเพิ่มขึ้น

โดยรวมจากการเจอกันสั้นๆ แม้จะขับ 3 รอบ แต่ก็แค่ช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น ผมว่า เอสเอสอาร์ เป็นรถที่ให้อารมณ์สปอร์ตที่ให้ความนุ่มนวลแถมมา น่าจะเหมาะกับคนที่ต้องการรถแบบนี้ที่สามารถขับขี่ได้ในชีวิตประจำวัน 

ถ้าหากว่าเส้นทางของคุณไม่มีถนนแบบหลังเต่าที่สูงจนเกินไปครับ