ปอร์เช่ ประเทศไทย เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ Cayenne S E-Hybrid Coupé
"ปอร์เช่ ประเทศไทย" เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ Cayenne S E-Hybrid Coupé ที่จะมามอบประสบการณ์ที่เหนือระดับ ขับขี่เร้าใจ เพื่อให้ตรงกับสไตล์ของคนรักปอร์เช่
ปอร์เช่ ประเทศไทย มีความภาคภูมิใจที่จะประกาศเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ Cayenne S E-Hybrid Coupé ที่ผลิตขึ้นสำหรับแฟนๆ ปอร์เช่ชาวไทย นับเป็นอีกก้าวสำคัญของแบรนด์รถยนต์หรูระดับโลกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รถเอสยูวีสปอร์ต คันนี้กลายเป็นรถรุ่นที่ 2 ที่มาจากสายการผลิตของประเทศมาเลเซีย และเป็นรุ่นแรกที่ประกอบในภูมิภาคเพื่อส่งออกมายังประเทศไทย โดยมอบประสบการณ์อันเหนือระดับในราคาที่น่าสนใจ
ปอร์เช่ เข้าใจความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าชาวไทย จึงได้มีการปรับแต่ง Cayenne S E-Hybrid Coupé ให้มาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่เหนือกว่า มีฟีเจอร์มากมายเมื่อเทียบกับรุ่นพื้นฐานที่นำเข้าจากยุโรป นอกจากนี้ยังมี Microsite เว็บไซต์ที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะสำหรับการจองรถยนต์รุ่นใหม่นี้ผ่านทางออนไลน์ เพื่อมอบประสบการณ์การจองที่สะดวกสบายให้กับลูกค้าที่สนใจ และรองรับการปรับแต่งเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นสีภายนอก ตัวเลือกหนังภายใน และอุปกรณ์เสริม Tequipment ต่างๆ
อุปกรณ์มาตรฐาน
Cayenne S E-Hybrid Coupé รุ่นใหม่ที่ผลิตขึ้นสำหรับประเทศไทย โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ที่ทรงพลังและสปอร์ตยิ่งขึ้น ลูกค้าชาวไทยสามารถเลือกสีตัวถังได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ได้แก่ สี Carrara White, สี Chromite Black และสี Dolomite Silver
เสริมความโดดเด่นด้วยไฟหน้าแบบ HD Matrix LED ดีไซน์ใหม่ ที่มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดดเด่นด้วยโมดูลความละเอียดสูง 2 ชุด และพิกเซลกว่า 32,000 พิกเซลต่อโคมไฟ ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยและความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ขณะที่ล้ออัลลอยลายคาเยนน์ขนาด 20 นิ้ว สีเทา Vesuvius มอบความหรูหราและสปอร์ตให้กับรถ SUV คันนี้ได้อย่างลงตัว
ภายในของ Cayenne S E-Hybrid Coupé รุ่นใหม่ที่ผลิตขึ้นสำหรับประเทศไทย ได้รับการยกระดับด้วยฟีเจอร์เพิ่มเติมมากมาย เป็นครั้งแรกที่มีการติดตั้งพวงมาลัย GT Sports และแพ็กเกจ Sport Chrono พร้อมนาฬิกา Porsche Design เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ซึ่งช่วยยกระดับความหรูหราให้กับผู้ขับขี่ตั้งแต่ก้าวเข้ามาภายในห้องโดยสาร
รถเอสยูวี รุ่นนี้ ยังมาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆ มากมาย ได้แก่ ระบบเสียงรอบทิศทาง BOSE® เบาะหนังคุณภาพ เลือกได้ 2 สี คือ สีดำ หรือสี Bordeaux Red พร้อมตราสัญลักษณ์ปอร์เช่บนพนักพิงศีรษะที่เบาะคู่หน้า อีกทั้งระบบควบคุมอุณหภูมิแยก 4 โซน, เครื่องฟอกอากาศภายในห้องโดยสาร, เบาะนั่งไฟฟ้ายังปรับได้ 14 ทิศทาง พร้อมระบบจำตำแหน่งสำหรับเบาะผู้โดยสารด้านหลัง และม่านบังแดดด้านหลังที่เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง
ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อัจฉริยะ อาทิ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ, ระบบช่วยจอด พร้อมกล้องรอบทิศทาง และรองรับการเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนผ่าน Apple® CarPlay มอบความสะดวกสบายสูงสุด ทั้งยังเอาใจผู้โดยสารด้านหลังด้วยระบบเตรียมติดตั้ง Rear Seat Entertainment ที่มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน สามารถติดตั้งหน้าจอสำหรับผู้โดยสารด้านหลังเพิ่มเติมได้อย่างง่ายดาย เพื่อยกระดับความเพลิดเพลินตลอดการเดินทาง
อีกทั้ง ได้เพิ่มเติมความทันสมัยให้กับห้องโดยสารด้วย Porsche Driver Experience ประกอบด้วย ชุดหน้าปัดดิจิตอลแบบโค้งมนขนาด 12.6 นิ้ว และหน้าจอระบบ Infotainment ขนาด 12.3 นิ้ว สำหรับรถยนต์พวงมาลัยขวา ตำแหน่งคันเกียร์อัตโนมัติได้รับการย้ายไปทางซ้ายของพวงมาลัยบนคอนโซลกลาง การปรับเปลี่ยนนี้ยังช่วยเพิ่มพื้นที่สำหรับช่องเก็บของและแผงควบคุมระบบปรับอากาศขนาดใหญ่ ดีไซน์สวยงามทันสมัยในโทนสีดำ แผงควบคุมระบบปรับอากาศมาพร้อมปุ่มกดขนาดใหญ่ใช้งานง่าย พร้อมสวิตช์ปรับอากาศแบบหมุน และปุ่มปรับระดับเสียงแบบสัมผัส ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบายและดูหรูหรา
นิยามใหม่แห่งประสิทธิภาพ
Cayenne S E-Hybrid Coupé รุ่นใหม่ที่ผลิตขึ้นสำหรับไทย ผสมผสานความสปอร์ตของ Cayenne S เข้ากับระบบขับเคลื่อนล้ำสมัยของ Cayenne E-Hybrid นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของผู้ผลิตรถยนต์สปอร์ตระดับโลกในการมอบประสบการณ์การขับขี่อันเร้าใจ ผสานเทคโนโลยีไฮบริดที่ทั้งทรงประสิทธิภาพและล้ำหน้า
ทั้งนี้ ยังมาพร้อมกับเครื่องยนต์ V6 เทอร์โบ 3.0 ลิตร ให้กำลัง 260 กิโลวัตต์ (353 แรงม้า) ซึ่งแรงกว่าเครื่องยนต์ใน Cayenne E-Hybrid ถึง 36 กิโลวัตต์ (49 แรงม้า) เมื่อผสมผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าใหม่ ส่งผลให้ระบบมีกำลังรวม 382 กิโลวัตต์ (519 แรงม้า) รถเอสยูวี คูเป้รุ่นนี้สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลาเพียง 4.7 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 263 กิโลเมตร/ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับระยะทางวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าสูงสุด 90 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน EAER City) เหมาะสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวันได้อย่างสะดวกสบาย
ระบบช่วงล่างใหม่เสริมความสะดวกสบาย
ปอร์เช่ ได้ยกระดับ Cayenne S E-Hybrid Coupé ด้วยระบบช่วงล่างถุงลมอัจฉริยะแบบใหม่ ที่มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน พร้อมระบบกันสะเทือนแบบถุงลม Porsche Active Suspension Management (PASM) เทคโนโลยี Two-Chamber Two-Valve ที่ช่วยยกระดับประสบการณ์การขับขี่ เพิ่มความมั่นคง และง่ายต่อการควบคุมรถยนต์ทั้งบนถนนและทางออฟโรด เมื่อเทียบกับระบบช่วงล่างมาตรฐานและรุ่นก่อนหน้า นอกจากนี้ระบบกันสะเทือนแบบถุงลม the adaptive air suspension ยังช่วยเพิ่มความแม่นยำและสมรรถนะของการขับขี่ ลดการโคลงของตัวรถในขณะขับขี่แบบสปอร์ต อีกทั้งยังช่วยให้การปรับโหมดการขับขี่ระหว่าง Normal, Sport และ Sport Plus แตกต่างกันอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น
ระบบกันสะเทือนแบบถุงลม the standard adaptive air suspension ของ Cayenne S E-Hybrid Coupé ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความสะดวกสบายในการขับขี่ที่มากขึ้น เทคโนโลยี Two-Chamber Two-Valve ช่วยปรับช่วงล่างได้หลากหลาย ตั้งแต่เน้นความนุ่มนวลสำหรับการขับขี่สบายๆ ไปจนถึงโหมดสปอร์ตที่เน้นการตอบสนองฉับไว
ราคาที่น่าสนใจพร้อมตัวเลือกการปรับแต่งมากมาย
ปอร์เช่เข้าใจว่าลูกค้าต้องการความเป็นตัวเอง ดังนั้น Cayenne S E-Hybrid Coupé รุ่นใหม่ที่ผลิตขึ้นสำหรับประเทศไทย สามารถปรับแต่งผ่านไมโครไซต์พิเศษที่สร้างขึ้นสำหรับรถรุ่นนี้โดยเฉพาะ
เว็บไซต์นี้เปิดโอกาสให้แฟนๆ ปอร์เช่ สามารถออกแบบ Cayenne S E-Hybrid Coupé ในฝันได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นการเลือกสีตัวถังและการตกแต่งภายใน รวมไปถึงการเพิ่มอุปกรณ์เสริม Tequipment หรือแพ็กเกจปรับแต่งพิเศษจาก Porsche Exclusive Manufaktur
ทั้งนี้ Cayenne S E-Hybrid Coupé รุ่นใหม่ที่ผลิตขึ้นสำหรับประเทศไทย ราคาเริ่มต้นที่ราคา 6,290,000 บาท โดยมีกำหนดส่งมอบให้ลูกค้าตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2567 เป็นต้นไป สามารถจองรถยนต์รุ่นนี้ผ่านไมโครไซต์ ได้ ที่นี่