‘ไอออน’ ปักธงลงทุนไทย ฮับฐานผลิตอีวี ‘อาเซียน’
‘ไอออน’ ยักษ์ใหญ่อีวีจีน ประกาศยุทธศาสตร์ขยายตลาดไทย ชูเป็นฮับหลักผลิตรถยนต์อีวีในภูมิภาค เดินหน้าเร่งเครื่องการผลิต เล็งเปิดตัว 2-3 รุ่นใหม่ วางโรดแมปขยายโชว์รูม และศูนย์บริการให้ครบ 200 แห่ง เพิ่มซูเปอร์ชาร์จให้ครบ 1,000 จุด ใน 2570 มุ่งสร้างบุคลากรอีวีไทยแข็งแกร่ง
"กรุงเทพธุรกิจ" จัดสัมมนา ASEAN Economic Outlook 2025:The Rise of ASEAN, A Renewing Opportunity เมื่อวันที่ 7 ต.ค.2567 โดยอาเซียนเป็นตลาดสำคัญของรถยนต์ไฟฟ้า และมีบริษัทรถยนต์จีนเข้ามาลงทุนหลายราย โดยเฉพาะในไทยที่รัฐบาลมีมาตรการสนับสนุนเพื่อสร้างตลาดรถยนต์ในไทย รวมถึงมีมาตรการส่งเสริมการผลิตแบตเตอรี่
นายโอเชี่ยน หม่า ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอออน ออโตโมบิล เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด และประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอออน ออโตโมบิล แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (AION) กล่าวว่า ตลาดอาเซียนมีพลวัต และมีแนวโน้มที่ดีสุดในโลก รวมถึงดึงดูดการลงทุนจากนักลงทุนทั่วโลก
สำหรับไทยเป็นผู้ผลิตรถยนต์ขนาดใหญ่สุดในอาเซียน และเป็นตลาดขนาดใหญ่อันดับ 2 มีอีโคซิสเต็มอุตสาหกรรมยานยนต์ขยายตัว รวมถึงมีภาครัฐบาลได้ร่วมสนับสนุนรถยนต์พลังงานใหม่และมาตรการทางภาษีในด้านต่างๆ อย่างครอบคลุม พร้อมมีแผน 30@30 ในการส่งเสริมการผลิตรถยนต์ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ให้ได้ 30% ของการผลิตรถยนต์ทั้งหมดภายในปี 2573
โอเชี่ยน หม่า ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอออน ออโตโมบิล เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด และประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอออน ออโตโมบิล แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) (AION)
ทั้งนี้บริษัทได้วางยุทธศาสตร์ลงทุน และขับเคลื่อนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าระยะยาวในประเทศไทย ที่มีความสอดคล้องกับแผนของภาครัฐ ทำให้บริษัทได้มีการสร้างโรงงานประกอบรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย และเป็นโรงงานแห่งแรกในต่างประเทศ เพื่อร่วมยกระดับภาคอุตสาหกรรมพลังงานใหม่กับยานยนต์ไฟฟ้า และร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยให้ขยายตัว
สำหรับโรงงานประกอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทย เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 17 ก.ค.2567 ในโรงงานที่ระยอง อยู่ในพื้นที่อีอีซี โดยเป็นฐานการผลิตในระดับโลก และถือว่าไทยเป็นฐานผลิตหลักในภูมิภาคอาเซียน รองรับการทำตลาดในประเทศไทย ส่งออกไปในภูมิภาคและขยายตลาดประเทศต่างๆ ทั่วโลก
ขณะเดียวกันโรงงานในไทย ได้ใช้เทคโนโลยีการผลิตระดับเดียวกับประเทศจีน ที่เป็นเทคโนโลยีอัจฉริยะ และมีการใช้ชิ้นส่วนในประเทศไทยสัดส่วน 45% พร้อมมุ่งส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด
ทั้งนี้ที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดตัวรถยนต์ เข้ามาทำตลาดประเทศไทยแล้ว โดยมีรุ่นเรือธง ได้แก่ AION Y PLUS, AION ES และ Hyper HT ที่เป็นรุ่นพรีเมียม ซึ่งรถยนต์ที่ได้เปิดตัวในรุ่นต่างๆ ได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าในประเทศไทย พร้อมกันนี้มีแผนเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ในไทย จำนวน 2-3 รุ่น เข้ามาทำตลาดในไทยอย่างต่อเนื่องในทุกปี
เร่งแผนขยายโชว์รูม 100 แห่งในปี 2568
ขณะเดียวกันหลังเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยกว่าหนึ่งปีแล้ว มีแผนขยายช่องทางจำหน่าย ผ่านการมีตัวแทนจำหน่าย โดยปัจจุบันมีโชว์รูม และบริการหลังการขายประมาณ 50 แห่ง และในปี 2567 พร้อมขยายเป็น 70 แห่ง ส่วนในปี 2568 มุ่งขยายให้ครบ 100 แห่ง ครอบคลุมทุกภูมิภาค เพื่อทำให้กลุ่มลูกค้าคนไทยได้รับประสบการณ์ที่ดี และได้รับความสะดวก เข้าถึงมากยิ่งขึ้น
สำหรับสถานีชาร์จความเร็วสูง โดยบริษัทเป็นแบรนด์เดียวได้ที่พัฒนาในด้านนี้ โดยได้มีการลงทุนสร้างไปแล้ว 8 แห่ง พร้อมวางแผนไว้ในปี 2567 จะก่อสร้างแล้วเสร็จได้ครบจำนวน 25 แห่ง รวมถึงประเมินระยะยาว ภายในปี 2570 จะขยายเพิ่มสถานีชาร์จให้ได้ 200 แห่ง และมีหัวชาร์จรวม 1,000 จุด ครอบคลุมรวม 100 เมือง ทั่วประเทศ เพื่อทำให้ลูกค้าได้รับความสะดวกมากขึ้น
“แผนในระยะต่อไป บริษัทมีความสนใจขยายการลงทุนใหม่ในไทยเพิ่มขึ้น รองรับการขยายรถยนต์ไฟฟ้า และพลังงานสะอาดเพิ่มมากขึ้นในอนาคต”
มุ่งสร้างศูนย์พัฒนาวิจัย-บุคลากรอีวีในไทย
พร้อมกันนี้ ยังมุ่งมั่นพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าในไทย โดยส่งมอบรถยนต์ฝึกอบรมให้สถาบันการศึกษา 2 แห่ง ในไทย พร้อมฝึกอบรมพนักงานในพื้นที่จำนวนมาก เพื่อร่วมส่งเสริมการจ้างงาน ร่วมกระตุ้นเศรษฐกิจ พร้อมทำให้ประเทศไทยมีบุคลากรในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น รองรับการเติบโตของอุตสาหกรรม
อีกทั้งบริษัทได้ให้ความสำคัญในการลงทุนวิจัย และพัฒนาในไทย และในภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมส่งเสริมการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ล้ำหน้า พร้อมร่วมสร้าง สังคมคาร์บอนต่ำในภูมิภาคอาเซียน และทำให้ในภูมิภาคอาเซียนมีโซลูชันพลังงานสีเขียวที่มีความยั่งยืน ทั้งหมดสอดรับกับนโยบายของบริษัทที่มุ่งมั่นเป็นผู้นำในระดับโลกในด้านนี้
“ตลอดการลงทุนสร้างโรงงานในไทย ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล พันธมิตร และภาคส่วนต่างๆ ของสังคม ซึ่งตอกย้ำความเชื่อมั่นว่าการลงทุน และการพัฒนาในประเทศไทยเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาด พร้อมร่วมทำงานขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงและยกระดับอุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานใหม่ของประเทศไทยต่อไป และมีส่วนสนับสนุนต่อความก้าวหน้าทางสังคม และเศรษฐกิจของประเทศ”
อย่างไรก็ตาม สำหรับแบรนด์รถยนต์อีวี "ไอออน (AION) ก่อตั้งขึ้นปี 2560 ในจีน โดยภาพรวมตลาดโลกครองตำแหน่งแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าอันดับ 2 ของจีน และอันดับที่ 3 ของแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าโลก
พร้อมกันนี้สร้างสถิติการผลิต และขายรถยนต์ 1 ล้านคันเร็วที่สุดในโลก ด้วยใช้เวลา 4 ปี 8 เดือน รวมถึงบริษัทติดอันดับ Fortune Global 500 ส่วนในไทยพบว่ากลุ่มจีเอซี กรุ๊ป (GAC Group) บริษัทแม่จากจีน ประกาศแผนลงทุนผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามูลค่า 6,400 ล้านบาทในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) พร้อมมีแผนตั้งสำนักงานในไทยอย่างเป็นทางการ
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์