‘XPENG G6’ อัดเทคโนฯ ADAS แม่น อัตราเร่ง เพิ่มความสนุก-คล่องตัว นุ่มเล็กน้อย

ตลาด อีวี ยังคงเข้มข้น แม้ภาพรวมจะดูชะลอตัวไปบ้าง แต่ในแง่การแข่งขันยังมีสีสันเช่นเดิม มีรถใหม่ๆ เข้ามาเติมตลาดอย่างต่อเนื่อง ทำให้ชวนคิดว่าในอนาคตจะมีออกไปบ้างหรือไม่ 

แต่นั่นเป็นเรื่องของอนาคตที่ยังไม่มีใครรู้ แต่ว่าปัจจุบันนี้เราเห็นรถใหม่ๆ เปิดตัวอย่างต่อเนื่อง อย่างเดือนหน้าก็จะเป็นปิกอัพ อีวี ริดดารา ตามด้วยจีลีที่เป็นบริษัทแม่ แต่แยกกันมา รวมถึง ดีพอล อี 07 เอสยูวี ที่แปลงร่างเป็นปิกอัพได้

ส่วนที่เปิดตัวไปเมื่อไม่นานมานี้ ก็จะค่อยๆ ทยอยนำมาเล่าสู่กันฟังว่าเป็นอย่งไรบ้าง น่าสนใจมากน้อยแค่ไหน ซึ่งวันนี้มาว่ากันที่ เอ็กซ์เผิง ที่วางตำแหน่งตลาดเป็นพรีเมียมอีวี กับรถรุ่นแรกที่เปิดตัวในไทยคือ เอ็กซ์เผิง จี 6 (XPENG G6)

จี 6 เปิดตัวในบ้านเรา 2 รุ่น คือ

• G6 RWD Standard Range ราคา 1,439,000 ล้านบาท
• G6 RWD Standard Range 1,599,000 บาท

ที่อยู่กับผมวันนี้เป็นสแตนดาร์ด เรนจ์

เอ็กซ์เผิงใส่เทคโนโลยีเข้ามาหลายอย่าง เริ่มตั้งแต่กุญแจถ้าไม่อยากถือจะโหลดแอปพลิเคชั่น จากนั้นก็สามารถสั่งงานต่างๆ และการควบคุมรถด้วยโทรศัพท์ได้ทั้งหมด รวมถึงตรวจสอบข้อมูลหรือสถานะต่างๆ ของรถได้

ส่วนออปชั่นอื่นๆ ที่เพิ่มความสะดวกสบาย เช่น

• ระบบสั่งการด้วยเสียง
• ระบบช่วยจอดแบบไร้คนขับ (Remote Parking Assist) ที่สั่งให้ถอยเข้าช่องจอด กรณีที่ช่องจอดแคบลงจากรถยาก ก็สามารถลงจากรถก่อนแล้วควบคุมให้รถถอยเข้าไป หรือ เมื่อจะขึ้นรถก็สั่งให้รถเคลื่อนที่ออกมา 
• ระบบช่วยจอดอัตโนมัติหากใครต้องการ หรือไม่คล่องที่จะจอดด้วยตัวเอง ก็ทำงานได้แม่นยำ และรวดเร็วทีเดียว 

 

ตัวรถมีความยาว  4,753 มม. กว้าง 1,920 มม. สูง 1,650 มม. ระยะฐานล้อ 2,890 มม. น้ำหนักรถเปล่า 2,050 กก. ติดตั้งล้ออัลลอยพร้อมยาง 255/45 R20

การออกแบบภายในผมชอบนะ ดูโปร่งโล่ง สบายตา และได้หลังคาพาโนรามาเพิ่มความโปร่งโล่งเข้าไปอีก 

ที่ด้านหน้า คอนโซลกลางขนาดใหญ่เป็นที่พักแขนของผู้ขับและผู้โดยสารด้านหน้าในตัว มีที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย 2 ตำแหน่งวางไว้คู่กัน คอนโซลหน้าเรียบง่าย โล่ง ไม่เกะกะตา ติดตั้งจอมอนิเตอร์ 14.96 นิ้ว ส่วนจอแสดงข้อมูลการขับขี่ 10.2 นิ้ว ให้รายละเอียดชัดเจน รวมถึงสภาวะแวดล้อมทั้งรถทั้งคน

เบาะเป็นอีกจุดเด่น เพราะกว้างขวางนั่งสบาย มีพื้นที่วางเท้าและพื้นที่ว่างช่วงเข่าเหลือๆ ตัวเบาะและพนักพิงออกแบบมารองรับสรีระได้ดี นั่งได้สบายไม่ต้องขยับเปลี่ยนท่าไปมา

เบาะหลังสามารถพับได้เพือ่เพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระด้านหลัง ซึ่งปกติก็ค่อนข้างกว้างอยู่แล้ว 

เอ็กซ์เผิงนั้นชูจุดขายเร่องเทคโนโลยี เพราะต้องไม่ลืมว่า ประธาน เอ็กซ์เผิง คือ “เหอ เสี่ยวเผิง” เริ่มต้นและประสบความสำเร็จกับธุรกิจด้านซอฟท์แวร์ เมื่อเข้าสู่อุตสาหกรรมยานยนต์เมื่อปี 2557 ก็นำจุดแข็งมาใช้กับรถยนต์

โดยปัจจุบันเรื่องของเทคโนโลยี ระบบปฏิบัติการต่างๆนั้นผู้บริหารเอ็กซ์เผิงมั่นใจว่าไม่น้อยหน้าใคร และเชื่อว่าอยู่ในกลุ่มท็อปทรีร่วมกับเทสล่า และ เสียวหมี่ อย่างในจีนที่ใช้เทคโนโลยี XNGP หรือ XPENG Navigation Guided Pilot ที่สามารถขับขี่ได้ด้วยตนเอง 

แต่ในบ้านเรานั้นสภาพแวดล้อมยังไม่พร้อม แต่ก่อนมาเปิดตัวในไทยทีมงานบอกว่าเข้ามาศึกษารายละเอียดและเชื่อว่าน่าจะสามารถใช้งานได้ภายในปี 2569 

ดังนั้นการทำตลาดในไทยช่วงนี้ เอ็กซ์เผิงบอกว่าใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า XPilot 2.5 หรือเท่ากับระบบออโนโมนัส เลเวล 2.5 ขณะที่ปัจจุบันส่วนใหญ่จะอยู่ในเลเวล 2

ระบบต่างๆ ทำงานโดยใช้ข้อมูลจากเซ็นเซอร์รอบคัน 12 ตำแหน่ง กล้อง 12 ตัว และเรดาร์อีก 5 ตัว 

ซึ่งระบบช่วยเหลือการขับขี่ของ จี 6 อย่าง ADAS ทำได้แม่นยำดีครับ ทั้งการรักษาช่องทางที่ การควบคุมทิศทาง หารือการควบคุมความเร็ว การรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าที่เป็นธรรมชาติ คือ ใกล้เคียงกับการควบคุมด้วยตัวเอง ไม่กระตุกไม่กระชาก รวมถึงจังหวะการเข้าโค้งด้วย 

จี 6 ยังมีระบบเปลี่ยนเลนอัตโนมัติ เมื่อเราเปิดไฟเลี้ยว เช่น ต้องการแซงรถคันหน้า รถจะเปลี่ยนเลนด้วยตนเอง โดยอาศัยข้อมูลที่ได้รอบรถจากเซ็นเซอร์ กล้อง เรดาร์ ที่จะตรวจสอบทุกอย่างในเลนที่จะออกไป เช่น รถด้านหน้าอยู่ในระยะไกลเพียงพอไหม ด้านข้างมีรถหรือไม่ หรือรถที่กำลังวิ่งมาจากด้านหลัง มีความเร็วมากน้อยแค่ไหน

ถ้าระบบพบว่ายังไม่ปลอดภัยก็ไม่เปลี่ยนเลนให้ แต่ถ้าทุกอย่างเคลียร์มันก็จะเปลี่ยนเลนให้อย่างนุ่มนวล 

ถามว่ามีประโยชน์ไหมก็มีครับ โดยเฉพาะเรื่องของจุดบอดหรือ blind spot ที่บางจุดผู้ขับมองไม่เห็นรถข้างๆ เป็นต้น และการทำงานก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร แค่เปิดไฟเลี้ยวแล้วรอ แค่นั้นเอง 

ด้านการขับขี่ทำได้ดีครับ ผมลองขับในกรุงเทพฯ และขึ้นทางด่วนบูรพาวิถี ไป-กลับ บางแสน การทรงตัวทำได้ดีค่อนข้างนิ่ง คุมรถได้ง่ายสบายๆ ่แต่ที่ความเร็วสูงมากๆ จะรู้สึกถึงการโยนตัวอยู่บ้างเล็กน้อย ซึ่งบางช่วงอาจเป็นเพราะเส้นทางนี้มีลมปะทะ

แต่โดยรวมถือว่าทำได้ดี จังหวะการเข้าโค้งมีความแ่ม่นยำหน้ารถเกาะถนนได้ดี ทำให้ขับได้สนุก เข้า-ออก โค้งได้เร็ว เติมอารมณ์สปอร์ตได้ไม่น้อย

และแน่นอนเรื่องของอัตราเร่งที่เป็นจุดเด่นของอีวี ซึ่ง จี6 ก็เช่นกัน ทำให้การจังหวะการปรับเปลี่ยนความเร็ว เปลี่ยนช่องทางทำได้คล่องตัว และสังเกตว่าการกระจายแรงบิดทำได้แม่นยำ เพราะบางช่วงที่กดคันเร่งหนักๆ รถยังทรงตัวได้ดีไม่มีอาการร่อน สะบัด และไม่มีเสียงยางดังจากอาการล้อฟรี ถือว่าเซ็ทรถออกมาได้ดี 

ส่วนความเร็วสูงสุด จี 6 ก็ไม่อั้น เพราะทำได้ถึง 200 กม./ชม. น่าจะเป็นการบ่งบอกถึงความมั่นใจในการจัดการแบตเตอรี มอเตอร์ รวมถึงการควบคุมอุณหภูมิ และการระบายความร้อน

แน่นอนผมขับไม่ถึงความเร็วดังกล่าว แต่ขากลับที่ต้องเร่งรีบเล็กน้อย ใช้ความเร็วสูงต่อเนื่อง การตอบสนองของมอเตอร์ก็ยังทำได้คงเส้นคงวาครับ