"วอลโว่ XC 60 T8 R Design" แรงได้ใจ
วอลโว่ พยายามที่จะสร้างความแข็งแกร่งในตลาด ผ่านทั้งด้านการบริการหลังการขาย การตลาด และผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะเห็นได้ว่าตอนนี้ วอลโว่ มีรถให้เลือกหลายรุ่น และน่าสนใจไม่น้อยทีเดียว รวมถึง เอสยูวี ขนาดกลางอย่าง เอ็กซ์ซี 60
และสิ่งที่คนรู้จักกันหลายคนพูดถึง วอลโว่ เอ็กซ์ซี 60 T8 R Design อย่างตื่นเต้น เมื่อเห็นผมขับมันมา “มันสวยนะ, สวยกว่าเมื่อก่อนเยอะเลย, ดูดีเลยหละ” ประมาณนี้
คำพูดเหล่านี้อาจบ่งบอกได้ 2 ทาง ทางบวกคือ มันดูดีขึ้นในความรู้สึกของผู้คน ส่วนทางลบก็คือ ก่อนหน้านี้พวกเขาอาจจะมองผ่านวอลโว่ไป เพราะความจริงแล้ว แนวทางการออกแบบใหม่ของค่ายรถจากสแกนดิเนเวียปรับเปลี่ยนมาพักใหญ่แล้ว แต่เอาเถอะ อย่างน้อยก็เชื่อว่า บทบาทที่จะมากกว่าคือมุมมองด้านดี เพราะเป็นเรื่องของปัจจุบันและความมั่นใจในอนาคตมากกว่า
ซึ่งการออกแบบของวอลโว่นั้น ในมุมมองของผมก็เห็นว่าดูดีขึ้น สวยงาม ลงตัว ให้อารมณ์ทั้งความหรูหรา สปอร์ต และบึกบึน เข้าไว้ด้วยกัน และที่สำคัญมันลดอายุลงไปจากอดีตได้มากทีเดียว
T8 R Design มีชุดแต่ง R Design ที่เพิ่มเติมเข้ามา ประกอบไปด้วยกระจังหน้าสีดำเงาตัดขอบด้วยสีเงินยวงเพิ่มความหรูหรา ท่อไอเสียแบบคู่ กรอบกระจกมองข้างสีเงินด้าน เข้ากันได้ดีกับสีตัวถังดูดีเลยทีเดียว นอกจากนี้ก็มีล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว ลวดลายดูแปลกตา ให้อารมณ์ไปทางสปอร์ตมากกว่าทางหรู บ่งบอกว่าพร้อมรับกำลังที่ร้อนแรงจากเครื่องยนต์
ภายในแป้นเบรก และคันเร่ง R-Design พวงมาลัยหุ้มหนังเย็บด้วยด้ายสีขาว เบาะหนังแนปป้าสีดำ นุ่ม นั่งสบายและมีความฝืดในตัว ช่วยให้กระชับลำตัวได้ดี เมื่อต้องขับรถที่ต้องเลี้ยวไปมา เช่น ทางโค้ง ทางเขา
อย่างไรก็ตาม ในห้องโดยสาร ผมว่ามีหลายส่วนที่ใช้วัสดุที่มันวาวมากไปหน่อย แต่ก็เป็นเรื่องความชอบแต่ละคน หลายคนก็ชอบลักษณะนี้ มันดูระยิบระยับ หรูหรา ส่วนผมน่ะชอบแบบเรียบๆ มากกว่า แต่ถ้ามองโดยรวมก็ถือว่าออกแบบมาได้ดี สวยงาม
ห้องโดยสารของ เอ็กซ์ซี60 กว้างขวาง นั่งสบาย โปร่งโล่งไม่อึดอัด และช่วงเช้า เย็น หรือค่ำคืน จะเปิดม่านบังแดดหลังคาปล่อยให้แสงทะลุผ่านหลังคาแก้วพาโนรามิคยาวตั้งแต่เบาะหน้ายันเบาะหลังก็ยิ่งช่วยให้ดูโปร่งสบายยิ่งขึ้น ส่วนการจะเปิดหลังคากระจก คงต้องรอช่วงเวลาที่อากาศดีจริงๆ ไม่ร้อน ซึ่งมีไม่บ่อยนักหรอกในบ้านเราในแต่ละปี
ระบบต่างๆ ใส่เข้ามาเต็มที่ รวมถึง ระบบ HUD หรือ Head up Display ที่แสดงข้อมูลการขับขี่บริเวณกระจกบังลมหน้า ทำให้ไม่ต้องก้มลงดูที่หน้าปัด หรือ มอนิเตอร์ ช่วยให้ไม่ต้องละสายตาจากถนน ข้อมูลที่แสดงก็ชัดเจน และยังมีการเตือนเกี่ยวกับข้อมูลจราจรตามจริง ทั้งข้อกำหนดความเร็ว หรือเขตบริเวณโรงเรียน การเตือนก็เตือนเป็นภาพเหมือนจริง เช่น ป้ายความเร็ว หรือป้ายเหลืองๆ รูปผู้ใหญ่จูงมือเด็ก ที่เราพบเห็นได้บริเวณโรงเรียน พร้อมกับเสียงเตือนทุกครั้งเมื่อเปลี่ยนแปลง หลายคนอาจจะไม่ชอบ รำคาญ แต่ผมว่าก็ดีนะเพื่อความปลอดภัย และเมื่อใช้ไปสักพักก็จะชินกับมัน
ระบบความปลอดภัยก็ใส่มาเต็มที่ เข็มขัดพร้อมจะรัดให้กระชับมากขึ้น หากคุณปล่อยให้รถไหลเข้าใกล้คันหน้ามากเกินไป เช่นเดียวกับระบบเตือนทั้งสัญลักษณ์และเสียง หรือถ้ามัวแต่เพลินกับพละกำลังเหลือเฟือ โดยลืมไปว่านี่เป็นถนนเมืองไทย ไม่ใช่ออโต้บาห์นที่ไม่มีคอสะพานชัน ทำให้รถโดดเล็กน้อย จนล้อเสียแรงเสียดทานกับพื้นถนน ถึงตรงนั้นคุณจะรู้ได้ทันทีว่าไม่ความปราณีจากเข็มขัดที่จะรัดแน่นอย่างรวดเร็ว เพราะระบบประเมินว่ารถอาจเกิดอุบัติเหตุได้นั่นเอง
ซึ่งทั้งหมดนี้ ป็นเรื่องที่ดีครับ
เอ็กซ์ซี 60 มีจำหน่าย4 รุ่นย่อย คือ ดี 4 AWD Momentum ราคา 3.19 ล้านบาท ที8 Twin Engine AWD Momentum 3.29 ล้านบาท ที 8 Twin Engine AWD R-Design 3.59 ล้านบาท และ T8 Twin Engine AWD Inscription 3.69 ล้านบาท
ส่วนคันสีฟ้าน้ำทะเลที่เห็นอยู่นี้คือ T8 R Design เป็นรถปลั๊กอิน ไฮบริด ใช้เครื่องยนต์ ไดรฟ์-อี ขนาด 2 ลิตร 4 สูบ ซูเปอร์ชาร์จ เทอร์โบชาร์จ ให้กำลังสูงสุด 320 แรงม้าที่ 5,700 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 87 แรงม้า เมื่อทำงานรวมกันได้กำลังสูงสุด 407 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 640 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พร้อมก้านเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 5.3 วินาทีความเร็วสูงสุด 230 กม./ชม.
สมรรถนะที่ได้ ถ้าเทียบกับคู่แข่ง เรียกว่ามาเหนือกว่า แต่ราคาต่ำกว่ากันไม่น้อยประมาณ 1-3 แสนบาท เลยทีเดียว เป็นเรื่องที่น่าสนใจหากใครจะมองหารถเอสยูวีขนาดกลางไว้ใช้งานสักคัน แต่ก็เข้าใจได้ว่า วอลโว่ ยังต้องแข่งกับตัวเอง ในเรื่องการสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคด้านเครือข่ายการบริการ และราคาอะไหล่ ซึ่งที่ผ่านมาวอลโว่ก็พยายามเต็มที่ และยืนยันว่าไม่ได้แพงกว่าแต่อย่างใด
แต่ว่าสมรรถนะที่ดูว่ามาเหนือนั้น มันสะท้อนไปถึงการขับขี่ได้มากน้อยแค่ไหน ผมมีคำตอบครับ
ช่วงแรกที่รับรถมานั้น มันชาร์จไฟไว้เต็ม ซึ่งตามสเปคของวอลโว่ หากใช้งานมอเตอร์ไฟฟ้าอย่างเดียว จะสามารถขับขี่ได้ไกลสุด 40 กม. โดยเครื่องยนต์ไม่ทำงาน แต่ว่าผมใช้งานปกติ ไม่ได้ขับแบบประคองตัว มีเหยียบมีผ่อน ระบบก็เลยตัดเข้าสู่การทำงานของไฮบริดเป็นหลักระยะทางประมาณ 60 กม. ได้อัตราเฉลี่ยประมาณ 20 กม./ลิตร แต่จากนั้นเป็นการขับขี่ออกต่างจังหวัดเป็นหลัก ซึ่งแน่นอนว่า จะใช้กำลังจากเครื่องยนต์เป็นหลัก อัตราสิ้นเปลืองตกอยู่ประมาณ 11 กม./ลิตร
ผมพอใจครับ กับรูปแบบการขับขี่ที่เน้นการตอบสนองของสมรรถนะของระบบไฮบริดเป็นหลัก มันตอบสนองดีเกินกว่าที่จะมาเที่ยวกินลมชมวิว การตอบสนองของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าทำได้อย่างทันอกทันใจ เมื่อกดเท้าลงไปที่คันเร่งไม่ต้องแรงนัก รถพุ่งไปข้างหน้าอย่างมีชีวิตชีวา แต่ถ้าหากว่ามันยังไม่ทำให้คุณพอใจ ลองปรับโหมดไปที่ Power ทีนี้ไม่รู้ว่ามันเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน การกระชากกระชั้นเกิดขึ้นอย่างชัดเจน แต่การตั้งไว้ที่โหมด Hybrid ก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้ว
ขุมพลังช่วยให้ T8 ขับได้สนุกจริง ขณะที่ระบบช่วงล่างแม้จะดูนุ่มๆ ไปสักหน่อย แต่ก็รองรับการขับขี่แบบนี้ได้เพียงพอ รถนิ่งที่ความเร็วสูง และการเข้า-ออก โค้ง ก็เชื่อใจได้ว่ามันไม่เถลไถลไปไหนแน่
ช่วงล่างนิ่ง เครื่องยนต์แรงจริงจัง ทำให้นอกจากมันพร้อมโลดแล่นในเส้นทางโล่งๆ แล้ว ก็ยังช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ในเมืองที่การจราจรหนาแน่น เพราะความกระฉับกระเฉงของรถ ความตื่นตัวตลอดเวลาของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้านั่นเอง
น้ำหนักพวงมาลัย เบาไปสักหน่อย ซึ่งก็น่าจะเป็นที่ชื่นชอบของคนส่วนใหญ่ เพราะมันเบามือ หมุนง่ายสบายๆ น้ำหนักจะเพิ่มขึ้นเมื่อความเร็วสูงขึ้น แต่ก็ยังไม่ถึงใจคนที่ชอบอารมณ์สปอร์ต ซึ่งก็คงต้องกลับไปที่โหมด Power ที่น้ำหนักจะเพิ่มขึ้นมา
ความเงียบในห้องโดยสาร เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่โดดเด่นของ เอ็กซ์ซี 60 แม้จะขับขี่ที่ความเร็วสูง แต่เสียงที่เล็ดลอดเข้ามาน้อยมาก ทำให้บทเพลง On the road again ของคุณลุง Willie Nelson ส่งเสียงผ่านเครื่องเสียงและลำโพง Bowers&Wilkins ได้อย่างรื่นหู
โดยรวม เอ็กซ์ซี 60 เป็นรถที่ขับง่าย เครื่องแรง นั่งสบาย ช่วงล่างนุ่มนวล ทัศนวิสัยดี และใช้งานได้ครอบคลุม ไม่ว่าจะใช้ในชีวิตประจำวันเดินทางไปกลับบ้าน-ที่ทำงานในเมือง หรือจะออกไปรับลม ชมวิว ท่องเที่ยวไปทั่วไทยในวันหยุดพักผ่อน ก็รองรับได้ดีเช่นกันครับ
*****