สัญญาณบวก ตลาดรถ

นายสุรศักดิ์ สุทองวัน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ในเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับเดือน เม.ย. ปีเดียวกัน เนื่องจากการที่รัฐบาลทยอยประกาศผ่อนปรนมาตรการควบคุมเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ทำให้ธุรกิจบางอย่างเริ่มทยอยกลับมาดำเนินงาน ซึ่งส่งผลเชิงบวกให้กับตลาดรถยนต์

แต่อย่างไรก็ตามการที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ยังคงอยู่ในช่วงของการค่อยๆ ฟื้นตัว ทำให้ผู้บริโภคก็ยังคงระมัดระวังในการใช้จ่าย รวมถึงการที่ภาครัฐยังได้ออกมาตรการดูแลและเยียวยาเพื่อช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ ทำให้ตลาดยังอยู่ในทิศทางที่หดตัวหากเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว โดยมียอดขายรวม 4.04 หมื่นคัน ลดลง 54.1% จากเดือน พ.ค. 2562 แต่เมื่อเทียบกับเดือน เม.ย. พบว่ามียอดขายที่สูงกว่าประมาณ 1 หมื่นคัน

สำหรับยอดขายเดือน พ.ค. แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 1.17 หมื่นคัน ลดลง 65.1% จากเดือนเดียวกันปีที่แล้ว รถเพื่อการพาณิชย์ (รวมปิกอัพ) 2.86 หมื่นคัน ลดลง 47.4% ส่วนรถปิกอัพ 1 ตัน 2.31 หมื่นคัน ลดลง 47.5%

ส่วนยอดขายสะสมช่วง 5 เดือน (ม.ค.-พ.ค.) มีทั้งสิ้น 2.7 แสนคัน ลดลง 38.2% เมื่อเทียบเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยรถยนต์นั่งลดลง 42.2% รถเพื่อการพาณิชย์ (รวมปิกอัพ) ลดลง 35.6% ซึ่งเป็นผลกระทบจากสถานการณ์ของการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ที่มีผลตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา และส่งผลกระทบในวงกว้างต่อทั้งตลาดรถยนต์ในประเทศ  ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ และเศรษฐกิจทั่วโลกต่อเนื่องกันตลอดทั้ง 5 เดือน

นายสุรศักดิ์กล่าวว่า สำหรับแนวโน้มตลาดในเดือน มิ.ย. นี้ การที่ภาครัฐผ่อนคลายระยะที่ 3 ให้หลายๆ ธุรกิจสามารถกลับมาดำเนินการได้ และการควบคุมสถานการณ์เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น ไม่พบผู้ติดเชื้อภายในประเทศติดต่อกันหลายวัน และการคลายล็อกในระยะที่ 4 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 ที่ผ่านมา เชื่อว่าจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ซึ่งจะทำให้ทิศทางเศรษฐกิจไทยสามารถเดินหน้าต่อไปได้ 

“แลเะการที่่ประชาชนมีการเฝ้าระวัง และป้องกันการใช้ชีวิตตามมาตรการความปลอดภัยเพื่อป้องกันการเกิดการแพร่ระบาดรอบ 2 ดังนั้นจึงเชื่อว่าแนวโน้มของตลาดรถยนต์ในเดือนนี้จะมีทิศทางที่ดีขึ้นต่อเนื่อง”

สำหรับยอดขายเดือน พ.ค. 3 อันดับแรกที่มียอดขายสูงสุด ประกอบด้วย โตโยต้า มียอดรวม 1.36 หมื่นคัน ลดลง 53.7% ส่วนแบ่งตลาด 33.7% อีซูซุ 1.01 หมื่นคัน ลดลง 35.3% ส่วนแบ่ง 25.1% ฮอนด้า 4,178 คัน ลดลง 62.8 ส่วนแบ่งตลาด 10.3%

ส่วนยอดขาย 5 เดือน อันดับที่ 1 โตโยต้า 8.08 หมื่นคัน ลดลง 43.3% ส่วนแบ่งตลาด 29.9% อีซูซุ 5.93 หมื่นคัน ลดลง 21.8% ส่วนแบ่งตลาด 21.9% และฮอนด้า 3.55 หมื่นคัน ลดลง 32.4% ส่วนแบ่งตลาด 13.1%

***

สำหรับยอดขายรายเดือนของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ , บีเอ็มดับเบิลยู และวอลโว่ ที่เป็น 0 เนื่องจากทั้ง 3 บริษัท จะแจ้งยอดจำหน่ายเป็นรายไตรมาส แทนรายเดือน