ฮุนได วาดแผน ขาย EV ปีละ 5.6 แสนคัน

อุตสาหกรรมยานยนต์เกาหลีเป็นอีกแหล่งที่พัฒนาอย่างรวดเร็วในหลายๆ ด้าน รวมถึงทางเทคโนโลยี 

เมื่อหลายปีก่อน ผู้ผลิตไม่ว่าจะเป็นฮุนได หรือ เกีย ออกมาประกาศว่าจะพัฒนาพลังงานใหม่ๆ สำหรับยานยนต์ ทั้งก๊าซ ทั้งไฮบริด ทั้งไฮบริดที่ใช้เครื่องยนต์ใช้ก๊าซ รวมถึงพลังงานไฟฟ้า

หลังจากนั้นไม่นาน ตลาดโลกก็ได้เห็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ อีวี ออกสู่ตลาดโลกหลายรุ่นด้วยกัน และสำหรับในไทย วันนี้ มีอีวี จากเกาหลี ทำตลาดถึง 3 รุ่นด้วยกัน คือ เกีย โซล อีวี และ อีก 2 รุ่น จากฮุนได คือ ไอออนิค อีเลคทริก และ โคน่า อีเล็คทริก

แม้ว่าจะยังมียอดจำหน่ายไม่มากนัก เนื่องจากการตอบรับของผู้บริโภคในเมืองไทย ยังไม่มากนัก และความพร้อมด้านอื่นๆ โดยเฉพาะจุดชาร์จก็ยังไม่เพียงพอ แต่ในเวทีโลก ตอนนี้ บทบาทของ ฮุนได โคน่า อิเล็คทริก ไม่ธรรมดาทีเดียว เพราะสามารถสร้างยอดจำหน่ายสะสมได้ 1.03 แสนคัน หลังจากเปิดตัวเข้าสู่ตลาดโลกเป็นเวลา 2 ปี 

ในเวทีโลก นิสสัน ลีฟ ได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่สร้างความเคลื่อนไหวในเชิงพาณิชย์เด่นชัดเป็นรายแรกของโลก และถึงเดือน ม.ค. ปีนี้ ยอดขายสะสมของ “ลีฟ” ทั้ง 2 เจเนอเรชัน อยู่ที่ 4.5 แสนคัน

นิสสัน ลีฟ เริ่มต้นเปิดตลาดในเดือน ธ.ค. 2553 และใช้เวลา 4 ปี มียอดขายครบ 1 แสนคัน ในปี 2557 ครบ 2 แสนคัน ในปี 2558 จากนั้นปี 2560 เปิดตัว เจเนอเรชั่น 2 และมียอดขายสะสมครบ 3 แสนคัน ในปีถัดมา และใช้เวลาอีก 1 ปีครบ 4 แสนคันปี 2562 และ 4.5 แสนคัน ในปีนี้

ดังนั้นหากเทียบกัน ถือว่าฮุนได โคน่า มีการเติบโตที่เร็ว แต่ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะผู้คนรู้จัก เข้าใจ และยอมรับ อีวี กันมากขึ้นแล้ว และแน่นอนส่วนหนึ่งก็ยกเครดิตให้กับผู้บุกเบิกอย่างนิสสัน ลีฟ ด้วยเช่นกัน 

แต่ตัวเลข 1 แสนคัน ในช่วง 2 ปี อาจจะไม่ตื่นเต้นเท่ากับเป้าหมายของฮุนได ที่กำหนดว่าภายในปี 2568 จะต้องมี อีวีจำหน่ายให้ได้ 5.6 แสนคัน/ปี 

จุดขายของ ฮุนได โคน่า อิเล็คทริก อย่างหนึ่งก็คือ ระยะทางการขับขี่ในการชาร์จไฟ 1 ครั้ง และความสามารถในการชาร์จไฟที่รวดเร็ว

และตั้งแต่เปิดตัว โคน่า ก็สามารถคว้ารางวัลติดตัวหลายรายการ เช่นรางวัลรถยนต์สำหรับครอบครัวขนาดเล็กที่ดีที่สุด จาก “TopGear Electric Awards” เมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา โดยการวัดจากสมรรถนะในการขับขี่ระยะเวลา 24 ชม. ระยะทาง 1,600 กม. ในการเดินทางในยุโรป และยังได้รับการยกย่องให้เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ดีที่สุดจาก “U.S. News & World Report” ในปีเดียวกัน 

ส่วนปีก่อนหน้า “WardsAuto” ได้เลือกฮุนได โคน่า เป็นหนึ่งใน 10 อันดับของเครื่องยนต์ที่ดีที่สุด และในปี 2561 “Auto Express” จัดให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่คุ้มค่าที่สุดแห่งปี รางวัล “รถยนต์ที่ดีที่สุดแห่งปี” จากหนังสือพิมพ์ เอบีซี ในประเทศสเปน รางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปีในทวีปอเมริกาเหนือ หรือ “2019 North American Utility Vehicle of the Year” อีกด้วย

สำหรับ โคน่า เป็นรถในรูปแบบ ครอสโอเวอร์ มอเตอร์ขับเคลื่อนให้กำลังสูงสุด 201 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 395 นิวตันเมตร ใช้แบตเตอรี่ ลิเธียม ไอออน โพลิเมอร์ ขนาด 64 กิโลวัตต์ชั่วโมง เมื่อชาร์จไฟเต็มที่สามารถขับขับได้ระยะทาง 258 ไมล์ หรือประมาณ 413 กม. ตามมาตรฐาน EPA ของสหรัฐ 

ส่วนสเปคหลักๆ ของรถเช่น วยไฟหน้า ไฟท้ายและไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบแอลอีดี ติดตั้งระบบ  ป้องกันการชนด้านหน้า (FCA) ระบบรักษาช่องทางอัตโนมัติ  (LKA) ระบบช่วยเปิด/ปิดไฟสูงอัตโนมัติ ระบบช่วยเตือนเมื่อผู้ขับเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (DAW)

ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตา (BCW)

หน้าจอแบบสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว พร้อมระบบนำทางเนวิเกเตอร์ รองรับระบบแอนดรอยด์ ออโต้ และแอ๊ปเปิ้ล คาร์เพลย์ หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่บริเวณกระจกหน้า (Heads-up display) ระบบเชื่อมต่อบลูลิงค์ ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ ที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย เป็นต้น

แต่แน่นอนการตั้งเป้าหมาย แบบก้าวกระโดดไกลๆ ฮุนได คงไม่ได้มีอาวุธหลักแค่ 2 รุ่นนี้เท่านั้น จากนี้ไป คงได้เป็น อีวี อีกหลายรุ่นของฮุนได ออกมาโลดแล่นบนท้องถนน เพื่อสานแผนใหญ่ให้ไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้