นิสสัน เทอร์ร่า เติมความสด เพิ่มความกระฉับกระเฉง

นิสสัน เทอร์ร่า เติมความสด เพิ่มความกระฉับกระเฉง

นิสสัน เป็นน้องใหม่ในตลาดพีพีวี โดยเปิดตัว "เทอร์ร่า" ปี 2561 แต่ตลาดไม่ดีนัก เหตุผลที่สำคัญคือรูปร่างหน้าตาไม่โดนใจผ แต่การมาของ เทอร์ร่า ไมเนอร์เชนจ์ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2564 มีพัฒนาการด้านการออกแบบ และการขับขี่ก็ดูคล่องแคล่วขึ้นเช่นกัน

นิสสัน เทอร์ร่า ไมเนอร์เชนจ์ มีการปรับเปลี่ยนหลายอย่าง ไม่วาจะเป็นรูปลักษณ์หน้าตา ที่เปลี่ยนแปลงมุมมองด้านหน้าทั้งหมด ประกอบด้วย 

  • ฝากระโปรง
  • กันชน
  • กระจังหน้า
  • แก้มหน้า
  • เพิ่มความโฉบเฉี่ยวกับโคมไฟหน้าโปรเจคเตอร์ รูปทรงเรียวโฉบเฉี่ยว
  • ไฟหน้า ควอด แอลอีดี
  • ระบบเปิดปิดไฟหน้า อัตโนมัติ และปรับระดับอัตโนมัติเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน ลดการรบกวนผู้อื่น
  • ไฟสำหรับขับขี่กลางวันทุกรุ่น
  • เพิ่มพื้นที่ชิ้นส่วนโครเมียมมากขึ้น 3 เท่าครึ่งเพื่อเติมความหรูหรา
  • ติดตั้งราวหลังคาสีเงินล้อไปกับชิ้นส่วนโครเมียม
  • เสาอากาศหันมาใช้แบบครีบฉลามตามสมัยนิยม
  • สปอยเลอร์หลังที่ติดตั้งบนหลังคาเปลี่ยนรูปทรงใหม่
  • ไฟท้ายแอลอีดี ไลท์ ไกด์ แบบเส้นคู่
  • ไฟเบรก แอลอีดี เห็นชัดเจน
  • แถบโครเมียมเชื่อมโคมไฟท้ายทั้ง 2 ข้างเข้าไว้ด้วยกัน
  • กันชนท้ายเปลี่ยนใหม่ สีทูโทน
  • ฝาท้ายออกแบบใหม่
  • ระบบปิด-เปิด ด้วยไฟฟ้า พร้อมคิกส์เซ็นเซอร์ หรือการแหย่เท้าเข้าไปใต้กันชน
  • ด้านระบบช่วยเหลือและความปลอดภัย สำหรับ
  • ติดตั้งโซนาร์ช่วยจอด 4 จุดด้านหน้า เซ็นเซอร์หน้า-หลัง พร้อมกล้อง 360 องศา เห็นภาพชัดเจน

163090108385

ส่วนระบบที่มีอยู่ในเทอร์ร่าอยู่แล้ว เช่น ระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน (Intelligent Emergency Braking – IEB) ระบบเตือนรถในมุมอับสายตา (Blind Spot Warning - BSW)ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง (Lane Departure Warning - LDW) ระบบตรวจจับวัตถุด้านหลังขณะถอย ระบบเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชน ระบยเตือนผู้ขับขี่เมื่อรู้สึกถึงการขาดสมาธิหรือเหนื่อยล้า (Intelligent Driver Alertness - IDA) กระจกมองหลังดิจิทัล เป็นต้น

 ส่วนภายในเปลี่ยนแปลงหลายอย่างเช่นกัน

  • แผงคอนโซลใหม่ และตัดที่วางของบนแผงคอนโซลออกไปไม่เกะกะสายตา (แต่หลายคนชอบให้มี)
  • ตัดที่วางแก้วใกล้ช่องแอร์ด้านริมสุด ซึ่งก็ช่วยให้ดูสะอาดตามากขึ้น
  • เปลี่ยนลายเบาะหนังใหม่
  • แผงมาตรวัดใหม่ ขนาดใหญ่ขึ้น
  • มอนิเตอร์ตรงกลางขนาดใหญ่ขึ้นจาก 8 นิ้วเป็น 9 นิ้ว
  • รองรับเชื่อมต่อ แอ๊ปเปิ้ลคาร์เพลย์ แบบไม่ต้องเชื่อมต่อสาย

163090108937

163090109080

163090108819

  • เครื่องเสียงคุณภาพดีจากโบส ส่งเสียงผ่านลำโพง 8 ดอก
  • จอแขวนหลังคาสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง เพิ่มความเพลิดเพลินในการเดินทาง ถ้าไม่มัวแต่เล่นโทรศัพท์มือถือ
  • ยูเอสบีบางตำแหน่งเปลี่ยนเป็นไทป์ ซี
  • เปลี่ยนมาใช้เบรกมือไฟฟ้า ยกเว้นตัวล่างสุด
  • เติมอารมณ์สปอร์ตด้วยพวงมาลัย ดี-เชพ เป็นต้น

163090108770

 

ราคาใกล้เคียงกับตัวเดิม ไม่ได้ปรับอะไรมากนัก แต่รุ่นเริ่มต้นลดลง 1 แสนบาท ทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ขณะที่รุ่นท็อปที่ผมลองขับวันนี้ ปรับเพิ่มขึ้น 4 หมื่นบาท แต่ก็เพิ่มออปชั่นเข้ามาหายอย่างด้วยกัน 

รูปลักษณ์หน้าตา การออกแบบภายใน เปลี่ยนแลงไปอย่างชัดเจน สวยไม่สวยอย่างไรก็แล้วแต่มุมมอง แต่ผมว่าดูดีขึ้น สวยขึ้น และลงตัวมากขึ้น

แต่รายละเอียดทางเทคนิคไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร แต่มีปรับบ้าง เช่น น้ำหนักพวงมาลัยที่ทำให้เบาลง และปรับอัตราทดใหม่ ช่วยให้รอบการหมุนลดลงจากเดิม 12% เพิ่มความคล่องตัวในการควบคุมมากขึ้น 

ช่วงล่างเดิม แต่เซ็ทใหม่เล็กน้อย เครื่องยนต์ตัวเดิม ดีเซล 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว เทอร์โบคู่ อินเตอร์คูลเลอร์ ขนาด 2,298 ซีซี รองรับเชื้อเพลิง ได้ทั้ง B7, B10 และ B20

  • กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,750 รอบ/นาที
  • แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500-2,500 รอบ/นาที

ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด

น้ำหนักรถเพิ่มขึ้น 32 กก.ส่วนความสูงใต้ท้องรถเพิ่มขึ้น 1 ซม.

163090108341

ผมมีเวลาค่อนวันในการขับ รับรถสายๆ และคืนรถตอนบ่ายแก่ๆ แต่ก็ตัดสินใจเลือกหนีเมืองกรุงมุ่งหน้าไปกาญจนบุรี

เป็นการเดินทางที่ต้องแข่งกับเวลาพอควร จากสภาพจราจร แม้จะอยู่ในช่วงล็อกดาวน์ก็ตาม แต่ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างหน้าตา และบางช่วงก็อยู่ในช่วงสร้างทางซ่อมทาง

จุดหนึ่งที่รับรู้ได้จากการลองครั้งนี้ก็คือ รถมีความกระฉับกระเฉงมากขึ้น อัตราเร่งดีขึ้น การเรียกความเร็วทำได้ทันอกทันใจมากขึ้น น่าแปลกใจไม่น้อย เพราะสมรรถนะเครื่องยนต์เท่าเดิม แต่เมื่อสอบถามวิศวกรจึงได้คำตอบว่ามีการปรับคันเร่งใหม่ ให้ตอบสนองเร็วขึ้นนั่นเอง 

163090108439

ช่วงล่างก็ตอบสนองได้ดี ทั้งการดูดซับแรงสั่นสะเทือน และการยึดเกาะถนน รถนิ่งดีครับเมื่อต้องเดินทางแบบเร่งรีบ และที่น่าสนใจคือเมื่อขับขี่ในเส้นทางโค้งทางเขา รถให้ความรู้สึกที่ดี แม้จะรับรู้ได้ถึงอาการโยนของตัวถังอยู่บ้างก็ตาม แต่ไม่มีปัญหาอะไรกับการควบคุม ขับสนุกกับเส้นทางแบบนี้ได้เลย ส่วนหนึ่งผมว่าพวงมาลัยก็มีผลไม่น้อย ความแม่นยำที่เพิ่มขึ้นช่วยให้คุมรถได้ง่ายขึ้น 

นี่ถ้าหากว่าไม่ลดน้ำหนักลงไป น่าจะให้ความรู้สึกที่ดีกว่านี้

เรื่องการขับขี่ ผมว่า เทอร์ร่า สอบผ่านครับ ขับสนุก เดินทางไกลไม่เหนื่อย ห้องโดยสารก็กว้างขวาง ทัศนวิสัยดี ทีนี้ก็เหลืออยู่ที่รูปโฉม จากความชอบของแต่ละคนครับว่า พอใจกับการเปลี่ยนแปลงมากน้อยเพียงใด 

ขณะที่การใช้งานห้องโดยสาร เป็นอีกจุดเด่นหนึ่ง เพราะมีความกว้างขวาง นั่งสบาย ทั้งเบาะคู่หน้า ส่วนเบาะนั่งแถว 2 มีพื้นที่เหลือเฟือ และโปร่งโล่ง ขณะที่เบาะนั่งแถว 3 ก็ใช้งานได้จริง ผู้ใหญ่นั่งได้สบายเช่นกัน โดยเบาะนั่งแถวที่ 2 แลถแถวที่ 3 สามารถปรับรูปแบบการใช้งานได้หลากหลาย 

163090108596

163090108636

163090109147

เทอร์ร่า มีให้เลือกรวม 3 รุ่นย่อยคือ 

  • 3E  2WD ขับเคลื่อน 2 ล้อ ราคา 1.199 ล้านบาท
  • 3 VL 2WD ขับเคลื่อน 2 ล้อ 1.449 ล้านบาท
  • 3 VL 4WD ตัวท็อปขับเคลื่อน 4 ล้อ ค่าตัว 1.499 ล้านบาท

ส่วนสีตัวถังมีให้เลือกคือ สีขาว ไวท์ เพิร์ล, สีเงิน บริลเลียนท์ ซิลเวอร์, สีดำ แบล็คสตาร์ และสีเทา ทไวไลท์ เกรย์ และมีสีพิเศษสำหรับรุ่น VL ได้แก่ สีแดง คูลีส์ และสีทองแดง ฟอร์จ คอปเปอร์

ส่วนภายในห้องโดยสารมีทางเลือกการตกแต่งแบบทูโทน ทั้งโทนสีดำ-แดงเบอร์กันดี หรือโทนสีดำ-เบจ