เกรท วอลล์ บุกไอคอนสยามผุด Experience Center โชว์เทคโนฯ พื้นที่ทำงาน-พักผ่อน

เกรท วอลล์ เข้าสู่ตลาดเมืองไทย และเปิดตัวรถยนต์รุ่นแรกในเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมาด้วย “ฮาวาล เอช6 ไฮบริด” ซึ่งก็สามารถสร้างยอดขายได้ในระดับที่เกรทวอลล์ บอกว่าพอใจ โดยเดือนกรกฎาคม มียอดส่งมอบ  320 คัน  เดือนสิงหาคม 408 คัน ขณะที่เดือนล่าสุดเดือนกันยายนทำได้ 405 คันรวมแล้วปัจจุบัน ฮาวาล เอช6 ไฮบริด อยู่ในมือลูกค้าแล้ว 1,133 คัน 
ส่วนตามแผนการตลาด เกรทวอลล์ระบุว่าปีนี้จะต้องเปิดตัวรถ 4 รุ่น จาก 2 ยี่ห้อ โดยจะเริ่มต้นจากอีวี “โอร่า กู๊ดแคท” (Ora Good Cat) เร็วๆนี้  ตามด้วย เอสยูวี ในกลุ่ม บี-เซ็กเมนต์ คือ ฮาวาล โจไลออน (Havla Jolion) นอกจากด้านผลิตภัณฑ์แล้ว สิ่งที่เกรทวอลล์ต้องดำเนินการ คือการสร้างสัมพันธ์กับลูกค้า การรับรู้ในตลาด และการแก้จุดอ่อนในตลาดรถยนต์ หรือ เพน พอยต์  ไม่ว่าจะเป็นนโยบาย ราคาเดียว  การเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภค สร้างประสบการณ์ร่วมกับผู้บริโภค และการทำตลาดรูปแบบใหม่ O2O (Online to Offline)

ซึ่งรวมถึงการสร้างเครือข่ายที่เรียกว่า ไดเร็ค สโตร์ ของบริษัทเอง ที่เรียกว่า จีดับเบิลยูเอ็ม สโตร์ (GWM Store) และการดำเนินการโดยพันธมิตร หรือ Partner Store
และล่าสุด บริษัทเปิดตัว GWM Experience Center เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่จะสร้างประสบการณ์ให้กับผู้บริโภค เป็นสาขาแรกในไทย และเป็นการเปิดนอกประเทศจีนเป็นแห่งแรก 

GWM Experience Center ตั้งอยู่บนพื้นที่ชั้น 3 และ 4 ห้างสรรพสินค้า ไอคอนสยาม มีพื้นที่มากกว่า 1,600 ตารางเมตร ออกแบบโดยได้รับแรงบันดาลจากเส้นสายต่างๆ ที่เป็นเอกลักษณ์จากโลโก้และรถยนต์ของ เกรท วอลล์ 
ตกแต่งด้วยต้นไม้และวัสดุจากธรรมชาติ ใช้โทนสีที่เรียบง่าย แบ่งพื้นที่ออกเป็น 7 โซน ได้แก่ 

1.MOBILITY EXPERIENCE PARK
เป็นโซนขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมบริเวณส่วนกลางของ GWM Experience Center จัดแสดงรถยนต์รุ่นต่างๆ โดยไฮไลท์ยู่ที่ LED Sphere เป็น LED ลูกโลกขนาดใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลาง 1.8 เมตร น้ำหนักกว่า 350 กิโลกรัม และมีความสว่าง 800 แคนเดลา/ตารางเมตร ควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ พร้อมลำโพงติดผนัง 
อีกหนึ่งไฮไลท์ คือ สไลด์เดอร์ความสูง 6.9 เมตร ยาวกว่า 15 เมตร เด็กเล่นก็ได้ ผู้ใหญ่เล่นก็ไม่มีปัญหาหากต้องการย้อนวันวานสู่วัยเยาว์ได้อย่างสนุกสนาน 
โซนนี้ยังจัดเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ส่วนกลาง จัดที่นั่งแบบ Amphitheater สำหรับการหมุนเวียนจัดกิจกรรมต่างๆ ที่ปรับเปลี่ยนการจัดสรรพื้นที่ได้ตามต้องการ รองรับได้กว่า 100 ที่นั่ง 

2. TECHNOLOGY LAB
จัดแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรม ติดตั้ง Intelligent Interactive LED Wall ขนาด 14 x 3 เมตร ความละเอียด 7.5 ล้านพิกเซล ความสว่าง 600 แคนเดลา/ตารางเมตร ควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์และระบบเสียง 
นอกจากนี้ยังติดตั้ง LiDAR touch sensor เพิ่มลูกเล่นและกิจกรรม Interactive ให้กับผู้เยี่ยมชมได้เป็นอย่างดี โดยมีจุด Interactive Touch Points 5 จุด รองรับผู้เล่นได้ 5 คน 
และยังมีการบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ที่แตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น โดยจุดตรงกลางจะสามารถดูภาพได้360 องศา 

3. CONFERENCE HALL
พื้นที่ห้องประชุม 2 ห้อง รองรับได้ 40 ที่นั่ง ออกแบบเป็นกระจกบานใหญ่เพื่อเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้เต็มที่ และไฮไลท์สำคัญคือ จอ Interactive Smart Board แบบทัชสกรีน ขนาด 86 นิ้ว ที่รวมเทคโนโลยีที่เอื้อต่อการทำงาน 
ตั้งแต่การใช้งานแบบเขียนกระดานไวท์บอร์ดทั่วไป ใช้เป็นโปรเจคเตอร์ นำเสนองาน หรือการประชุมผ่านวิดีโอ Conference โดยสามารถแชร์หน้าจอได้ถึง 4 หน้าจอพร้อมกัน และยังสามารถบันทึก แชร์เนื้อหาและเสียงจากการประชุมจาก Smart Board ไปยังคอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊ค แทบเล็ต หรือโทรศัพท์ได้ในทันที 
4. LIVING ROOM & SKY GARDEN
ครอบคลุมบริเวณพื้นที่ทั้ชั้น 3 และชั้น 4 แต่ละชั้น แบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วน คือ Indoor จัดที่นั่งให้ดูสบายสามารถมานั่งทำงาน หรือจิบกาแฟสบายใจ 
ขณะที่พื้นที่ Outdoor จัดเป็น Sky Garden เหมาะทั้งการนั่งทำงาน การหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ หรือการพักผ่อนรับลมและชมวิวสวยๆ ของแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมจิบเครื่องดื่มแก้วโปรด 

5. GWM STORY
ติดตั้ง Interactive Wall ขนาด 2.5 x 1.5 เมตร ถ่ายทอดเรื่องราวและประวัติความเป็นมาของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ตั้งแต่การเริ่มก่อตั้งในปี 2527 วิวัฒนาการของแบรนด์และผลิตภัณฑ์ ขั้นตอนและรายละเอียดการผลิตรถยนต์ เส้นทางความสำเร็จของแบรนด์

6. CAR MAPPING
ไฮไลท์สำคัญคือ Car Mapping ซึ่งเป็นโมเดลจำลองรถยนต์จากแบรนด์ ORA แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า 100% ผู้เยี่ยมชมสามารถใช้จินตนาการของตนเองได้อย่างอิสระ ด้วยการลงสีรถยนต์บนจอได้ตามที่ต้องการ จากนั้นระบบจะประมวลผลผลงานการระบายสีผ่านระบบโปรเจคเตอร์และไฟ LED ก่อนสะท้อนสีสันไปบนโมเดลรถยนต์ ORA ให้ได้เห็นผลงานของตนเอง 
ผู้เยี่ยมชมสามารถกับเซฟไฟล์ภาพหรือถ่ายรูปเพื่อนำผลงานไปอวดในโซเชียลมีเดียได้อีกด้วย

7. GWM CAFE & CO-KITCHEN
แบ่งเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนที่เป็น คาเฟ่ ให้นั่งพักผ่อน กับเครื่องดื่มที่ชื่นชอบ และยังมี Interactive Coffee Table ด้วยโต๊ะที่เป็นจอดิจิทัลขนาด 55 นิ้ว มีเลเซอร์โปรเจคเตอร์ เลนส์ซูม Motion sensor และ Interactive pen สามารถตรวจจับจำนวนวัตถุได้แบบเรียลไทม์ 
โดยเมื่อวางแก้วเครื่องดื่มลงบนโต๊ะ ระบบเซนเซอร์จะตรวจจับตำแหน่งของแก้ว พร้อมแสดงรูปสัตว์น่ารักๆ ประเภทต่างๆ เพิ่มสัมผัสของธรรมชาติและการรักษ์โลก โดยมีบาริสต้าคอยให้บริการ และเปิดให้ผู้ที่เยี่ยมชมเขียนและแชร์ไอเดียรักษ์โลกในรูปแบบต่างๆ ด้วย Interactive Pen เพื่อแสดงผลไปยังจอด้านหลัง
ในส่วนของ Co-Kitchen จัดเตรียมไว้สำหรับการทำกิจกรรมเกี่ยวกับการประกอบอาหารที่สามารถคิดค้นเมนูกันได้อย่างเต็มที่ 

ณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า เกรท วอลล์ เชื่อว่าผู้บริโภคทุกคนมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจและนวัตกรรมใหม่ๆ และสิ่งนี้ถือเป็นวัฒนธรรมหลักและ DNA ของ เกรท วอลล์ มอเตอร์  จึงสร้างพื้นที่ที่เปิดกว้างให้ผู้ที่มาเยี่ยมชมทุกท่านได้มีโอกาสมาร่วมทำกิจกรรมต่างๆ ทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นลูกค้า