เทคนิคง่ายๆ ขับรถให้ปลอดภัย .... รับมือสงกรานต์

มีรถยนต์ใหม่ๆ ออกสู่ท้องถนนปีละนับล้านคัน แต่มีรถที่เลิกใช้ไม่มากนักในแต่ละปี ขณะเดียวกันก็มีนักขับเพิ่มจำนวนขึ้นทุกปีเช่นกัน ซึ่งไม่รู้มีทักษะ มีความเข้าใจต่อการจราจรมากน้อยแค่ไหน รวมถึงพวกนักขับเก่าๆ ด้วยเช่นกัน และนั่นเป็นเหตุผลหนึ่งของปัญหาจราจรที่ตามมา รวมถึงความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุอีกด้วย 

และยิ่งในช่วงเทศกาลอย่างเช่น สงกรานต์ ที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่วันนี้ ปริมาณรถยนต์จะมากกว่าช่วงเวลาปกติ ก็จะยิ่งทำให้มีความเสี่ยงมากขึ้น แต่ก็ใช่ว่าจะไม่สามารถป้องกันได้

ทุกคนต้องปรับตัวและปรับใจให้เข้ากับสถานการณ์ให้ได้ และมีบางอย่างที่คอลัมน์ “ยานยนต์” นำมาฝากเพื่อเป็นประโยชน์ในการเดินทาง ทั้งไป และกลับ รวมถึงการเดินทางระหว่างช่วงเทศกาล ซึ่งก็เป็นเรื่องพื้นฐานทั่วไป ที่หลายคนก็รู้อยู่แล้ว แต่อาจจะลืมนึกถึงไป 

การสังเกตและประเมินสถานการณ์รอบตัวตลอดเวลาจึงเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งทำได้โดยการใช้สายตาให้เป็นประโยชน์ ต้องมอบรอบๆ เป็นระยะๆ ทั้งมองโดยตรง และมองผ่านกระจก เช่น กระจกข้าง กระจกมองหลัง และดูว่ารอบข้างของเราขับรถเป็นอย่างไร มีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน เช่น ขับจี้ท้าย ขับส่ายไปมา หรือเบรกกระชั้นชิดบ่อยๆ ซอกแซกในช่องทางที่ไม่ควรไป ก็ควรอยู่ให้ไกล จะหนีไป หรือหลบให้เขาแซงไปก่อนก็ตามความเหมาะสม

นอกจากเรียนรู้พฤติกรรมผู้ขับ ก็ต้องเรียนรู้สิ่งแวดล้อมรอบข้างด้วย สภาพถนนเป็นอย่างไร ทางร่วม ทางแยก หรือจุดที่รถจะเข้าออก เช่น ร้านอาหาร ปั๊มน้ำมัน  

ทางแยกไม่ว่าจะมีสัญญาณไฟหรือไม่ สิ่งที่ต้องทำคือลดความเร็วทุกครั้งแม้จะได้สัญญาณไฟเขียวก็ตาม ไม่ต้องถึงกับเบรก แต่ผ่อนคันเร่งลง เพราะไม่รู้ว่าจะมีรถจากด้านอื่นที่จะฝ่าสัญญาณไฟหรือไม่ หรือสัญญาณด้านเราจะเปลี่ยนเป็นไฟเหลืองไฟแดงเมื่อไร กรณีที่ไม่มีตัวเลขบอกเวลา 

และยังเป็นการป้องกันไม่ให้ถูกชนทางด้านท้าย เพราะหากเติมความเร็วเพื่อผ่านแยก คันหลังก็อาจจะกดคันเร่งตามเช่นกัน ดังนั้นเมื่อเบรกเพราะไม่ทัน ก็มีความเสี่ยงที่คันหลังซึ่งเบรกช้ากว่า จะเบรกไม่ทัน

และเมื่อขับรถผ่านทางแยก อย่าเปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินทุกกรณี เพราะจะทำให้รถทางอื่นสับสนได้ โดยเฉพาะรถที่อยู่ในเส้นถนนที่ตัดกัน

ส่วนปั๊มน้ำมันซึ่งเกือบทั้งหมดอยู่ติดถนน ดังนั้นช่องทางเข้าออก ก็เลยกลายเป็นเหมือนทางแยกไปในตัว และมีผู้ขับจำนวนมากที่ตัดสินใจไม่ค่อยดีทั้งเข้าและออก เช่น เปลี่ยนเลนกะทันหันจากเลนกลางหรือขวาสุดเพื่อเข้าปั๊ม เช่นเดียวกับรถที่จะออกจากปั๊มสู่ถนน  บางทีก็ไม่ดูความความเร็วของรถบนถนน ดังนั้นทางป้องกันที่ดีคือชะลอรถเมื่อเห็นมีปั๊มอยู่ด้านหน้าไกลๆ  

ร้านอาหาร ร้านขายของริมทาง หรือช่องทางเข้า-ออก ก็เช่นกัน ต้องเพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้น

นอกจากเพิ่มความระมัดระวังคนอื่นแล้ว ก็ต้องระวังตัวเราเอง คือ ระวังไม่ให้เราไปสร้างปัญหาให้คนอื่น เช่น ไม่ขับรถขวางทาง อยู่ในถูกช่องทาง เลิกขับช้าแช่ขวา 

เลิกใช้ไหล่ทางโดยเด็ดขาด เหลือพื้นที่นี้เอาไว้สำหรับรถที่จอดเสีย คนที่สัญจรด้วยวิธีอื่น เช่น คนเดินเท้า จักรยาน จักรยานยนต์ หรือรถฉุกเฉิน 

อีกทั้งการใช้ไหล่ทางเป็นการเอาเปรียบคนอื่น ทำให้เกิดปัญหาจราจร และอุบัติเหตุได้ง่าย 

 

เว้นช่องว่างที่เหมาะสม กับรถทุกๆ ด้าน ทั้งด้านหน้า ด้านหลัง ด้านข้าง 

ไฟเบรก เป็นอุปกรณ์ที่มีไว้เพื่อให้รถคันหลังได้รู้ว่ารถที่อยู่ด้านหน้าลดความเร็วลง ช่วงที่รถบนท้องถนนมีจำนวนมาก  การใช้แป้นเบรกให้เร็วขึ้น แต่เพื่อให้สัญญาณไฟทำงาน จะทำให้คันหลังเพิ่มความระมัดระวัง ทำให้ปลอดภัยทั้ง 2 ฝ่าย 

การขับขี่ขึ้นลงเขา หากว่าไม่มีประสบการณ์มาก่อน ก็ไม่ควรเสี่ยง ส่วนใครที่ขับได้ ก็อย่าลืมเรื่องของการใช้เกียร์ เบรก คลัทช์ ที่ถูกต้อง หลีกเลี่ยงการใช้เบรกนานๆ เมื่อลงเนิน แต่ใช้เกียร์ต่ำให้เกิดเอ็นจิ้นเบรกแทน

อย่าลืมเว้นระยะจากคันหน้าพอควร เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้แก้ไขได้ทัน หรือกรณีคันหน้าดับกลางเนิน จะได้มีที่หลบ ป้องกันการไหลมาของคันหน้าได้

อย่าขับตัดโค้ง ให้ขับในเลนของเราเท่านั้น การตัดโค้งเอาไว้ใช้ในสนามแข่ง ไม่ใช่บนท้องถนน และควรเลือกแซงในพื้นที่ที่ปลอดภัยที่สุด มองเห็นด้านหน้าได้ในระยะที่เพียงพอ และหากมีรถที่เร็วกว่าตามมา เมื่อมีพื้นที่เพียงพอ หรือช่วงที่มีถนนเพิ่มสำหรับการแซง ก็ควรจะหลบให้เขาแซงไปได้ง่ายๆ โดยไว

อีกสิ่งหนึ่งคือ หมั่นมองดูหน้าปัดรถบ่อยๆ เพื่อดูว่ารถมีอะไรผิดปกติหรือไม่ จะได้ไม่บานปลายภายหลัง 

นอกจากรถ ก็ต้องเตรียมพร้อมสำหรับคนเช่นกัน เพราะไม่รู้ว่าช่วงเวลาแบบนี้ สภาพจราจรข้างหน้าจะเป็นอย่างไร หรือว่าร้านอาหารที่หมายมั่นปั้นมือไว้ จะคนแน่นหรือ วัตถุดิบหมดหรือไม่ ดังนั้นจึงควรเตรียมน้ำ เตรียมอาหาร ขนมนมเนย ติดรถไว้บ้างก็ดีครับ 
เรื่องทั้งหมดนี้ ทำง่าย จำง่าย แต่ช่วยให้ปลอดภัยทุกคน