เอมันนี่ เร่งเครื่องโปรโมทแบรนด์ เสริมทัพดิจิทัลแพลตฟอร์ม
“บมจ. ไอร่า แอนด์ ไอฟุล” เปิดแผนธุรกิจปี 2562 เดินหน้าบุกตลาดสินเชื่อส่วนบุคคล
ชูกลยุทธ์คาแรคเตอร์มาร์เก็ตติ้ง-พรีเซ็นเตอร์
นายคัทสุฮิโกะ มาโดโนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอร่า แอนด์ ไอฟุล จำกัด (มหาชน)ผู้ให้บริการบัตรกดเงินสด “เอมันนี่” (A money) ภายใต้คอนเซ็ปต์ “A money บัดดี้เรื่องเงิน” เปิดเผยว่า ในปี 2562 บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจครบ 4 ปี และกำลังก้าวสู่ปีที่ 5 โดยยังคงมุ่งเน้นในเรื่องสินเชื่อส่วนบุคคล เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเป็นผู้ให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลที่เติบโตเร็วที่สุดในประเทศไทย ด้วยการสื่อสารสร้างการรับรู้และจดจำแบรนด์ A money โดยใช้กลยุทธ์คาแรคเตอร์มาร์เก็ตติ้ง (Character Marketing) ผ่านมาสคอตลิงหิมะ “ซารู้ว” (Saruu) ที่เปิดตัวในปี 2561 โดยจะสื่อสารผ่านสื่อต่างๆ อาทิ การตกแต่งสาขา โบรชัวร์ และวิดีโออย่างต่อเนื่อง ด้วยคอนเซ็ปต์ “Witty-Smart-Friendly” สะท้อนบุคลิก “ปราดเปรียว เฉลียวฉลาด มีไหวพริบ และเป็นมิตรกับทุกคน” เป็นสัญลักษณ์เพื่อสื่อถึง A money ในด้านของการเป็นผู้ให้บริการบัตรกด เงินสดที่สมัครง่าย อนุมัติไว รับบัตรได้ทันที ควบคู่ไปกับการโปรโมทผ่าน “เต๋อ-ฉันทวิชช์ ธนะเสวี” ซึ่งเป็น พรีเซ็นเตอร์บัตรกดเงินสด A money ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 รวมถึงการจัดกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) อย่างต่อเนื่อง ภายใต้ชื่อโครงการ “A money บัดดี้ชวนทำดี” โดยเน้นให้พนักงานมีส่วนร่วมในการส่งต่อสิ่งดีๆ ให้กับสังคม เพื่อสร้างสังคมแห่งการแบ่งปันให้เกิดขึ้นตั้งแต่ภายในองค์กร
นอกจากนี้ บริษัทฯ จะมีการพัฒนาการให้บริการด้วยการนำแพลตฟอร์มและเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาใช้งานเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการลูกค้าในยุคดิจิทัลมากขึ้น ซึ่งจะเป็นการตอบสนองต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันที่ชื่นชอบความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย รวมทั้งบริษัทฯ ได้ทำการตลาดเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการจัดแคมเปญ “จ่ายตรง...ลุ้นโชค” ซึ่งแคมเปญดังกล่าวนับได้ว่าเป็นการคืนกำไรให้ลูกค้าที่มีประวัติการชำระหนี้ตรงตามวันครบกำหนด โดยเปิดตัวไปในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา และนอกจากนี้จะยังมีแคมเปญอื่นๆ ที่เตรียมจะทยอยเปิดตัวตามมาภายในปีนี้่อีกมากมาย
นายมาโดโนะ กล่าวเพิ่มเติมว่า กลุ่มเป้าหมายหลักของบัตรกดเงินสด A money คือ พนักงานบริษัททั้งในเขตชุมชนเมืองและโรงงานอุตสาหกรรม โดยปัจจุบัน A money มีสาขาและบูธภายในศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าทั่วประเทศ ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2562 รวมทั้งสิ้นจำนวน 86 แห่ง แบ่งเป็นสาขา 53 แห่ง และบูธ 33 แห่ง ลูกค้าบัตรกดเงินสด A money สามารถกดเงินสดผ่านเครื่องเอทีเอ็มของธนาคารพันธมิตร ได้แก่ ธนาคารธนชาต ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย และธนาคารกสิกรไทย โดยลูกค้าบัตรกดเงินสด A money สามารถชำระเงินผ่านจุดบริการเคาน์เตอร์เซอร์วิสกว่า 15,000 แห่ง จุดบริการวันสต๊อปเซอร์วิสที่เทสโก้ โลตัสกว่า 2,000 สาขา จุดบริการแคชเชียร์ที่บิ๊กซีกว่า 900 สาขา และยังคงมองหาพันธมิตรเพิ่มเติมเพื่ออำนวยความสะดวกและให้บริการลูกค้าครอบคลุมทั่วประเทศ
“การบริโภคภาคเอกชนและเศรษฐกิจไทยในภาพรวมมีทิศทางขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยจากข้อมูล การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เมื่อเดือนธันวาคม 2561 ได้ปรับตัวเลขคาดการณ์การบริโภค ในปี 2562 จาก 3.7% เพิ่มเป็น 4% ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล เพราะหากประชาชนมีการจับจ่าย ใช้สอยเพิ่มขึ้น บัตรกดเงิน A money ก็จะเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจเช่นกัน ส่วนหนี้ภาคครัวเรือนและ หนี้นอกระบบที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ทำให้ต้องเข้มงวดและระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้นนั้น บริษัทฯ มีระบบการดูแลในเรื่อง Credit Scoring หรือคะแนนเครดิต เพื่อประเมินความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้า ตามสภาพเศรษฐกิจและติดตามเรื่องหนี้ครัวเรือนอย่างใกล้ชิด ตลอดจนเตรียมการความพร้อมบุคลากร ให้มีความรู้ด้านการทำธุรกิจการเงินในยุคดิจิทัลมากยิ่งขึ้น” นายมาโดโนะ กล่าวในตอนท้าย