“ ปลาเร็วกินปลาช้า”

ที่ผ่านมาเราคงได้ยินแต่ “ ปลาใหญ่ กินปลาเล็ก” นะครับ ที่พร่ำสอนต่อๆกันมาเช่นนี้ ในธุรกิจ ปลาใหญ่เท่านั้นที่จะอยู่รอด และก็กินปลาเล็กได้อย่างเอร็ดอร่อย และปลาเล็กก็ต้องล้มหายตายจากกันไป แต่ผมคิดว่า ยุคนั้นได้หมดไปแล้วครับ

เพราะเราได้เข้าสู่ ยุค “ ปลาเร็วกินปลาช้า” เป็นที่เรียบร้อย ธุรกิจที่เล็ก ก็โตข้ามหน้าข้ามตาธุรกิจใหญ่ๆมาให้เห็นกันก็มากแล้ว จนถึงขั้น ธุรกิจใหญ่ๆ องค์กรใหญ่ๆ ที่เคยมองธุรกิจเล็กๆ ว่าไม่น่ารอด ไม่น่าร่วมลงทุนด้วย ปัจจุบันนี้ กลับกลายเป็น ปลาเล็กยังอยู่ และได้เติบโตเป็นปลาหนุ่มที่เติบโตสวยงาม แต่ปลาใหญ่กลับล้มตาย ขุดหลุมฝังตัวเองเรียบร้อยครับ ดังเช่น Blockbuster

บริษัท Home Movie ที่แต่ก่อน แฟนหนังจะติดตามดูกันว่า เอ…ภาพยนตร์เรื่องไหนจะติดอันดับ Blockbuster บ้าง บางคนถึงขนาด ถ้าเรื่องไหนไม่ติดอันดับก็ไม่เช่าหรือซื้อแผ่นดีวีดีมาดูซะอย่างงั้น Blockbuster ที่ใหญ่ซะจนมองไม่เห็นสิ่งเล็กๆที่อยู่รอบตัว ปลาเล็กๆที่พร้อมจะผงาดขึ้นมาแทนที่ และหนึ่งในปลาเล็กตัวนั้นก็คือ Netflix แอพพลิเคชั่นชมภาพยนต์ออนไลน์ ที่เคยมายื่นข้อเสนอกับทาง Blockbuster แต่ปลาใหญ่ก็ไม่ได้เหลียวแล ปลาซิวปลาสร้อยตัวนี้เลย จนท้ายที่สุด เพียงเวลาไม่นาน Blockbuster ล้มละลาย ตายหายไปอย่างฉับพลัน ในขณะที่ Netflix โตไวราว Thor เทพเจ้าสายฟ้า และจากที่เคยเป็นแค่ปลาซิวปลาสร้อยก็กลับกลายเป็นปลาวาฬแห่งท้องทะเลเลยครับ

และนั่นก็เป็นตัวอย่างหนึ่งที่ทำให้ผมได้แง่คิดว่า ยุคสมัย 4.0 นี้ จะใหญ่ จะเล็กไม่ใช่ประเด็นสำคัญอีกต่อไป มันอยู่ที่ความเร็ว ว่าใครจะไวกว่ากัน แต่ผมก็ไม่ได้หมายความว่า เร็วแล้วจะรอดเท่านั้น เร็วแล้วต้องแม่นด้วยครับ ต้องมีทีมที่แข็งแกร่งครับ รวมไปถึงการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ได้อย่างตรงจุดและตรงตัว สามารถ Disrupt อุตสาหกรรม และ Pain Point ได้แบบ “ เกาตรงจุดที่คัน” พอดีเป๊ะ ฉะนั้น ปลาเร็ว แต่ต้องไม่เร็วอย่างเดียว แบบ เร็วมุทะลุ แต่เป็นปลาเร็วที่ไปได้ถูกจุดต่างหากครับ

สรุปแล้ว ประโยคที่ผมมักจะพูดเสมอคือ

“ ทำเร็ว Scale ได้ เสียเปรียบยามที่ต้องเสียเปรียบ เป็นยุคแห่ง ปลาเร็วกินปลาช้า ปลาใหญ่กินปลาเล็กมันเก่าแล้ว แต่ ! ถ้าปลาเล็กแล้วยิ่งช้า ยิ่งไม่ต้องทำอะไรเลยครับ” ถ้าอย่างนั้นแล้ว จะต้องเร็วอย่างไรล่ะครับ สมัยก่อน การจะคิดค้นผลิตภัณฑ์หนึ่งๆขึ้นมา กว่าจะคิดได้ กว่าจะพัฒนาได้ กว่าจะอนุมัติ กว่าจะผลิตออกมาเป็นสินค้า กว่าจะๆๆอยู่อย่างนี้ครับ และด้วยวัฒนธรรมองค์กรใหญ่ๆก็จะมีนโยบาย และขั้นตอนที่มากมาย เหมือนอะไรที่ใหญ่มากๆ ก็อาจจะขยับยาก เดินไปได้แบบอุ้ยอ้ายๆหน่อยครับ แต่พอเป็นองค์กรที่เล็ก มี Co-Founder กันอยู่สามคน มีไอเดียบรรเจิดอะไร สามารถคิด วิเคราะห์ ตัดสินใจกันได้ภายในประชุมเดียว และด้วยเทคโนโลยีที่ปัจจุบันนี้ช่างเอื้อเฟื้อต่อความเร็วที่ต้องการ มีเทคโนโลยีที่สามารถรองรับไอเดียแจ่มๆได้มากมาย เมื่อนวัตกรรม ผสานรวมเข้ากับเทคโนโลยี ได้ไวกว่า 4G

แน่นอนว่า นวัตกรรมใหม่ๆก็เกิดออกมาได้รวดเร็ว สามรถลดต้นทุน ลดเวลา และลดราคาให้กับผู้บริโภคได้อีกด้วย และยุคนี้ การสื่อสารเป็นไปด้วยความรวดเร็ว สามารถเป็นตัวช่วยด้าน PR และ Marketing ให้มีประสิทธิภาพเข้าไปอีก ทำให้ Product อะไรที่ดีๆ สามารถเข้าถึงคนหมู่มากได้อย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกันกับ Product ที่ไม่ดี ข่าวสารก็ไปถึงผู้บริโภคได้รวดเร็วเช่นกัน ก็กลับมาเรื่องเดิมครับ ความเร็วของธุรกิจคุณ คุณพร้อมที่จะขยับและเปลี่ยนแปลงได้เร็วแค่ไหน บางครั้งการออก Product แรกมาอาจจะยังไม่สมบูรณ์แบบ แต่ก็สามารถที่จะพับโปรเจคทิ้งอย่างรวดเร็วและเปลี่ยนใหม่ ลองผิดลองถูกแบบรวดเร็ว ท้ายที่สุดก็จะได้สินค้าและบริการในแบบที่ตรงใจผู้บริโภคมากที่สุด

 และนี่ล่ะครับคือสามเหตุที่ปลาเร็วกินปลาช้าครับ ไม่เกี่ยงขนาด ไม่เกี่ยงธุรกิจ อยู่ที่กลไก กระบวนการสร้างนวัตกรรมมากกว่าครับ ว่าจะสามารถบู๊ บุ๋น รุก และรับ ได้รวดเร็วแข็งแกร่งเพียงใด แล้วคุณก็จะกลายเป็นปลาที่เติบโตแข็งแรง เป็นปลาที่อยู่รอดได้ในทุกฤดูกาล แม้น้ำเชี่ยวน้ำหลาก คุณก็จะสามารถปรับตัว ปรับกลยุทธ์ตามเกมส์แห่งโลกธุรกิจไปได้ อ่านๆดูแล้วเหมือนจะพูดง่าย แต่ทำยากนะครับ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ถ้าเพียงแต่ “ เร็วให้ถูกที่ เร็วให้ถูกทาง” ก็ไปได้ครับ และคุณก็จะกลายเป็น “ปลาเร็วที่ปรับตัวได้กับทุกกระแสน้ำ จะเป็นปลาที่คงทนอยู่รอดในน่านน้ำมหาสมุทรใหญ่ครับ”