3 สิ่งที่ต้องสร้างเพื่อ “พลิกธุรกิจ” ในยุคเศรษฐกิจยาก
ในยุคที่อะไรก็ยากกกเช่นนี้!! คงจะเป็นเรื่องดีไม่ใช่น้อย หากเรามีสูตรสำเร็จที่สามารถตอบโจทย์แก้ปัญหาธุรกิจได้ในทุกสถานการณ์
ในยุคที่อะไรก็ยากกกเช่นนี้!! คงจะเป็นเรื่องดีไม่ใช่น้อย หากเรามีสูตรสำเร็จที่สามารถตอบโจทย์แก้ปัญหาธุรกิจได้ในทุกสถานการณ์ การตามหาสูตรสำเร็จที่ว่านี้เป็นเรื่องท้าทายของคนทำธุรกิจทุกคน ที่แต่ละคนต้องหาสูตรของตัวเองให้เจอ ซึ่งไม่ง่ายเอาเสียเลย ที่เราจะหามันภายใต้บริบททางธุรกิจรอบตัวที่เปลี่ยนไปอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นสภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก พฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนไปอยู่บนโลกออนไลน์มากขึ้น หรือ คู่แข่งที่มีนวัตกรรมแปลกๆเพิ่มขึ้น นึกแค่นี้ก็รู้สึกวิงเวียน ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังขับรถไถเข้าไปในทุ่งนาที่ผิวถนนขรุขระ แถมฝุ่นยังฟุ้งตลบอบอวลอีกต่างหาก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีทางออกเสียเลย เรามาดูกันดีกว่าว่า 3 ขั้นตอนที่เราเรียบเรียงมาจะตอบโจทย์คุณขนาดไหน?
- สร้าง Sense of urgency เพื่อเห็นนรกให้ชัดเจน
เป็นการสร้างการรับรู้ในระดับจิตใต้สำนึกว่าตอนนี้อะไรคือสิ่งที่คอขาดบาดตายในธุรกิจ ที่หากทำไม่สำเร็จในระยะเวลาอันสั้น นั่นหมายถึงจุดจบ เริ่มแรกนี้ยังไม่ต้องคิดว่าจะชนะ แค่รอดให้ได้ก่อนก็พอ ซึ่งการสร้างการรับรู้นี้เราต้องพาตัวเองไปฟังความล้มเหลวของธุรกิจดั้งเดิมเยอะๆ ไปรู้จักธุรกิจในตำนานว่าทำอะไรแล้วเจ๊ง!! ไปเห็นว่าคนที่แม้เก่งกว่าเราเขาพลาดอะไร เรื่องเหล่านี้จะเป็นแรงขับเคลื่อน ในการผลักดัน
- ตัดแว่นมอง Need ใหม่ เพื่อเห็นอนาคตที่สดใส
ด้วยความที่เงินถูกใช้บนโลกออนไลน์มากขึ้น จึงทำให้เกิดสภาวะเงินทองหายากในโลกออฟไลน์ เราต้องหาทางเห็นให้ได้ว่าในโลกที่เปลี่ยนไปแล้วนี้ ความรู้สึกนึกคิดของลูกค้าคุณเปลี่ยนไปอย่างไร และ พวกเขาต้องการอะไรกันแน่? แค่ลองฝึกใช้เครื่องมือออนไลน์ซื้อขายกับเขา ก็เพื่อให้รู้ว่าทำไมเขาไม่ซื้อ หรือ เขาซื้อเพราะอะไร อย่าไปเดาเองส่งเดช ทำเลย!!! เมื่อตัวคุณคุ้นเคยกับลูกค้าที่มีพฤติกรรมใหม่ๆ ทีนี้ก็เร่งเครื่องเอาใจ ขยายจำนวนลูกค้า!!!! อ้อ!! แล้วอย่าไปหมกมุ่นกับการแก้ปัญหาให้เขามาก ธุรกิจที่แก้ปัญหาได้ดี แต่ทำเงินไม่ได้ ต้องเรียกว่าการกุศล
- พัฒนา Digital Tool เพื่อสร้างความมั่นคง
เมื่อเราสร้างธุรกิจมาสักระยะ เราจะเริ่มรู้ตัวแล้วว่า เรามีข้อจำกัด!!! ของฟรีมีข้อจำกัด การยืมจมูกคนอื่นหายใจมีข้อจำกัด หากเราจะก้าวผ่านข้อนี้ไปได้ คือ ต้องรู้จักลงทุนในเครื่องมือดิจิทัลของเราเอง และอย่าเพิ่งคาดหวังว่าเครื่องมือจะเป็นทุกอย่างของธุรกิจ เรายังคงต้องใช้กำลังในโลกออฟไลน์ของเราอยู่เหมือนกัน เพียงแต่เครื่องมือจะทำให้เรารู้จักลูกค้าเรามากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ผ่านข้อมูล สถิติ ความเป็นไปได้ ทำให้เราเอาใจลูกค้าได้แม่นขึ้น เอาใจแล้วเอาใจอีกได้โดนขึ้น!!!
เราต่างก็รู้ว่าการจะมีธุรกิจที่สอดคล้องกับอนาคตนั้นยากกกกก เหลือเกิน!!! เพียงแต่เราปฏิเสธที่จะพลิกธุรกิจของเราไม่ได้ เพราะนรกวิ่งไล่หลังเราอยู่ ดังนั้นแค่ใช้ความรู้คงไม่พอ ต้องมีกระบวนท่าและประสบการณ์ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ (O2O) ซึ่งการที่เราพาธุรกิจเรามาเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากระบบ ปัญหาที่เกิดจากลูกค้าที่ใช้งานระบบ ปัญหาที่เกิดจากทีมพัฒนาระบบ จะทำให้เราเป็นธุรกิจดิจิทัลโดยสมบูรณ์ เมื่อเราอยู่ในลู่วิ่งที่สอดคล้องกับอนาคต เราก็จะได้เปลี่ยนรูปแบบการแข่งขันจากแข่งกันรอด เป็นแข่งกันรุ่ง 3 สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนี้จะทำให้คุณทำธุรกิจจะไม่ยากอีกต่อไป แม้เศรษฐกิจจะยากแค่ไหนก็ตาม..