แต่งให้สวย อย่าแต่งให้เสีย ( ๑ )
มีคำกล่าวว่า คนที่ซื้อรถมาใหม่ ให้เตรียมเงินเอาไว้แต่งรถด้วย เพราะทันทีที่รับรถคันใหม่มา จะเกิดกิเลสอยากซื้อของแต่งหลายต่อหลายอย่างมาใส่ บางคนมีค่าใช้จ่ายในการแต่งรถไม่น้อยกว่าร้อยละสิบถึงร้อยละสิบห้า
ซึ่งการแต่งรถ มีทั้งการแต่งเพื่อให้รถดูสวยงาม, แต่งเพื่อให้มีสมรรถนะดีขึ้น ตามความเชื่อของตนเอง และแต่งเพื่ออำนวยความสะดวกสบาย หรือเพื่อความเพลิดเพลินในการใช้รถ
แม้แต่คนที่เปลี่ยนรถใหม่ไม่ใช่คนที่เพิ่งมีรถคันแรก หลายคนก็มีค่าใช้จ่ายในการตกแต่งประดับประดารถยนต์ไม่น้อยเช่นกัน ทั้งที่ตอนเลือกซื้อรถก็สรรหาคันที่สนองตอบความต้องการของตนเองเป็นอย่างดี เลือกคันที่มีอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ครบถ้วนตามที่อยากได้อยู่แล้ว
ยิ่งโลกธุรกิจปัจจุบันนี้นำเสนอสินค้าถึงตัวผู้บริโภคได้ตลอดเวลา นั่นคือในโลกออนไลน์มีการเสนอสินค้าที่หลากหลาย สามารถจัดส่งได้รวดเร็ว ราคาไม่แพงเกินไป แถมบรรยายสรรพคุณ โดยผู้ที่อ้างว่าเป็นลูกค้าเคยซื้อใช้มาแล้ว และหลายอย่าง ผู้ใช้รถยนต์ทั่วไปสามารถติดตั้งได้ด้วยตนเอง ทำนองเดียวกันกับสินค้าประเภท DIY อื่นๆ หรือหากไม่สามารถติดตั้งได้เอง ก็มีผู้รับจ้างติดตั้งในราคาไม่แพง ทั้งแบบ, รูปทรง และสีสัน ของตัวสินค้าก็สวยงามเตะตาชวนให้หลงซื้อเป็นอย่างยิ่ง
แต่ไม่ว่าท่านเจ้าของรถยนต์จะตกแต่งด้วยเหตุผลใดหรือด้วยวิธีการใดก็ดี สิ่งที่ต้องคำนึงเอาไว้ให้มาก ๆ ก็คือ ต้องไม่ทำลายสมรรถนะและประสิทธิภาพเดิม อีกทั้งต้องไม่ผิดกฎหมาย เพราะผู้ผลิตสินค้าเขาไม่ได้มาถูกจับกุมหรือมาเสียค่าปรับด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้า ที่มีฐานที่ตั้งอยู่ต่างประเทศ
สินค้าและอุปกรณ์บางอย่าง อาจจะซื้อขายหรือใช้งานได้ในประเทศของเขา แต่พอนำมาติดตั้งและใช้งานในประเทศไทยกลายเป็นสิ่งผิดกฎหมาย หรือเขาอาจจะผลิตขึ้นมาเพื่อใช้กับรถยนต์ที่ผลิตภายใต้สเปกที่ขายกันในประเทศเขา ซึ่งอาจจะมีข้อแตกต่างปลีกย่อยที่ต่างกันไป แม้จะเป็นรถยนต์ยี่ห้อและรุ่นเดียวกันก็ตาม วันนี้เราลองมาดูกันว่ามีจุดไหนที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษบ้าง
สิ่งแรกที่เจ้าของรถยนต์จำนวนมาก ปรับปรุง หรือเปลี่ยนแปลงก็คือ ยางและกระทะล้อ บ้างก็เปลี่ยนขนาด บ้างก็เปลี่ยนลายของกระทะล้อ ความเชื่อของเจ้าของรถจำนวนไม่น้อย ที่เชื่อว่าถ้าเปลี่ยนยางที่มีความกว้างของหน้ายางเพิ่มขึ้น จะช่วยให้ยึดเกาะถนนมากขึ้น ซึ่งเป็นความเชื่อที่คลาดเคลื่อนพอสมควร เพราะยางที่มีความกว้างของหน้ายางมาก ๆ นั้น เมื่อเจอกับสภาพถนนที่เปียกหรือเจิ่งนองไปด้วยน้ำ จะมีโอกาสที่เกิดอาการเหินน้ำได้มากขึ้นด้วย
ขณะเดียวกันอาจจะทำให้แก้มยางติดหรือครูดกับซุ้มล้อเมื่อเลี้ยว หรือเมื่อขึ้นเนินลูกระนาดหรือขึ้นคอสะพานได้ ซึ่งจะส่งผลให้ยางเกิดการฉีกขาดตามมา และยางที่มีขนาดความกว้างของหน้ายางมากเกินไป ย่อมหมายถึงมีน้ำหนักของยางและกระทะล้อเพิ่มขึ้น ทำให้เป็นภาระแก่ช่วงล่างด้านหน้า ทำให้ช่วงล่างด้านหน้าเสื่อมสภาพเร็วกว่าเวลาอันควร ทั้งนี้รวมถึงระบบบังคับเลี้ยวก็จะต้องทำงานหนักและเสื่อมสภาพเร็วไปด้วย และแน่นอนว่าน้ำหนักของพวงมาลัยย่อมมีความหนัก และหนืดเพิ่มขึ้นตามความกว้างของหน้ายางด้วยเช่นกัน บางคนนอกจากชอบยางหน้ากว้างแล้ว ยังนำรถไปปรับลดความสูงของตัวรถลง เมื่อต้องขับรถผ่านที่ขรุขระหรือขึ้นคอสะพาน ก็ต้องลดความเร็วลงอย่างกะทันหัน จนอาจจะทำให้รถที่ตามหลังมาชนท้ายเอาได้
เจ้าของรถยนต์บางท่านชอบลายของกระทะล้อบางแบบ แต่ไม่สามารถหาขนาดที่เหมาะสมหรือลงตัวกับรูของน็อตล้อได้ หรือไม่สามารถหาระยะยื่นและหุบของแป้นกระทะล้อ ที่เหมาะสมกับโพรงซุ้มล้อได้ จึงสร้างตัวปรับแป้นหนุนกระทะล้อ ที่เรียกกันว่า “สเปเซอร์” ขึ้นมา กรณีเช่นนี้ต้องระวังเรื่องการหลวมคลอนของแป้นปรับหนุนระยะ อีกทั้งอาจจะทำให้การปรับตั้งศูนย์ล้อ และการถ่วงล้อทำได้ยากตามไปอีกด้วย
การที่จะเปลี่ยนยางเพราะเชื่อว่ายี่ห้อนั้นดีหรือยี่ห้อนี้ดี ก็ต้องคำนึงถึงลายดอกยางที่เหมาะสมกับลักษณะการใช้งานประจำของเราด้วย เช่น ขับขี่บนสภาพทางที่เป็นทางลาดยาง หรือที่เรียกกันว่าทางดำตลอดเวลา ก็ควรเลือกยางที่มีลายดอกยางละเอียดและมีร่องดอกยางเล็ก ๆ ไปตามแนวเส้นรอบวง เพราะจะช่วยลดเสียงได้ดี
แต่หากต้องใช้รถยนต์บนถนนที่เป็นทางลูกรัง หรือใช้บนทางดินที่อาจจะเป็นโคลนบ่อยๆ จึงควรเป็นยางที่มีร่องดอกยางลึก มีลายดอกยางเป็นก้อน ๆ ที่เรียกว่ายางดอกบั้ง เพราะจะช่วยสร้างแรงตะกุยได้ดี และร่องดอกยางจะสามารถสลัดโคลน หรือเศษลูกรังออกไปได้ง่าย แต่ยางลักษณะนี้จะมีเสียงอื้ออึงเมื่อขับแล่นไปบนถนนที่ลาดยาง หรือโดยเฉพาะอย่างยิ่งถนนคอนกรีต
เจ้าของรถยนต์ที่ยอมเปลี่ยนกระทะล้อใหม่ เพราะชอบในลวดลายของก้านกระทะล้อ ควรศึกษาข้อมูลจากผู้ผลิตรถยนต์ให้แน่ใจ เพราะผู้ผลิตรถยนต์หลายรายในปัจจุบันนี้ ออกแบบลายของก้านกระทะล้อมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของตัวรถ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประสิทธิภาพของระบบเบรก โดยลวดลายของก้านกระทะล้อที่ติดรถมานั้น อาจจะมีช่องระหว่างก้านกระทะล้อค่อนข้างโปร่ง หรือองศาการบิดของก้านกระทะล้อที่ออกแบบมาโดยวิศวกรผู้ผลิตรถยนต์นั้น จะทำมาเพื่อให้กระแสลมที่พัดในขณะรถแล่นอยู่ ผ่านเข้าไประบายความร้อนของจานเบรก, ผ้าเบรก หรือแม้แต่ลูกปืนที่ดุมล้อ ให้มีอุณหภูมิไม่สูงเกินไปจนเกิดการสึกหรอสูง และประสิทธิภาพการเบรกสูญเสียไป เมื่อรู้ดังนี้แล้วจึงควรหลีกเลี่ยงกระทะล้อที่มีก้านใหญ่ๆ มีร่องระหว่างก้านกระทะล้อทึบ จนลมพัดผ่านไปได้ยาก
สิ่งสำคัญที่สุดคือขนาดของยางและขนาดของกระทะล้อ ต้องเป็นขนาดที่สัมพันธ์กันในทุกๆด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความกว้างของหน้ายาง และความกว้างของกระทะล้อที่ต้องอยู่ในขนาดมาตรฐาน เพราะหากใช้ยางที่มีความกว้างของหน้ายางน้อยกว่าความกว้างของหน้ากระทะล้อ ก็จะทำให้ยางหลุดออกมาจากกระทะล้อ ในขณะที่แล่นเข้าโค้งด้วยความเร็ว และแก้มยางบิดตัวจากแรงเหวี่ยงของความเร็วและองศาของโค้งนั้น เช่นเดียวกันกับยางที่มีขนาดความกว้างมากกว่าความกว้างของกระทะล้อ ซึ่งจะทำให้ต้องสูบลมยางมากเกินกว่าความจำเป็น และทำให้ขอบยางหลุดจากขอบกระทะล้อได้เช่นเดียวกัน
และสิ่งสำคัญส่งท้ายก็คือ จงหลีกเลี่ยงการซื้อยางที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว หรือที่เรียกกันว่ายางเปอร์เซ็นต์ หรืออาจจะมีการบอกว่าเป็นยางที่ถอดออกจากรถยนต์ใหม่ ซึ่งยังไม่ผ่านการใช้งานมาเลยก็ตาม แม้ว่าจะดูด้วยตาว่ามีสภาพภายนอกดีมาก เพราะอาจจะเป็นยางที่มีโครงสร้างชำรุด เมื่อนำมาใช้งานอาจจะเกิดอันตรายได้
ยังมีการตกแต่งรถยนต์อีกหลายประการ นอกเหนือไปจากเรื่องของกระทะล้อและยาง ที่ต้องนำมาเตือนกันในโอกาสต่อไปครับ