อินเดียก็แค่ปากซอย…..(1)

เมื่อวันพุธที่ 6 พฤศจิกายน 2567 ผมมีโอกาสเข้าฟังกาเสวนา “เป้าหมายถัดไป อินเดีย” ที่จัดโดย ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ณ ห้องประชุมบัวหลวง ชั้น 30 อาคารสำนักงานใหญ่

โดย ผู้เข้าร่วมเสวนา ประกอบด้วย H.E.Mr.Nages Singh เอครอัครราชทูตสาธารณรัฐอินเดีย ประจำประเทศไทย คุณภัทรัตน์ หงษ์ทอง เอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลี Mr.Aloke Lohia ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส

โดยมี ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) เป็นผู้ดำเนินการเสวนา รายละเอียดจากกาาเสวนาน่าสนใจมากครับ โดย คุณภัทรัตน์ หงษ์ทอง เอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลี ได้นำเสนอ Agenda ในหัวข้อ อินเดีย-ไทย ใกล้กันกว่าที่คิด โอกาสทำธุรกิจกับอินเดีย ความท้าทาย โดยเฉพาะข้อแนะนำในการทำธุรกิจในอินเดีย

เศรษฐกิจอินเดีย กำลังกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่บนเวทีโลก เติบโตอย่างรวดเร็ว อินเดียเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าดึงดูดสำหรับนักลงทุนทั่วโลก มีนโยบายที่เอื้ออำนวยต่อธุรกิจ เปิดรับการลงทุนจากต่างประเทศ

ด้วยแรงงานวัยหนุ่มสาวจำนวนมหาศาล ขนาดเศรษกิจอินเดียใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก เศรษฐกิจอินเดียเป็นหนึ่งในเศรษฐกิจที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ด้วยการเติบโตเฉลี่ย 7% ต่อปี ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา และมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ด้วยขนาดเศรษกิจอินเดียใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก รองจาก สหรัฐอเมริกา จีน เยอรมัน และ ญี่ปุ่น และฐานผู้บริโภคขนาดใหญ่ อินเดียจึงเป็นตลาดที่น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการไทย ที่ทำมาหากินยากลำบากในประเทศไทยในขณะนี้

ข้อมูลจาก World Bank ณ เดือน ธันวาคม 2565 อินเดียมีประชากรมากกว่า 1.42 พันล้านคน ซึ่งสร้างฐานผู้บริโภคขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพสำหรับการบริโภคสินค้าและบริการ มีกลุ่มประชากรวัยหนุ่มสาวที่มีการศึกษาสูง มีทักษะที่ดี จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจ

การเปลี่ยนผ่านเศรษฐกิจอินเดียสู่ภาคบริการและดิจิทัล ได้สร้างโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่ง การพัฒนาในภาคเทคโนโลยี่สารสนเทศ การสื่อสาร และการเงิน ทำให้เศรษฐกิจมีความยืดหยุ่นและสามารถปรับตัวได้ดี ต่อการเปลี่ยนแปลงของเศรษกิจโลก

รัฐบาลอินเดียได้แสดงความมุ่งมั่นในการส่งเสริมธุรกิจและดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ผ่านการปฏิรูประบบราชการ กระตุ้นเศรษฐกิจดิจิทัล

และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวนต่อการลงทุนและการเติบโตของธุรกิจ สนับสนับสนุนให้ครัวเรือนสะสมเงินออมสำหรับวัยเกษียณผ่าน Systematic Inestment Plans(SIPs) ซึ่งเป็นแผนการลงทุนที่ช่วยให้ผู้ลงทุนได้รับการลดหย่อนภาษี พร้อมทั่งมีระบบการลงทุนแบบประจำทุกเดือน นโยบายนี้ส่งผลให้เงินทุนในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างมีเสถียรภาพ

ตลาดขนาดมหึมา ศักยภาพสูงด้วยพลังคนรุ่นใหม่ ไม่มีนักร้องเรียนที่ก่อนิติสงครามโดยไม่คำนึงถึงความเจริญเติบโตของประเทศ เหมือนในประเทศไทย คนอินเดียกับคนไทยมีความผูกพันลึกซึ้ง เป็นตลาดที่ไม่ควรพลาดเป็นอันขาด…