ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นรับเฟดลดดอกเบี้ย
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นหลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง เฟดลดอกเบี้ย แต่แนวโน้มดอกเบี้ยปี 2025 จำกัดการปรับขึ้นของราคาน้ำมัน
รอยเตอร์สรายงานว่า ราคาน้ำมันดิบปิดตลาดโลกปรับตัวสูง ขึ้นในวันพุธ (18 ธ.ค.) หลังจากปริมาณคลังสำรองน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง และธนาคารกลางสหรัฐลดอัตราดอกเบี้ย ตามที่คาด 0.25% แต่การปรับขึ้นของราคาถูกรั้งไว้ เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐส่งสัญญาณว่าจะชะลอการลด อัตราดอกเบี้ยในปีหน้า
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 20 เซ็นต์ หรือ 0.27% แตะที่ 73.39 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียตปิดตลาดเพิ่มขึ้น 50 เซ็นต์ หรือ 0.71% แตะที่ 70.58 ดอลลาร์ โดยทั้งสองตลาดปรับตัวลดลงจากระดับสูงสุดในรอบวันซึ่งอยู่ที่มากกว่า 1 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ เปิดเผยเมื่อวันพุธว่า ปริมาณคลังสำรองน้ำมันดิบและน้ำมันกลั่นของสหรัฐ ลดลง ขณะที่ปริมาณน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 13 ธันวาคม
ปริมาณการผลิตผลิตภัณฑ์ทั้งหมด ซึ่งเป็นตัวแทนของอุปสงค์ อยู่ที่ 20.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้น 662,000 บาร์เรลต่อวัน จากสัปดาห์ก่อนหน้า “ตลาดดูเหมือนจะพลิกกลับมาจากมุมมองด้านลบทั้งหมดที่ เราเห็นเมื่อสองสามสัปดาห์ก่อน เนื่องจากมีความคาดหวังใน แง่ดีมากขึ้นเกี่ยวกับอุปสงค์” ฟิล ฟลินน์ นักวิเคราะห์อาวุโส ของกลุ่มบริษัทผู้ให้บริการทางการเงิน Price Futures Group กล่าว
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยและส่งสัญญาณว่า จะชะลอการลดอัตราดอกเบี้ยลงในอนาคต เนื่องจากอัตรา การว่างงานที่ค่อนข้างคงที่และเงินเฟ้อที่ชะลอลงเล็กน้อยใน ช่วงไม่นานมานี้ ธนาคารกลางของสหรัฐคาดการณ์ว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย เพียง 2 ครั้งและครั้งละ 0.25% ภายในสิ้นปี 2025 (2568) ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์ว่าจะลดอกเบี้ยลง 4 ครั้งในปีหน้า
อเล็กซ์ โฮเดส นักวิเคราะห์ของบริษัทผู้ให้บริการทางการเงิน StoneX ระบุว่านักลงทุนด้านน้ำมันได้เตรียมการปรับลด อัตราดอกเบี้ยไว้แล้ว และกำลังรอคอยแนวโน้มการปรับลด อัตราดอกเบี้ยในอนาคตของเฟดอย่างใจจดใจจ่อ
อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงช่วยลดต้นทุนการกู้ยืม ซึ่งสามารถกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจและเพิ่มความต้องการน้ำมัน