อินเดียก็แค่ปากซอย (2)

อินเดียก็แค่ปากซอย (2)

โอกาสทางธุรกิจของผู้ประกอบการไทยมีหลาย Potential Item โดยเฉพาะธุรกิจอาหาร และเครื่องดื่ม ร้านอาหารไทยใน "กรุงนิวเดลี" มีเพียงแค่ร้านเดียว

อินเดียมีข้อได้เปรียบเหนือประเทศตะวันตก และจีนรวมถึงประเทศไทยที่มีกลุ่มประชากรสูงวัยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ประชากรอินเดียคนวัยหนุ่มสาวและกลุ่มวัยทำงานกำลังขยายฐานใหญ่ขึ้น ในปี 2030 คาดว่าประชากรอินเดียจะสูงถึง 1.5 พันล้านคน และจะเพิ่มเป็น 1.64 พันล้านคน ในปี 2047

ตามข้อมูลของสหประชาชาติ ในปี 2020 อินเดียมีประชากรในกลุ่มวัยทำงานอายุ 15-64 ปี ประมาณ 67% ในปี 2030 ประชากรในกลุ่มวัยทำงานจะเพิ่มขึ้นอีก 101 ล้านคน และจะเพิ่มอีก 82 ล้านคน ในปี 2050 อายุเฉลี่ยของประชากรอินเดียปัจจุบันอยู่ที่ 29 ปี ซึ่งต่ำกว่าจีนที่มีอายุเฉลี่ย 37 ปี และสหรัฐมีอายุเฉลี่ย 38 ปี การมีแรงงานอายุน้อยทำให้ตลาดภายในประเทศขยายตัวใหญ่ขึ้น ผลักดันให้อินเดียเป็นเขตเศรษฐกิจที่มีขนาด 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2047

รัฐบาลอินเดียได้ออกแบบโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการผลิต (Production Linked Incentive : PLI) ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020 เพื่อส่งเสริมการผลิตภายในประเทศช่วยจัดหางานที่ประเทศต้องการ เป็นโครงการที่จูงใจให้ผู้ผลิตที่มียอดขายเพิ่มขึ้น 4% ถึง 6% ในช่วงระยะเวลา 4-6 ปี ใน 14 เช็กเตอร์ อาทิเช่น ยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์และฮาร์ดแวร์ด้านไอที โทรคมนาคม เภสัชกรรม ชุดอุปกรณ์พลังงานแสงอาทิตย์ สินค้ากลุ่มโลหะและเหมือง สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนขนาดใหญ่ โดรน และเซลล์แบตเตอรี่ที่มีส่วนประกอบเคมีขั้นสูง ปัจจุบันมีบริษัทกว่า 327 แห่งได้รับอนุมัติเงินอุดหนุน ซึ่งคาดว่าได้สร้างเม็ดเงินลงทุนเพิ่มจำนวน 32.5 พันล้านดอลลาร์ 

อินเดียได้รับประโยชน์จากนโยบายของบริษัทระดับโลกที่กระจายห่วงโซ่อุปทานของบริษัท โดยสามารถแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดมาจากคูแข่งในภูมิภาค เม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ 82 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2021 และ 83.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2022 เป็นสิ่งที่ยืนยันถึงการตอบรับจากผู้ลงทุนทั่วโลก Cushman & Wakeefield’2021 

Global Manufacturing Risk Index ประเมินประเทศที่มีความได้เปรียบมากที่สุดสำหรับการผลิตทั่วโลกจาก 47 ประเทศ

ในยุโรป สหรัฐ และเอเชียแปซิฟิก ได้จัดให้อินเดียอยู่ในอันดับ 2 ตามกรณีฐาน รายงานระบุว่าการจัดตั้งฐานการผลิตในอินเดียของอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ เภสัชกรรม และวิศวกรรมเป็นข้อได้เปรียบความสามารถของอินเดียในการทำให้เป็นไปตามข้อกำหนดของการ Outsource ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือต่อนักลงทุน อินเดียได้ปฎิรูปเพิ่มเติมในส่วนของกฎหมายที่ดิน และแรงงาน ทำให้อินเดียเป็นศูนย์กลางการผลิตระดับโลก

สภาพแวดล้อมการลงทุนของอินเดียได้พัฒนาดีขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่เปิดเสรีเศรษฐกิจในปี 2534 ปัจจุบันอินเดียจัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีความสะดวกในการประกอบธุรกิจ (Ease of Doing Business) ลำดับแรกของโลก รายงาน World Investment Report ปี 2557 ของการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (United Nations Conference on Trade and Development : UNCTAD) ได้จัดลำดับอินเดียอยู่ลำดับ 4 ของปรเทศที่เอื้อต่อการลงทุนมากที่สุด

คุณภัทรัตน์ หงษ์ทอง เอครอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลฮี ได้นำเสนอถึงความท้าทายในการทำธุรกิจในอินเดียไว้อย่างน่าสนใจมาก ท่านทูตบอกว่าโอกาสทางธุรกิจของผู้ประกอบการไทยมีหลาย Potential Item โดยเฉพาะธุรกิจอาหาร และเครื่องดื่ม ร้านอาหารไทยในกรุงนิวเดลี มีเพียงแค่ร้านเดียวเท่านั้น อย่าพลาดติดตามรายละเอียดในตอนต่อไปนะครับ 

ต้องเตรียมตัวให้พร้อม….