‘ชัชชาติ’ นัดหารือ ‘คีรี’ ครั้งแรก เคลียร์หนี้ค่าจ้างเดินรถไฟฟ้า 1.1 หมื่นล้าน

‘ชัชชาติ’ นัดหารือ ‘คีรี’ ครั้งแรก เคลียร์หนี้ค่าจ้างเดินรถไฟฟ้า 1.1 หมื่นล้าน

“ชัชชาติ” นัด “คีรี” เคลียร์หนี้ค่าจ้าง BTS เดินรถซ่อมบำรุงไฟฟ้าสายสีเขียวก้อนแรก 1.1 หมื่นล้าน หลังศาลปกครองสูงสุดพิพากษาให้จ่าย หลังจากต้องแบกภาระดอกเบี้ยวันละ 7 ล้านบาท

หลังจากศาลปกครองสูงสุดพิพากษาเมื่อวันที่ 26 ก.ค.2567 ยืนตามศาลปกครองชั้นต้น โดยสั่งกรุงเทพมหานคร (กทม.) และบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด จ่ายหนี้ค่าจ้างเดินรถไฟฟ้าและซ่อมบำรุง (O&M) ส่วนต่อขยาย “รถไฟฟ้าสายสีเขียว” 11,700 ล้านบาท ภายใน 180 วัน ให้กับบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้า BTS

เป็นครั้งแรกที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นัดหารือกับนายคีรี กาญจนพาสน์ประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เกี่ยวกับการชำระหนี้ค่าจ้างเดินรถไฟฟ้าให้กับ BTS ในวันที่ 1 ต.ค.2567 เวลา 11.00 น.ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร

แหล่งข่าว กล่าวกับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า หลังจากมีคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดออกมาแล้ว กรุงเทพมหานคร ได้หารืออย่างไม่เป็นทางการกับ BTS

รวมทั้งมีการหารือกับคณะกรรมการกฤษฎีกาและสำนักงานอัยการสูงสุด เกี่ยวกับการชำระหนี้ค่าจ้างเดินรถไฟฟ้า โดยกรุงเทพมหานครและบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด ต้องการให้มีการรื้อคดีขึ้นมาใหม่

ทั้งนี้ หากท้ายที่สุดมีการชี้ว่าสัญญาจ้างผิดจริงนั้น บริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด และกรุงเทพมหานครอาจยื่นขอรื้อฟื้นคดีข้อพิพาทเกี่ยวกับการจ้างงานเดินรถ O&M เพื่อให้เข้าสู่กระบวการศาลปกครองพิจารณา

แหล่งข่าว กล่าวว่า การสอบถามของกรุงเทพมหานคร พุ่งไปที่ประเด็นสัญญาจ้างงานดังกล่าวไม่ขัดต่อกฎหมายหรือไม่ เพราะสัญญาบางส่วนไม่ผ่านความเห็นชอบจากสภากรุงเทพมหานคร รวมทั้งสัญญาบางส่วนถูกร้องต่อคณะกรรมการป้องกันปละปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่รับพิจารณาไว้แล้ว

ทั้งนี้ กรุงเทพมหานคร และบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด ได้กำหนดแนวทางไว้แล้วว่าถ้าสัญญาไม่ขัดกฎหมายก็พร้อมที่จะดำเนินการชำระค่าจ้างงาน O&M ตามที่ศาลปกครองสูงสุดได้ตัดสินไว้

สำหรับหนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงที่กรุงเทพมหานครและบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด ต้องชำระแบ่งเป็น 4 ส่วน รวมหนี้ถึงวันที่ 25 ก.ค.2567 มีวงเงินถึง 39,402 ล้านบาทประกอบด้วย

1.หนี้ค่าจ้างเดินรถไฟฟ้าและซ่อมบำรุงส่วนต่อขยายที่ 1 ตั้งแต่เดือน พ.ค.2562 ถึง พ.ค.2564 และส่วนต่อขยายที่ 2 ตั้งแต่เดือน เม.ย.2560 ถึง พ.ค.2564

คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดสั่งให้ชำระ 11,755 ล้านบาท ภายใน 180 วันพร้อมดอกเบี้ยสําหรับลูกค้า รายใหญ่ชั้นดีประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (MLR) บวก 1% ต่อปี รวมแล้วประมาณ 14,000 ล้านบาท

2.หนี้ค่าจ้างเดินรถไฟฟ้าและซ่อมบำรุงส่วนต่อขยายที่ 1 และส่วนต่อขยายที่ 2ตั้งแต่เดือน มิ.ย.2564 ถึง ต.ค.2565วงเงิน 11,811 ล้านบาท โดยBTS ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลางวันที่ 22 พ.ย.2565

และอยู่ขั้นตอนพิจารณาของศาลปกครองกลาง โดยถ้ามีคำพิพากษาในทิศทางเดียวกับคดีแรกจะทำให้กรุงเทพมหานคร และบริษัทกรุงเทพธนาคาร จำกัด ต้องชำระอัตราดอกเบี้ยอัตราเดียวกัน

3.หนี้ค่าจ้างเดินรถไฟฟ้าและซ่อมบำรุงส่วนต่อขยายที่ 1 และส่วนต่อขยายที่ 2 ตั้งแต่เดือนพ.ย.2565 ถึง มิ.ย.2567 วงเงิน13,513 ล้านบาท ไม่รวมดอกเบี้ย ซึ่งผู้รับจ้างเดินรถไฟฟ้ายังไม่ได้ยื่นฟ้องตอศาลปกครองกลาง

4.หนี้ค่าจ้างเดินรถไฟฟ้าและซ่อมบำรุงส่วนต่อขยายที่ 1 และส่วนต่อขยายที่ 2 ตั้งแต่เดือนมิ.ย.2567 ถึงปัจจุบัน โดยสัญญาจ้างเดินรถไฟฟ้าและซ่อมบำรุงส่วนต่อขยายจะสิ้นสุดปี 2585