ตลาดหุ้นไทย ในภาวะ‘ระส่ำ’
ตลาดหุ้นตลาดทุนไทยวันนี้ กำลังได้รับผลกระทบอย่างมากจากความไม่แน่นอนหลายด้าน โดยเฉพาะความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างประเทศมหาอำนาจ ทั้งสงครามรัสเซีย-ยูเครน และความตึงเครียดระหว่างจีน-สหรัฐฯ
ส่งผลให้เกิดความผันผวนในตลาดการเงินโลก กระทบต่อการไหลเวียนของเงินทุน และความเชื่อมั่นของนักลงทุน นอกจากนี้ ภาวะเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงทำให้ธนาคารกลางทั่วโลกต้องใช้นโยบายการเงินเข้มงวด ส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินปรับตัวสูงขึ้น
ด้านเศรษฐกิจ แม้ไทยจะฟื้นตัวได้จากการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว แต่การบริโภคภายในประเทศและการส่งออกยังคงชะลอตัว เนื่องจากกำลังซื้อที่ลดลงจากภาระหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง และการชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า โดยเฉพาะจีน ทำให้ภาคธุรกิจต้องเผชิญความท้าทายในการรักษาผลประกอบการ ส่งผลต่อความน่าสนใจในการลงทุนในตลาดหุ้นไทย
ขณะที่ ปัญหาความผิดปกติของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทยที่เกิดขึ้นหลายเคส ไม่ว่าจะเป็นการทุจริต การปกปิดข้อมูล การจัดทำบัญชีที่ไม่โปร่งใส หรือการดำเนินธุรกิจที่ผิดปกติ ก็กระทบอย่างรุนแรงต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน และภาพลักษณ์ของตลาดทุนไทยโดยรวม หน่วยงานกำกับดูแลจำเป็นต้องเร่งยกระดับมาตรการตรวจสอบและป้องกันให้เข้มงวดมากขึ้น
โดยเฉพาะการเพิ่มประสิทธิภาพในการคัดกรองบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียน การติดตามสัญญาณความผิดปกติอย่างใกล้ชิด และการบังคับใช้บทลงโทษที่รุนแรงกับผู้กระทำผิด ในระยะยาว การสร้างธรรมาภิบาลที่ดีให้เกิดขึ้นในตลาดทุนเป็นสิ่งสำคัญ ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานกำกับดูแล บริษัทจดทะเบียน ผู้สอบบัญชี นักวิเคราะห์ และนักลงทุนสถาบัน ทำหน้าที่ตรวจสอบและถ่วงดุลซึ่งกันและกันอย่างมีประสิทธิภาพ
สิ่งสำคัญรัฐบาลและหน่วยงานกำกับดูแลควรเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน ผ่านการสื่อสารนโยบายที่ชัดเจนและโปร่งใส พร้อมทั้งกำหนดมาตรการเพื่อดูแลเสถียรภาพของตลาด เช่น ปรับปรุงกฎเกณฑ์การซื้อขายหลักทรัพย์ให้มีความยืดหยุ่นและรัดกุมมากขึ้น
ในระยะยาว การพัฒนาตลาดทุนไทยควรมุ่งเน้นการสร้างความยั่งยืน ทั้งในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยส่งเสริมให้บริษัทจดทะเบียนดำเนินธุรกิจตามหลัก ESG (Environmental, Social, and Governance) อย่างจริงจัง พัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่สนับสนุนการลงทุนอย่างยั่งยืน ท้ายที่สุด พัฒนาความรู้และการศึกษาด้านการลงทุนแก่ประชาชนเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้นักลงทุนรายย่อยมีความเข้าใจในการลงทุนอย่างมีเหตุผล ลดความผันผวนที่เกิดจากการซื้อขายที่ขาดความรู้ความเข้าใจ และช่วยให้ตลาดทุนไทยเติบโตอย่างมีเสถียรภาพในระยะยาว