ขจัด 3 โรคร้าย เพิ่มพลังการทำงานด้วย สิทธิประกันสังคมและบัตรทอง 

ขจัด 3 โรคร้าย เพิ่มพลังการทำงานด้วย สิทธิประกันสังคมและบัตรทอง 

สวัสดีครับผู้อ่านทุกท่าน เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ช่วงนี้หลายๆ ธุรกิจเริ่มปลดล็อกกันมากขึ้น เริ่มกลับเข้ามาทำงานแบบ On-site กันมากขึ้น ห้างร้านต่าง ๆ รวมถึงการจัดกิจกรรมต่างๆ ก็เริ่มมีมากขึ้น บรรยากาศเดิมๆ ก่อนที่จะเกิดการระบาดของ Covid-19 ก็กลับมาอีกครั้ง แต่อย่างไรก็ดี อย่าลืมดูแลตัวเองกันด้วยนะครับ

และจากการระบาดของ Covid-19 ทำให้เราได้หันมาดูเรื่องประกันสุขภาพส่วนตัว รวมไปถึงสิทธิประกันสังคม หรือสิทธิประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) กันมากขึ้น ว่าจริงๆ แล้วที่เราจ่ายกันไปแต่ละเดือน แต่ละปีนั้น เราได้สิทธิ์อะไรกันบ้าง

วันนี้ผมมีผู้เชี่ยวชาญในด้านการวางแผนการเงินของบริษัท Wealth Creation International Investment Advisory Security Co., Ltd. คุณปิติพงษ์ รุ่งเรืองวุฒิกุล CFP® จะมาเล่าเรื่องสิทธิการรักษาที่นอกเหนือจากการนอน รพ. หรือไป พบแพทย์ จากการเจ็บป่วย ว่าเราสามารถใช้สิทธิการรักษาอะไรเพิ่มเติมได้อีกบ้างครับ

 

“วันนี้ผมมีตัวอย่างของ 3 โรค ที่มักจะแวะเวียนมารบกวนคนวัยทำงาน ที่ทางประกันสุขภาพบางบริษัทอาจจะไม่ได้คุ้มครองในส่วนนี้ แต่ว่าเราก็สามารถใช้สิทธิประกันสังคม หรือสิทธิประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) ในการเข้ารับการรักษาแทนได้มาฝากกันครับ

โรคออฟฟิศซินโดรม : อาการปวดหลัง ปวดคอบ่าไหล่ ปวดข้อมือปวดหัว นอกจากจะน่ารำคาญแล้วนั้นยัง เป็นสัญญาณที่กำลังจะบอกว่าเรามีโอกาสเสี่ยงที่จะป่วยเป็นโรคออฟฟิศซินโดรมอีกด้วย โดยทั้งนี้อาการของออฟฟิศซินโดรมอาจจะส่งผลให้เกิดโรคร้ายตามมาได้ครับเช่น โรคหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาท กระดูกสันหลังคด โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูงเป็นต้น ซึ่งแต่ละโรคที่กล่าวมาหากเป็นแล้ว อยากที่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ 

 

ดังนั้น การรักษาเสียตั้งแต่เนิ่นๆ เป็นทางเลือกที่ดีกว่าครับ โดยที่ทั้งนี้ผู้ป่วยบัตรทองสามารถใช้สิทธิบัตรทองเข้ารับการรักษาในหน่วยพยาบาลตามสิทธิได้เลย และหากเป็นผู้ป่วยในสิทธิประกันสังคม ก็สามารถใช้สิทธิประกันสังคมรักษาได้เช่นกัน โดยทางประกันสังคมจะนำในส่วนของเงินค่ารักษาพยาบาลมาจากกองทุนเงินทดแทนที่เก็บจากนายจ้างมาดูแลผู้ป่วยนั่นเอง ดังนั้น ใครที่คิดว่าตัวเองเริ่มมีอาการ อย่ารอช้า ให้รีบไปพบแพทย์ได้เลยครับ

โรคซึมเศร้าหรือโรคจิตเวช : โรคซึมเศร้าหรือโรคจิตเวช เป็นอีกโรคหนึ่งที่ต้องใช้เวลาในการรักษาค่อนข้างนานและหากเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชนก็มักจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงอยู่พอสมควร และ ประกันสุขภาพหลายๆ แบบประกันก็มักจะไม่คุ้มครองในส่วนอาการป่วยด้านนี้ ทำให้ผู้ป่วยหลายคนเลือกที่จะไม่เข้ารับการรักษาแทน ซึ่งในความเป็นจริงนั้น เราสามารถใช้สิทธิประกันสังคม หรือประกันสุขภาพถ้วนหน้า เข้ารับการรักษาได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย 

โดยเดี๋ยวนี้โรงพยาบาลใหญ่ๆ หลายโรงพยาบาลในสังกัดประกันสังคมและบัตรทองล้วนมีแผนกจิตเวชกันเกือบหมดแล้วทั้งนั้นครับ หากเรารู้สึกว่ามีอาการเครียด กังวล ขาดสมาธิในการทำงาน หรือพบว่ามีสัญญาณที่จะป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ก็สามารถเข้าไปรับการรักษาตามสิทธิได้ฟรี

โรคหยุดหายใจขณะนอนหลับ : หากคุณเป็นคนที่รู้สึกไม่สดชื่นเมื่อตอนตื่นนอนตอนเช้า มีอาการสะดุ้งระหว่างหลับ หรือรู้สึกไม่สดชื่นระหว่างวัน จนบางครั้งอาจจะต้องแอบไปหาที่นอนกลางวัน นั่นอาจจะเป็นอาการบ่งชี้ว่า คุณมีอาการป่วยจากภาวะหยุดหายใจขณะหลับได้ครับ โดยภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับนั้น นอกจากจะส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันแล้วนั้น อาจจะทำให้เกิดความผิดปรกติอื่นๆตามมาได้ ด้วยเช่นโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ภาวะอ้วนลงพุง โรคหลอดเลือดสมอง

โดยปกติ การรักษาภาวะหยุดหายใจขณะหลับนั้น จะเริ่มจากการพบแพทย์เพื่อซักประวัติวินิจฉัยแล้วจึงส่งไปทดสอบการนอนหลับ (Sleep test) ทั้งนี้ผู้ที่รู้สึกว่าตัวเองจะมีความเสี่ยง ภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ สามารถใช้สิทธิรักษาพยาบาลจากประกันสังคม หรือบัตรทอง เพื่อพบแพทย์ในการคัดกรองเบื้องต้นได้ก่อน หากแพทย์ลงความเห็นว่าสมควรจะทำการทดสอบการนอนหลับ ก็จะส่งตัวไปรับการทดสอบการนอนหลับต่อไป

ทั้งนี้หากโรงพยาบาลที่ท่านมีสิทธิอยู่ ไม่มีศูนย์ทดสอบการนอน ก็สามารถให้ทางแพทย์ทำจดหมายส่งตัวไปยังโรงพยาบาลอื่นที่มีศูนย์ทดสอบการนอนได้ครับ โดยทั่วไปการทดสอบการนอนหลับ จะมีค่าใช้จ่ายต่อครั้งอยู่ที่ประมาณ 8,000 บาทขึ้นไป แต่ถ้าเข้ารับการตรวจด้วยสิทธิประกันสังคม หรือบัตรทองก็จะไม่มีค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ครับ โดยผลที่ออกมาจะบอกว่า เรามีภาวะหยุดหายใจขณะหลับมากน้อยแค่ไหน และควรจะรักษาด้วยวิธีใด ทั้งนี้หากต้องมีการใช้เครื่องอัดอากาศขณะนอนหลับ (CPAP) ค่าเครื่อง CPAP ทางผู้ป่วยจะต้องออกเงินเองครับ

จะเห็นได้ว่า แต่ละโรคที่กล่าวมานั้น อาจจะไม่ใช่โรคที่ร้ายแรงมากนัก แต่ก็เป็นโรคที่ทำให้ชีวิตเราลำบากพอสมควร หากท่านที่คิดว่าตัวเองประสบกับโรคเหล่านี้อยู่ ลองหาเวลาไปพบแพทย์เพื่อใช้สิทธิที่มีกันนะครับ เพราะว่าถ้าเราจัดการโรคเหล่านี้ออกไปได้แล้วนั้น ชีวิตจะราบรื่นขึ้นอีกเยอะ และช่วยลดโอกา