เขาหาว่าคนไทย มีจุดอ่อน 10 ประการ
มีคนส่งเรื่องนี้ผ่าน social media มาให้อ่าน อ้างว่าเป็นบทวิเคราะห์ของอดีตผู้บริหาร ของหน่วยงานญี่ปุ่น
ประจำประเทศไทย วิเคราะห์ “จุดอ่อน” ของคนไทย 10 ข้อที่บางคนบอกว่า จี้แทงใจดำกันทีเดียว
ผมไม่แน่ใจว่าคนแสดงความเห็นที่ว่านี้เป็นเจ้าหน้าที่คนที่ว่าหรือไม่ ผมรู้จักเขา และรู้ว่าเขาเป็นคนพูดจาตรงไปตรงมา เอาเป็นว่าเนื้อหาของบทวิเคราะห์นี้น่าสนใจสำหรับคนไทยมาก ไม่ว่าเราจะชอบหรือไม่ชอบ หากคนอื่นเขามองเราอย่างนี้ก็น่าจะมีเหตุที่ทำให้เราต้องคิดใคร่ครวญให้หนักเพื่อจะได้แก้ไขปรับปรุงตัวเองอย่างจริงจัง
เขาบอกว่า “จุดอ่อน 10 ข้อ” ของคนไทยมีอย่างนี้
1. คนไทยรู้จักหน้าที่ของตัวเองต่ำมาก โดยเฉพาะหน้าที่ต่อสังคม เป็นประเภทมือใครยาวสาวได้สาวเอา เกิดธุรกิจการเมือง ธุรกิจราชการ ธุรกิจการศึกษา ทำให้ประเทศล้าหลัง
2. การศึกษายังไม่ทันสมัย คนไทยเก่งแต่ภาษาของตัวเอง ทำให้ขาดโอกาสในการแข่งขันกับต่างชาติในเวทีต่าง ๆ ไม่กล้าแสดงออก ขี้อาย ไม่มั่นใจในตัวเอง จึงตามหลังชาติอื่น คนมีฐานะจะส่งลูกไปเรียนเมืองนอกเพื่อโอกาสที่ดีกว่า
3. มองอนาคตไม่เป็น คนไทยมากกว่า 70% ทำงานแบบไร้อนาคต ทำแบบวันต่อวัน แก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปวัน ๆ น้อยคนนักที่จะทำงานเป็นระบบ เป็นขั้นเป็นตอน มีเป้าหมายในอนาคตที่ชัดเจน
4. ไม่จริงจังในความรับผิดชอบต่อหน้าที่ ทำแบบผักชีโรยหน้า หรือทำด้วยความเกรงใจ ต่างกับคนญี่ปุ่นหรือยุโรปที่จะให้ความสำคัญกับสัญญา ข้อตกลงอย่างเคร่งครัด เพราะหมายถึงความเชื่อถือในระยะยาว คนไทยจึงถูกลดเครดิตความน่าเชื่อถือลงเรื่อย ๆ
5. การกระจายความเจริญยังไม่เต็มที่ ประชากรประมาณ 60-70% ที่อยู่ห่างไกลขาดโอกาสในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของตัวเอง และชุมชนซึ่งเป็นหน้าที่ของภาครัฐที่ต้องส่งเสริม
6. การบังคับใช้กฎหมายไม่เข้มแข็งและไม่ต่อเนื่อง ทำงานแบบลูบหน้าปะจมูก ปราบปรามไม่จริงจัง การดำเนินการตามกฎหมายกับผู้มีอำนาจหรือบริวารจะทำแบบเอาตัวรอดไปก่อน ไม่มีมาตรฐาน
7. อิจฉาตาร้อน สังคมไทยไม่ค่อยเป็นสุภาพบุรุษ เลี่ยงเป็นศรีธนญชัย ยกย่องคนมีอำนาจมีเงินโดยไม่สนใจภูมิหลัง โดยเฉพาะคนที่ล้มบนฟูกแล้วไปเกาะผู้มีอำนาจเพื่อเอาตัวรอด คนพวกนี้ร้ายยิ่งกว่าผู้ก่อการร้าย ดีแต่พูด มือไม่พายเอาเท้าราน้ำ ทำให้คนดีไม่กล้ามาเพราะกลัวเปลืองตัว
8. เอ็นจีโอค้านลูกเดียว บางกลุ่มอิงอยู่กับผลประโยชน์ บ่อยครั้งที่ต้องเสียโอกาสอย่างมหาศาลเพราะการค้านแบบหัวชนฝา เหตุผลจริง ๆ ไม่พูดกัน
9. ยังไม่พร้อมสำหรับเวทีโลก การสร้างความน่าเชื่อถือ ในเวทีการค้าระดับโลกยังขาดทักษะและทีมเวิร์คที่ดี ทำให้สู้ประเทศเล็กๆ อย่างสิงคโปร์ไม่ได้
10. เลี้ยงลูกไม่เป็น เด็กไทยขาดความอดทน ไม่มีภูมิคุ้มกัน เป็นขี้โรคทางจิตใจ ไม่เข้มแข็งเพราะการเลี้ยงลูกแบบไข่ในหิน ไม่สอนให้ลูกช่วยตัวเอง ไม่กระตือรือร้นในการช่วยตนเอง ขวนขวาย แสวงหา ค้นหาตัวเอง และไม่สอนให้สำนึกรับผิดชอบต่อสังคม
ผมไม่ต้องเพิ่มเติมความเห็น ท่านผู้อ่านเห็นด้วยหรือเห็นแย้งอย่างไร ร่วมแสดงความคิดเห็นได้ครับ