ปฏิรูประบบราชการ คือหัวใจสำคัญ
รัฐบาลมีนโยบายแก้ไขความสะดวกในการประกอบธุรกิจ
(Ease Doing Business) โดยตั้งเป้าหมายให้การจัดอันดับโลกในครั้งต่อไปขยับขึ้นใน 30 อันดับแรกของโลก จากปัจจุบันอยู่ที่อันดับ 46 ซึ่งการจัดอันดับปีนี้ถือว่ารัฐบาลแก้ปัญหาหลายเรื่องทำให้อันดับขยับจากที่ 49 ในปีก่อน แต่ก็ถือว่ายังมีปัญหาต้องแก้ไขอีกมากหากรัฐบาลต้องการขยับอันดับให้สูงขึ้นเมื่อเทียบกับหลายประเทศในอาเซียน เช่นสิงคโปร์และมาเลเซียที่อยู่อันดับดีกว่าไทย
หากพิจารณาปัญหาการแก้ไขเพื่อใช้ในการจัดอันดับความสะดวกการดำเนินธุรกิจ เกือบทั้งหมดเป็นเรื่องการให้บริการจากภาครัฐ ทั้งหน่วยงานของรัฐและรัฐวิสาหกิจ อาทิ การขอใช้ไฟฟ้าในภาคธุรกิจ การชำระภาษี การลดขั้นตอนการเริ่มต้นธุรกิจ แนวทางการปรับปรุงด้านการขออนุญาตก่อสร้าง เป็นต้น ซึ่งมีอีกหลานด้านที่ธนาคารโลกนำมาใช้ในการวัดเรทติ้งการจัดอันดับ โดยเห็นว่าจะเป็นภาพสะท้อนศักยภาพในการประกอบธุรกิจของประเทศทางหนึ่งด้วย
ดังนั้น ปัญหาสำคัญของการเพิ่มอำนวยความสะดวกให้กับการประกอบธุรกิจ คือ การให้บริการของหน่วยงานภาครัฐเอง ซึ่งหากสามารถดำเนินการได้รวดเร็วและมีความโปร่งใส ก็ยิ่งเอื้อให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากเท่านั้น และจะเป็นผลดีต่อภาพรวมทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยความสะดวกต่างๆในการประกอบธุรกิจนี้เองเป็นหัวใจสำคัญอย่างหนึ่งของการลงทุนจากต่างประเทศ นอกจากเรื่องต้นทุนและวัตถุดิบการผลิต เพราะความสะดวกการดำเนินธุรกิจก็ถือเป็นต้นทุนแฝงประเภทหนึ่งหากมีอุปสรรคมาก
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการบริหารต่างๆ ของหน่วยงานรัฐนั้นถือว่ามีมากมายแทบทุกมิติ และโดยธรรมชาติของหน่วยงานรัฐแล้ว มักจะมุ่งไปที่การดูแลไม่ให้เกิดการกระทำที่ผิดกฎระเบียบเป็นสำคัญ เพราะตราบใดที่ยังไม่มีใครกระทำผิดกฎระเบียบ หน่วยงานรัฐมักจะเห็นว่าตัวเองทำงานมีประสิทธิภาพ ซึ่งถือว่าไม่ใช่ความผิดใดๆของหน่วยงานภาครัฐ แต่อาจจะไม่สอดคล้องกับสถานการณ์เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจสังคมและมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น
หากรัฐบาลมุ่งจะแก้ปัญหานี้ย่อมต้องเกี่ยวข้องกับการทำงานของหน่วยงานรัฐทั้งหมด ซึ่งสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือการปฏิรูประบบราชการ แม้ว่าการปฏิรูปที่ผ่านมาได้ดำเนินการไปหลายด้าน แต่ในเรื่องของการให้บริการอาจยังไม่เน้นมากพอ เพราะการปฏิรูประบบราชการที่ผ่านมามุ่งไปที่การเพิ่มประสิทธิภาพของภาครัฐ ทั้งในเรื่องการทำงาน กำลังคน และงบประมาณ แต่ไม่ได้มุ่งเน้นไปที่การให้บริการมากนักอย่างที่ควรเป็น หรือกำหนดให้ภารกิจสำคัญของการปฏิรูประบบราชการ
ดังนั้น หากต้องการเพิ่มความสะดวกในเรื่องการประกอบธุรกิจของประเทศ สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือต้องดำเนินควบคู่ขนานไปกับการปฏิรูประบบราชการ เพราะการปฏิรูประบบราชการไม่เพียงแค่เรื่องของการปรับโครงสร้างการทำงานและกำลังคนเท่านั้น แต่รวมถึงเรื่องทัศนะคติต่างๆของคนในระบบราชการเองที่ต้องเล็งเห็นความสำคัญของการอำนวยความสะดวกให้กับการประกอบธุรกิจว่าจะเป็นผลดีต่อประเทศอย่างไร โดยมองไปนอกกรอบการทำงานของหน่วยงานเอง
เราเห็นว่าแม้รัฐบาลจะสามารถขยับอันดับการประกอบธุรกิจให้ดีขึ้น อาจแสดงให้เห็นถึงความคืบหน้าการทำงาน และการปรับปรุงการทำงานเพื่อเอื้อให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ แต่อาจไม่ทำให้สามารถแก้ปัญหาได้อย่างถาวร หากรัฐบาลไม่สามารถปฏิรูปเข้าไปข้างในของระบบราชการได้ นั่นคือ วิธีคิดของหน่วยราชการเอง ซึ่งเราเห็นว่านโยบายการปฏิรูประบบราชการต่างหาก ที่จะเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญว่า ไทยจะสามารถขยับอันดับได้อย่างแท้จริงหรือไม่