ปฏิวัติวงการผ้าเหลือง ยังไม่จบแค่นี้!
เดือนเศษหลังเด้ง พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสนห์ จาก ผอ.สำนักพุทธฯ เมื่อ29 ส.ค.60มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นในวงการผ้าเหลืองบ้านเราที่น่าจดบันทึกไว้
20 ก.ย. ตำรวจคุมตัว พระมหาอภิชาติ ปุณฺณจนฺโท จาก จ.สงขลา หลังแสดงความเห็นวิจารณ์ศาสนาอิสลามอย่างรุนแรง สุดท้ายต้องยอมสึกจากสมณเพศ
21 ก.ย. ตำรวจ ปปป.ลุยค้น 14 จุด 7 จังหวัด รวมทั้งบ้านอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ “พนม ศรศิลป์” หาหลักฐานเรื่องเงินทอนวัด
26 ก.ย. ตำรวจ ปปป.ส่งสำนวน “เงินทอนวัด เฟส 2” ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ไต่สวนต่อ ทั้งยังแจ้งข้อหาพระผู้ใหญ่ระดับเลขานุการของ “เจ้าคณะใหญ่หนกลาง” ด้วย และวันเดียวกันนั้น ครม.ก็มีมติคืนตำแหน่ง ผอ.สำนักพุทธฯ ให้ พ.ต.ท.พงศ์พร
30 ก.ย. เจ้าคณะใหญ่ 5 รูป ที่ปกครองพระสงฆ์ทั่วประเทศ คือ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง เหนือ ใต้ ตะวันออก และเจ้าคณะใหญ่ธรรมยุต ได้ออกคำสั่งที่เรียกว่า “กฎเหล็ก 6 ข้อ” ให้พระสังฆาธิการควบคุมจัดการพระภิกษุสามเณรในเขตปกครอง ทั้งที่ละเมิดกฎหมายบ้านเมือง วิจารณ์หรือแสดงออกในแนวยั่วยุปลุกปั่น แสดงอากัปกิริยาไม่เหมาะสมกับสมณเพศ ไม่เคร่งครัดพระธรรมวินัย โดยให้ดำเนินการทางวินัยสงฆ์ หากหนักข้อหรือละเมิดกฎหมาย ก็ให้ประสานเจ้าหน้าที่บ้านเมืองดำเนินการ
นอกจากนั้นยังสั่งห้ามวัดติดป้ายโฆษณาปลุกเสกวัตถุมงคล เครื่องราง ของขลัง อวดอ้างสรรพคุณพระเกจิอาจารย์ ถ้ามีอยู่แล้วให้รื้อออกทั้งหมด และห้ามจำหน่ายวัตถุมงคล เครื่องรางของขลังในพระอุโบสถด้วย
ช่วงต้นเดือน ต.ค. มีข่าว “เจ้าคุณธงชัย” หายตัวไปจากวัดไตรมิตรฯ โดยเจ้าคุณธงชัย เจ้าของ “ผ้ายันต์เลสเตอร์” เป็นพระสายเกจิที่โด่งดังที่สุดในยุคนี้ มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย ไม่เว้นแม้ในค่ายการเมือง เคยไปร่วมพิธีปลุกเสกงานใหญ่ๆ รวมถึงงานของ “พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์”
2 ต.ค. พ.ต.ท.พงศ์พร ไปทำงานวันแรก จากนั้นวันรุ่งขึ้นได้เซ็นคำสั่งย้ายผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (ผอ.พศจ.) 14 คนรวด
คำถามคือนับจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นอีก คำตอบก็คือ 1.เดินหน้าตรวจสอบเงินทอนวัด เฟสสาม 2.ถอดถอนสมณศักดิ์สงฆ์ที่ทุจริตหรือประพฤติผิดพระธรรมวินัยร้ายแรง และ 3.แก้กฎหมายคณะสงฆ์ เพื่อให้เปิดบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดอย่างโปร่งใส...งานนี้มีคนหนาวๆ ร้อนๆ!