'นายใหญ่' เปลี่ยนเกม เขี่ย 'เจ๊หน่อย' ทิ้ง

รู้กันทั้งบางว่ายี่ห้อ “เป็ดเหลิม” กินแหนงแคลงใจเดินกันคนละเส้นทางกับ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพท. และไม่มีทางจะหวนกลับมาคืนดีกันได้

ว่ากันว่าตึกที่ทำการพรรคพท. ห้องทำงานของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่คนละชั้นกับ สุดารัตน์ เข้าไปอีกห้องก็จะแฉอีกคนให้ฟังกันชัดๆแบบไม่มีกั๊ก

เมื่อพรรคพท.เปลี่ยนหัวใหม่ เลือก สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ ขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคพท. แม้ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ สายตรง สุดารัตน์ จะนั่งเก้าอี้เลขาธิการพรรค แต่สายสัมพันธ์ของ “สมพงษ์” กับ “แกนนำรุ่นใหญ่” เน้นแฟ้นจน สุดารัตน์ ต้องลดบทบาทลง

เมื่อ สุดารัตน์ รู้ตัวว่ากำลังโดนแซะเก้าอี้ จึงต้องดึง ส.ส.ในสังกัด สร้างแรงต่อรองให้ “นายใหญ่” เห็นความเป็นปึกแผ่น แต่สุดท้ายกลับโดน “แกนนำพท.รุ่นใหญ่” วางเกมยึดอำนาจคืน โดยที่ สุดารัตน์ รู้อยู่แก่ใจ แต่ไม่สามารถเคลื่อนไหวต่อรองได้มากเท่าเดิม

หมากยึดพรรคพท.จาก สุดารัตน์ ผ่านการหารือภายในวงลับ “แกนนำพท.รุ่นใหญ่” คิดค้นสูตรหนังสือแต่งตั้ง คณะกรรมการกิจการพิเศษ และไม่ใช่ทำงานแค่เฉพาะ ศึกซักฟอก เท่านั้น แต่จะขับเคลื่อนทุกแผนงานที่พรรคพท.จะดำเนินการหลังจากนี้

ช็อตต่อไปจับตา คณะกรรมการกิจการพิเศษ จะชิงจังหวะประกาศไม่ส่งผู้สมัครลงชิงเก้าอี้ ผู้ว่ากทม.ฯ เพราะต้องหลีกทางให้ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ที่จะลงสมัครในนามอิสระ ตามใบสั่งของ “นายใหญ่-นายหญิง” ที่ต้องการให้ พรรคสีแดง สนับสนุนให้ ชัชชาติ สมหวัง

เนื่องจาก สุดารัตน์ พยายามเดินเกมแข็งข้อ จะส่งตัวแทนในนามพรรคพท. เพราะหากไม่ส่งผู้สมัคร บรรดา ส.ส.กทม. ที่ขึ้นตรงกับ สุดารัตน์ ก็จะ เสียเครดิต-เสียศักดิ์ศรี ในพื้นที่พอสมควร

ช็อตสุดท้ายจับตา สุดารัตน์ ถูกปลดจากตำแหน่งประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพท. ปรับโฉม แนวรุก-แนวรับ ของพรรคพท.ใหม่ เช็คบิล สุดารัตน์ หมดอำนาจต่อรองภายในพรรค

โดย... หมัดเมา