บริษัทเทคโนโลยีดักฟัง "ข้อมูลการสนทนา" เราหรือไม่
บริษัทเหล่านี้ติดตามข้อมูลของเราตลอดเวลาจนทำให้มีข้อมูลจำนวนมาก
ผมเคยสนทนากันในบ้านว่า สนใจสินค้ายี่ห้อหนึ่ง หลังจากนั้นอีกวันก็พบเห็นโฆษณาสินค้านั้นในโซเชียลมีเดียที่ใช้อยู่เป็นประจำ ทั้งที่ผมไม่เคยหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตเกี่ยวกับสินค้านั้นเลย เคยคุยกับเพื่อนบางคน ก็บอกว่าเจอเหตุการณ์คล้ายกัน และเมื่อค้นบทความต่างๆ ก็พบหลายเรื่องที่เขียนออกมาในทำนองนี้ แล้วตั้งคำถามว่า โทรศัพท์หรืออุปกรณ์ในบ้านเราแอบดักฟังเราเพื่อการโฆษณาจริงหรือไม่
ในโลกยุคปัจจุบันมีการนำระบบเอไอมาทำการโฆษณาให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย แต่การที่เอไอจะวิเคราะห์ข้อมูลแต่ละบุคคลได้ต้องสะสมข้อมูลพฤติกรรมของแต่ละบุคคล เช่น ข้อมูลการเล่นอินเทอร์เน็ต ข้อมูลการเลือกสินค้า ข้อมูลการใช้โซเชียลมีเดีย ซึ่งไม่แปลกหากข้อมูลเหล่านั้นได้มาจากการที่คนๆ นั้นใช้อินเทอร์เน็ตโดยตรง แต่หากเป็นการสนทนากันเองหรือการพูดคุยโทรศัพท์ก็อาจเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล
และยิ่งพิจารณาถึงอุปกรณ์ไอโอทีใหม่ๆ เช่น ลำโพงอัจฉริยะ อย่าง Google Home หรือ Amazon Echo ที่สามารถสั่งงานด้วยเสียง ก็จะรู้สึกว่าอุปกรณ์เหล่านี้รอฟังคำสั่งเราที่เป็น Trigger Voice เช่น OK Google หรือ Hey Alexa ตลอดเวลา ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าบริษัทเหล่านี้เก็บข้อมูลมหาศาลไว้เพื่อวิเคราะห์หรือไม่ เช่นเดียวกับ ทีวีอัจฉริยะหรือกล้องอัจฉริยะที่อาจเก็บภาพเคลื่อนไหวของเราตลอดเวลา และนำไปวิเคราะห์ได้ หรือแม้แต่แอพที่ติดตั้งลงในมือถือก็สามารถแอบเก็บข้อมูลสนทนาเราไปวิเคราะห์ได้เช่นกัน
แม้บริษัทใหญ่ๆ อย่างเฟซบุ๊ค หรือกูเกิล ต่างยืนยันว่า ไม่เคยใช้วิธีการฟังเสียงจากโทรศัพท์หรืออุปกรณ์อื่นแล้วนำข้อมูลส่วนบุคคลมาใช้วิเคราะห์เพื่อการโฆษณาก็ตาม แต่สิ่งที่ปรากฏจากโฆษณาเกิดจากการใช้อัลกอริทึมที่นำข้อมูลการใช้อินเทอร์เน็ตของเรา เช่น การโพสต์ การค้นหาข้อมูล ตำแหน่งของเรา รูปภาพ ตลอดจนข้อมูลเพื่อนๆเรามาวิเคราะห์พฤติกรรม ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าบริษัทเหล่านี้ติดตามข้อมูลของเราตลอดเวลาจนทำให้มีข้อมูลจำนวนมาก
ยิ่งเมื่อพิจารณาถึงอุปกรณ์ต่างๆ ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตก็ยิ่งน่าเป็นห่วงว่า เราถูกติดตามมากขึ้น และความเป็นส่วนตัวหายไป บริษัทผู้ให้บริการเริ่มทราบว่า เราอยู่ที่ใด เคลื่อนไหวอย่างไร พักผ่อนมากหรือไม่ ที่บ้านมีใครอยู่หรือไม่ ตลอดจนอาจทราบว่ามีการสนทนาเรื่องใด ดังนั้นการใช้อุปกรณ์เหล่านี้แม้จะสร้างความสะดวกสบาย สร้างบ้านอัจฉริยะ เมืองอัจฉริยะ อาจได้คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แต่ก็อาจต้องแลกมาด้วยความเป็นส่วนตัวที่สูญหายไป
ดังนั้นแนวโน้มเทคโนโลยีเรื่องอุปกรณ์อัจฉริยะที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตก็เริ่มมีการกล่าวถึงการนำข้อมูลมาประมวลผลโดยตรงที่อุปกรณ์โดยไม่ต้องส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของผู้ให้บริการ เช่น อุปกรณ์อัจฉริยะที่จดจำใบหน้าจะเก็บข้อมูลใบหน้าผู้คนต่างๆ ไว้ที่อุปกรณ์โดยตรง หรือลำโพงอัจฉริยะไม่ควรมีการส่งเสียงสนทนากลับไป ทั้งนี้เพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล
ในปัจจุบันเรื่องการใช้ข้อมูลเป็นเรื่องที่สำคัญมากโดยเฉพาะความเป็นส่วนตัวของข้อมูลและการที่องค์กรต่างๆ นำข้อมูลลูกค้ามาใช้ประโยชน์ ทำให้ทุกคนกังวลต่อความปลอดภัยและความเสี่ยงจากการถูกใช้ข้อมูลเหล่านี้ จึงต้องสร้างความเชื่อมั่น โดยต้องโปร่งใสเรื่องความเป็นส่วนตัวของข้อมูล และต้องมีจริยธรรมดิจิทัล (Digital Ethics)
นอกจากนี้ ยังมีความกังวลเรื่องการพัฒนาระบบเอไอที่ต้องอธิบายได้ ต้องบอกได้ว่านำข้อมูลใดมาใช้ พัฒนาและสอนระบบเอไออย่างไร เอไอที่ได้มาต้องสามารถติดตามและตรวจสอบได้ว่าใช้งานอย่างไร หากเรายังไม่สามารถอธิบายเรื่องความโปร่งใสการใช้ข้อมูลหรือการทำระบบเอไอดีพอ สุดท้ายทุกคนอาจหนีออกจากการใช้ระบบอัจฉริยะต่างๆ เหล่านี้