คิดใหม่ ทำเก่า
ปีนี้ที่ผลประกอบการหายไป 40% เนื่องจากโควิด-19 และจะทำอย่างไร หากพนักงานกลับไม่มี “Sense of Urgency”
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ดิฉันมีโอกาสพูดคุยกับผู้บริหารองค์กรยักษ์ใหญ่องค์กรหนึ่ง ท่านผู้บริหารเล่าให้ฟังว่า 20 ปีที่ผ่านมาธุรกิจมีผลประกอบการดีมาก พนักงานอยู่แบบพี่น้อง มีความสุข ได้โบนัสเฉลี่ย 8 เดือนเท่ากันหมดทุกคนทุกระดับ
ปีนี้ที่ผลประกอบการหายไป 40% เพราะผลกระทบโควิด เนื่องจากธุรกิจเกี่ยวข้องกับธุรกิจการบินและท่องเที่ยว ทีมบริหารจึงกลับมานั่งคิดว่าเราอยู่แบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว เพราะต่อให้มีวัคซีน ทุกอย่างคงไม่ได้กลับมาเป็นเหมือนเดิมในทันที เมื่อมองไปในองค์กร พนักงานกลับไม่มี “Sense of Urgency” ทุกคนยังทำงานเหมือนเดิม และหวังว่าจะได้โบนัสเหมือนเดิม
วันนี้จึงอยากหันกลับมาทบทวนวัฒนธรรมองค์กร โดยคาดหวังว่าจะช่วยให้ คนในองค์กรเปลี่ยนพฤติกรรม “ตื่นตัว” “คิดทำเร็วขึ้น” “เน้นลูกค้าเป็นสำคัญ” “มุ่งเน้นอนาคต”
วัฒนธรรมองค์กรปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นเรื่อง “การทำงานเป็นทีม” “เคารพซึ่งกันและกัน” “การเป็นคนดี” “มีความรับผิดชอบ” ซึ่งพฤติกรรมใหม่ ๆ ที่อยากเห็น ยังไม่ได้อยู่วัฒนธรรมองค์กรอันปัจจุบันเลย
ก่อนจบการสนทนา ท่านผู้บริหารกล่าวว่า การทบทวนการวัฒนธรรมองค์กรในครั้งนี้ ตนเองคาดหวังว่าจบแล้ว ยังอยากได้คำจากวัฒนธรรมเดิมอยู่ เพราะเราลงทุนไปเยอะกับการสื่อสารวัฒนธรรมเดิมดังกล่าวมาหลายปี
งงไหมค่ะท่านผู้อ่าน คิดใหม่ แต่อยากทำเหมือนเดิม!!
John Kotter กูรูด้านการเปลี่ยนแปลง บอกไว้ว่าการเปลี่ยนแปลงที่สำเร็จต้องเริ่มจากการมี Sense of Urgency กล่าวคือ
1. เข้าใจว่าทำไมการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นเรื่องจำเป็น
2. เข้าใจว่าทำไมต้องเปลี่ยน “เดี๋ยวนี้”
3. เห็นประโยชน์ที่เกิดขึ้นกับตนเองจากความสำเร็จของการเปลี่ยนแปลง
4. รู้ว่าอะไรเป็นอุปสรรคที่ทำให้การเปลี่ยนแปลงเป็นไปได้ยาก
หากดูจากกรณีศึกษาขององค์กรนี้ มีเหตุผลชัดเจนว่าทำไมการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นเรื่องจำเป็น ตามจริงแม้ไม่มีโควิดก็เป็นสิ่งที่ผู้บริหารควรคิดเตรียมรับโลกที่มันเปลี่ยนไปในอนาคต จะเรียกว่าโชคดีก็ได้ที่มีโควิดมาเป็นตัวเร่งให้ได้คิดเร็วขึ้น และหากคนเปลี่ยนพฤติกรรมไปตามที่ท่านอยากเห็น ก็จะเกิดประโยชน์ทั้งต่อตัวพนักงานเองและองค์กรเป็นอย่างแน่นอน
คำถามอยู่ที่ท่านเข้าใจหรือไม่ว่าทำไมต้องเปลี่ยน “เดี๋ยวนี้”??? และมองเห็นหรือไม่ว่าอะไรเป็นอุปสรรคที่ทำให้เปลี่ยนได้ยาก เช่น ยังคงอิ่มเอมกับความสำเร็จเดิมๆ ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา หรือยังคงอยู่ใน comfort zone
บริษัท สลิงชอท กรุ๊ป ทำการศึกษาคุณลักษณะของ ผู้นำองค์กรที่สร้างความสำเร็จจากโลกธุรกิจที่เปลี่ยนไป (Success Warrior) พบคุณลักษณะที่จำเป็นดังนี้
1. ไม่หยุดที่จะผลักดันให้เกิดผลลัพธ์ ภายใต้ภาวะการแข่งขันที่เปลี่ยนไปหรือไม่เคยปรากฏมาก่อน
2. กระตือรือร้นมองหาและสร้างความแตกต่างเพื่อให้เกิดการได้เปรียบทางการแข่งขัน
3. มีความรู้ ความเข้าใจและสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีต่างๆ ได้ เพื่อพาองค์กรให้อยู่รอดและเติบโต
เมื่อดูจากคุณลักษณะทั้ง 3 ประการ ผู้นำองค์กรยุคนี้คงต้องมีความกล้า ลุกขึ้นมาคิดใหม่ทำใหม่ เพราะหากหวังผลลัพธ์ที่เปลี่ยนไป แต่ยังทำทุกอย่างเหมือนเดิม มันคงยากที่จะเห็นสิ่งใหม่เกิดขึ้นและสำเร็จดังหวัง