ผลตอบแทนของหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก
จากบทความก่อนหน้าผู้เขียนได้กล่าวถึงสาเหตุที่ทำให้หุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าหุ้นขนาดใหญ่และดีกว่าตลาด
โดยมีสาเหตุมาจากบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กมีการเติบโตมากกว่าบริษัทขนาดใหญ่เนื่องจาก บริษัทขนาดกลางและขนาดเล็ก มีโอกาสในการเติบโตจากการแย่งส่วนแบ่งทางการตลาด (Market Share) จากคู่แข่งหรือบริษัทขนาดใหญ่ บริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กมีการปรับตัวได้ดีและรวดเร็วกว่าบริษัทขนาดใหญ่ นอกจากนี้หุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กยังไม่เป็นที่สนใจของนักลงทุนที่มีพอร์ตการลงทุนขนาดใหญ่ เนื่องจากสภาพคล่องในการซื้อขายต่อวันค่อนข้างน้อย และการติดตามข้อมูลของบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กทำได้ยาก เนื่องจากมีข่าวและบทวิเคราะห์น้อย ทำให้การติดตามข้อมูลต้องใช้เวลาและความใส่ใจอย่างมาก การติดตามข้อมูลของบริษัทที่ยากนั้น มีโอกาสทำให้ราคาหุ้นของบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กไม่สะท้อนมูลค่าที่แท้จริงของกิจการ
หุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กในประเทศไทยให้ผลตอบแทนที่ดีในช่วงที่ผ่านมา โดยในช่วง 3 เดือน 6 เดือนและ 1 ปีที่ผ่านมา (ข้อมูลณ วันที่ 9 เมษายน 2564) หุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กให้ผลตอบแทนร้อยละ 20.20 ร้อยละ 37.98 และร้อยละ 76.45 ตามลำดับ ขณะที่ในช่วงเวลาเดียวกัน หุ้นขนาดใหญ่ให้ผลตอบแทนร้อยละ -2.15 ร้อยละ 19.46 และร้อยละ 17.17 ตามลำดับ จะเห็นว่าหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กให้ผลตอบแทนมากกว่าหุ้นขนาดใหญ่ในทุกช่วงเวลา นอกจากนี้ตลาดหุ้นหลักในภูมิภาคอื่นๆ หุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กก็ให้ผลตอบแทนที่ดีเช่นกัน ทั้งตลาดหุ้นยุโรป ตลาดหุ้นสหรัฐ ตลาดหุ้นญี่ปุ่น และตลาดหุ้นฮ่องกง โดยในตลาดหุ้นยุโรปในช่วง 3 เดือน 6 เดือนและ 1 ปีที่ผ่านมา หุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กให้ผลตอบแทนร้อยละ 7.39 ร้อยละ 21.42 และ ร้อยละ 44.61 ตามลำดับ ขณะที่ในช่วงเวลาเดียวกัน ผลตอบแทนของหุ้นขนาดใหญ่ให้ผลตอบแทนร้อยละ 5.65 ร้อยละ 14.21 และร้อยละ 20.73 ตามลำดับ ในตลาดหุ้นสหรัฐในช่วง 3 เดือน 6 เดือนและ 1 ปีที่ผ่านมา หุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กให้ผลตอบแทนร้อยละ 10 ร้อยละ 33.14 และร้อยละ 67.55 ตามลำดับ
ขณะที่ในช่วงเวลาเดียวกัน ผลตอบแทนของหุ้นขนาดใหญ่ให้ผลตอบแทนร้อยละ 7.12 ร้อยละ 17.83 และร้อยละ 46.86 ตามลำดับ ในตลาดหุ้นญี่ปุ่นในช่วง 3 เดือน 6 เดือนและ 1 ปีที่ผ่านมา หุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กให้ผลตอบแทนร้อยละ 7.78 ร้อยละ 17.97 และร้อยละ 42.68 ตามลำดับ ขณะที่ในช่วงเวลาเดียวกัน ผลตอบแทนของหุ้นขนาดใหญ่ให้ผลตอบแทนร้อยละ 6.07 ร้อยละ 20.40 และร้อยละ 39.18 ตามลำดับ ในตลาดหุ้นฮ่องกงในช่วง 3 เดือน 6 เดือนและ 1 ปีที่ผ่านมา หุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กให้ผลตอบแทนร้อยละ 2.55 ร้อยละ 22.64 และร้อยละ 50.96 ตามลำดับ ขณะที่ในช่วงเวลาเดียวกัน ผลตอบแทนของหุ้นขนาดใหญ่ให้ผลตอบแทนร้อยละ 3.33 ร้อยละ 19.44 และร้อยละ 18.54 ตามลำดับ จะเห็นว่าในตลาดหุ้นไทย ตลาดหุ้นยุโรป ตลาดหุ้นสหรัฐ ตลาดหุ้นญี่ปุ่นและตลาดหุ้นฮ่องกง ในช่วงเวลา 3 เดือน 6 เดือนและ 1 ปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ผลตอบแทนของหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าผลตอบแทนของหุ้นขนาดใหญ่ มีเพียงผลตอบแทน 6 เดือนย้อนหลังของตลาดหุ้นญี่ปุ่นและผลตอบแทน 3 เดือนย้อนหลังของตลาดหุ้นฮ่องกงเท่านั้นที่ผลตอบแทนของหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กน้อยกว่าผลตอบแทนของหุ้นขนาดใหญ่
ขณะที่ผลตอบแทน 3 ปีย้อนหลังของตลาดหุ้นไทย หุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กให้ผลตอบแทนร้อยละ -9.75 เทียบกับผลตอบแทนของหุ้นขนาดใหญ่ให้ผลตอบแทนร้อยละ -17.46 ตลาดหุ้นยุโรป หุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กให้ผลตอบแทนร้อยละ 25.31 เทียบกับผลตอบแทนของหุ้นขนาดใหญ่ให้ผลตอบแทนร้อยละ 11.95 ตลาดหุ้นฮ่องกง หุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กให้ผลตอบแทนร้อยละ 12.22 เทียบกับผลตอบแทนของหุ้นขนาดใหญ่ให้ผลตอบแทนร้อยละ -4.71 ตลาดหุ้นสหรัฐ หุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กให้ผลตอบแทนร้อยละ 43.32 เทียบกับผลตอบแทนของหุ้นขนาดใหญ่ให้ผลตอบแทนร้อยละ 56.79 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น หุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กให้ผลตอบแทนร้อยละ 11.65 เทียบกับผลตอบแทนของหุ้นขนาดใหญ่ให้ผลตอบแทนร้อยละ 15.65 จะเห็นว่าในตลาดหุ้นไทย ตลาดหุ้นยุโรปและตลาดหุ้นฮ่องกงผลตอบแทนในระยะยาวของหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กให้ผลตอบแทนมากกว่าหุ้นขนาดใหญ่ ขณะที่ในตลาดหุ้นสหรัฐและตลาดหุ้นญี่ปุ่นผลตอบแทนในระยะยาวของหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กให้ผลตอบแทนน้อยกว่าหุ้นขนาดใหญ่เล็กน้อย
จากผลตอบแทนที่แสดงข้างต้น จะเห็นว่าในระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว หุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าหุ้นขนาดใหญ่ ซึ่งเกิดจากข้อได้เปรียบของบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กที่มีต่อบริษัทขนาดใหญ่ที่ได้กล่าวไปข้างต้น ทำให้สามารถคาดการณ์ได้ว่าหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กจะให้ผลตอบแทนที่ดีได้ในระยะต่อไป โดยผลตอบแทนที่ดีจะส่งผลให้หุ้นขนาดเล็กและขนาดกลางจะเป็นที่สนใจของนักลงทุนขนาดใหญ่และนักลงทุนทั่วไปมากขึ้น