เจ้านายเป็นพิษในยุคโควิด
เจ้านายบางคนก่อนโควิดก็ดูเป็นคนปกติดี แต่เมื่อมีโควิดและต้อง WFH เจ้านายคนเดียวกันกลับเหมือนกับถูกพิษในยุคโควิดระบาด และกลายเป็นเจ้านายที่เป็นพิษกันเลย
ในช่วงโควิด ก็ทำให้ได้ฟังและอ่านในเรื่องราวดีๆ ขององค์กรดีๆ เจ้านายดีๆ ที่ดูแลเอาใจใส่พนักงานในสถานการณ์แห่งความยากลำบาก แต่ขณะเดียวกันก็มีเรื่องราวที่ชวนปวดหัวของบรรดาเจ้านายที่ทำตัวเป็นพิษ (Toxic Boss) อยู่ไม่น้อย
เจ้านายที่เป็นพิษนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ มีงานวิจัยและงานเขียนต่างๆ ที่เขียนถึง Toxic Boss กันมาไม่น้อย ตัวอย่างพฤติกรรมของเจ้านายที่เป็นพิษนั้น ก็อาทิเช่น พวกที่ชอบแย่งงานลูกน้องไปนำเสนอโดยไม่ให้เครดิตกับลูกน้อง หรือ พวกที่ชอบใช้คำพูด สีหน้า แสดงถึงการดูถูก ต่อผู้อื่น หรือ พวกที่อารมณ์รุนแรง โกรธง่าย หงุดหงิดง่าย จะเอาให้ได้ตามที่ตนเองต้องการและมักจะระบายอารมณ์ใส่ลูกน้อง เป็นต้น
เจ้านายที่เป็นพิษนั้นจะไม่ได้เป็นพิษกับตัวลูกน้องแค่นั้น แต่สามารถระบาดความเป็นพิษไปสร้างบรรยากาศในการทำงานที่เป็นพิษได้อีกด้วย เมื่อโควิดระบาดใหม่ๆ และทำงานแบบ Work from home ลูกน้องที่ทำงานกับเจ้านายที่เป็นพิษอาจจะดีใจว่าจะได้มีโอกาสถอยห่างจากเจ้านายและบรรยากาศที่เป็นพิษในที่ทำงาน แต่ก็พบว่าตัวเองคิดผิด เนื่องจากเจ้านายที่เป็นพิษนั้นเมื่อเป็นพิษแล้ว ต่อให้ทำงานแบบเดิมหรือ WFH ก็ล้วนแต่สามารถทำตัวเป็นพิษได้ทั้งสิ้น เพียงแต่ปรับรูปแบบของการกระจายพิษไปเท่านั้นเอง
นอกจากนี้เจ้านายที่แต่เดิมดูปกติ เมื่อต้อง WFH ก็อาจจะแสดงอาการมีพิษออกมาได้ เพราะเมื่อ WFH ทำให้ไม่ได้พบเจอ ขาดปฏิสัมพันธ์ เครียด รวมทั้งอาจจะขาดความมั่นใจที่จะกำกับดูแลลูกน้องและงานให้เป็นไปตามที่ตนเองต้องการ
ได้ลองรวบรวมพฤติกรรมของเจ้านายที่เป็นพิษในช่วง WFH ไว้ส่วนหนึ่ง ซึ่งแต่ละท่านก็อาจจะพบเจอพฤติกรรมอื่นๆ ที่แตกต่างหรือมากไปจากนี้ก็ได้
1. ทำงานทั้งวันทั้งคืน - ในอดีตเมื่อออกจากออฟฟิศส่วนใหญ่ก็ถือว่าหมดเวลาการทำงาน แต่เมื่อทำงานที่บ้านและไม่มีเส้นแบ่งระหว่างการทำงานกับชีวิตส่วนตัว เจ้านายก็มักจะลืม (หรือแกล้งลืม) ไปว่าลูกน้องมีชีวิตส่วนตัวเหมือนกัน ยิ่งถ้าเจ้านายชำนาญการประชุมผ่านทางออนไลน์มากเท่าใด ยิ่งทำให้เจ้านายเหล่านี้สั่งและตามงานลูกน้องได้แบบ 24/7 ตลอดเวลา
2. กลัวลูกน้องไม่ทำงาน - พอทำงานที่บ้านเจ้านายไม่น้อยก็เริ่มกังวลว่าลูกน้องจะเอาเวลาที่มีอยู่ไปทำสิ่งอื่นที่ไม่ใช่งานหรือไม่ บางองค์กรถึงขั้นสั่งให้พนักงานติดตั้งแอพหรือโปรแกรมในคอมพิวเตอร์เพื่อติดตามการทำงานและใช้เครื่องคอมฯ ของพนักงาน บางองค์กรไม่ได้มีการติดตั้งระบบดังกล่าว แต่เจ้านายที่กังวลว่าพนักงานจะอู้งาน ก็จะคอยใช้วิธีสารพันในการเฝ้าติดตามการทำงานของลูกน้อง ไม่ว่าจะเป็น การสุ่มโทรตรวจสอบลูกน้องเป็นระยะๆ หรือ อยู่ดีๆ ก็เรียกประชุมด่วน (แบบไม่จำเป็นต้องเรียก) เพื่อดูว่าลูกน้องยังนั่งทำงานอยู่หน้าจอหรือไม่
3. ละเลยไม่สนใจลูกน้อง - พอการประชุมเปลี่ยนเป็นออนไลน์มากขึ้น ลูกน้องบางคนที่ไม่ได้ชอบที่จะยกมือหรือพูดแสดงความคิดเห็นก็จะถูกละเลยจากเจ้านาย ในอดีตนั้นเวลาประชุมและมองเห็นหน้ากันอยู่ก็ยังสามารถส่งสัญญาณผ่านอวัจนะภาษาว่าอยากแสดงความคิดเห็นกันได้ แต่เมื่อเป็นประชุมออนไลน์แล้ว ถ้าไม่กดยกมือหรือพูดโพล่งขึ้นมา ก็จะไม่ได้มีโอกาสแสดงความคิดเห็นและมีโอกาสสูงที่จะถูกละเลยจากเจ้านาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากเจ้านายที่อาจจะไม่ได้สนใจรับฟังความคิดเห็นของผู้เข้าร่วมประชุมทุกๆ คน
ข้างต้นเป็นเพียงแต่ตัวอย่างของพฤติกรรมของเจ้านายที่เป็นพิษในช่วงสถานการณ์ของการ WFH กัน บางข้ออาจจะเป็นพิษร้ายแรงบางข้ออาจจะเป็นพิษเบาๆ แต่ก็ส่งผลต่อขวัญและกำลังใจในการทำงานของลูกน้องทั้งสิ้น ก็อาจจะลองสำรวจดูนะครับว่าท่านได้พบเจอเจ้านายที่มีพฤติกรรมเหล่านี้บ้างหรือไม่.