Thematic ลงทุนเฉพาะทางยังไงให้เข้าใจ Megatrend
ลงทุนแบบ Thematic จึงเป็นการลงทุนที่มุ่งเน้นไปที่แนวโน้มระยะยาว มีการเติบโตเป็น “เมกะเทรนด์” ในอนาคต ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม แม้ว่าจะมีความเสี่ยงสูง และอาจใช้เวลาลงทุนยาวนานกว่าการลงทุนแบบดั้งเดิม
การลงทุนแบบ Thematic เป็นกลยุทธ์การลงทุนที่มุ่งเน้นการเลือกลงทุนในธีมหรือแนวโน้มที่คาดว่าจะมีการเติบโตในอนาคตเป็น “เมกะเทรนด์” ซึ่งเป็นเทรนระยะยาวมากกว่า 10 ปี ที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงวิถีการใช้ชีวิตของมนุษย์และเปลี่ยนวิถีการทำธุรกิจที่ส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโลก โดยครอบคลุมหลายอุตสาหกรรมละหลายภูมิภาคที่เกี่ยวข้องกับธีมนั้นๆ ซึ่งธุรกิจที่ได้รับประโยชน์จากเทรนด์เหล่านี้จะสร้างโอกาสทางการลงทุนให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าและเอาชนะทุกช่วงสภาวะเศรษฐกิจได้ เช่น เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เทคโนโลยีทางการแพทย์ อินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง (Internet of Things) การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พลังงานสะอาด หรือ สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) เป็นต้น
ทำไมถึงจึงต้องลงทุนแนว Thematic?
1. การเชื่อมโยงกับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงในระยะยาว การลงทุนในธีมที่เกี่ยวข้องการเปลี่ยนแปลงในระยะยาว อย่างการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีความผันผวนมากขึ้น การเพิ่มขึ้นของของประชากรผู้สูงอายุจนเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย การลงทุนที่เกี่ยวข้องกับธีมเหล่านี้จะช่วยให้นักลงทุนสามารถเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและตลาดในระยะยาวได้ดียิ่งขึ้น เช่น การลงทุนในธีมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก บริการทางสุขภาพและการแพทย์หรือเทคโนโลยีและนวัตกรรมสำหรับผู้สูงวัย
2. โอกาสในการลงทุนในอุตสาหกรรมเกิดใหม่ การลงทุนแบบ Thematic ช่วยให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงโอกาสในตลาดเกิดใหม่ ที่ยังไม่เป็นที่รู้จักหรือยังไม่ค่อยได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วไปมากนัก การมองหาธีมใหม่ๆ ที่สามารถนำพาไปสู่การลงทุนในบริษัทหรือภาคส่วนที่มีศักยภาพสูง อย่างเช่น เทคโนโลยีบล็อกเชน สินทรัพย์ดิจิทัล หรือ ไฮโดรเจน ที่จะกลายเป็นอีกพลังงานทางเลือกในอนาคตที่ยังไม่ค่อยได้รับความสนใจมากนัก
3. โอกาสได้ผลตอบแทนมากขึ้นจากการเติบโตสูงในระยะยาว การลงทุนในธีมที่มีแนวโน้มเติบโตสูงได้ในระยะยาวทำให้มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีมากยิ่งขึ้น เนื่องจากแนวโน้มเหล่าจะส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและเศรษฐกิจของโลกอย่างมีนัยสำคัญ โดยใช้เวลาการลงทุนนานกว่าการลงทุนโดยทั่วไป แต่จะให้ผลตอบแทนอย่างมากเมื่อตลาดจะรับรู้ถึงศักยภาพและกลายเป็นกระแสหลัก เช่น ธีมปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่เห็นความชัดเจนมากขึ้นในปัจจุบัน
ข้อควรระวังและความเสี่ยงในการลงทุน Thematic
การลงทุน Thematic อาจมีความผันผวนทางด้านราคาสูง เนื่องจากเป็นการลงทุนที่กระจุกตัวเฉพาะกลุ่ม แม้ว่าลงทุนในธีมเหล่านี้อาจให้ผลตอบแทนที่สูงเมื่อธีมได้รับความนิยมและกลายเป็นที่แพร่หลายจากตลาดจนประสบความสำเร็จ แต่ก็สามารถนำไปสู่การขาดทุนอย่างมีนัยยะสำคัญได้หากไม่เป็นไปตามที่คาดเนื่องจากการคาดการณ์อย่างถูกต้องว่าเมื่อไหร่ธีมที่เราเลือกลงทุนจะเริ่มออกดอกผลให้ตลาดรับรู้ศักยภาพของการเติบโต เป็นเรื่องค่อนข้างยาก เช่น พลังงานสะอาดถูกการยอมรับว่าเป็นอุตสาหกรรมที่เติบโตมาอย่างยาวนานและทุกๆประเทศทั่วโลกกำลังเปลี่ยนแปลงพลังงานดั้งเดิมไปใช้พลังงานทดแทน แต่อย่างไรก็ตามพลังงานสะอาดช่วงที่ผ่านมาต้องเผชิญกับความซบเซาหรือขาดทุนเป็นเวลาหลายปีก่อนที่จะได้รับแรงผลักดันมากพอกว่าที่ตลาดจะเห็นมูลค่าและให้ผลตอบแทนในระดับสูง ซึ่งอาจทำให้การลงทุนในธีมเหล่านี้ ต้องใช้ความอดทนและใช้ระยะเวลายาวนานกว่าเมื่อเทียบกับการลงทุนแบบดั้งเดิม จึงต้องพิจารณาแนวโน้มการตอบรับของตลาดและเทคโนโลยีที่มีความเป็นไปได้สำหรับการเปลี่ยนแปลง ซึ่งการกระจายความเสี่ยงจะช่วยลดความผันผวนและบรรเทาความสูญเสียหากไม่เป็นไปตามที่คาดไว้
การลงทุนแบบ Thematic จึงเป็นการลงทุนที่มุ่งเน้นไปที่แนวโน้มระยะยาว มีการเติบโตเป็น “เมกะเทรนด์” ในอนาคต ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม แม้ว่าจะมีความเสี่ยงสูง และอาจใช้เวลาลงทุนยาวนานกว่าการลงทุนแบบดั้งเดิม แต่ก็มีโอกาสในการได้รับผลตอบแทนที่ดีอย่างมาก หากแนวโน้มเป็นไปตามที่คาดหวัง นักลงทุนจะต้องศึกษาธีมเพื่อให้เข้าใจและประเมินความเสี่ยงอย่างรอบคอบก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนในลักษณะนี้ เพื่อเป็นการสร้างผลตอบแทนในระยะยาวและลดการสูญเสียหากไม่เป็นไปตามที่คาด