เปลือยอดีต 'พิธา-ทักษิณ' แน่นกว่าที่นึก ลึกกว่าที่คิด

จริงหรือ เพื่อไทย-ก้าวไกล ห้ำหั่นกันเอง หลังเลือกตั้งจะร่วมกันได้ไหม หากพลิกปูมหลัง “พิธา” ผ่านสายสัมพันธ์อันลึกล้ำ “ผดุง-ทักษิณ” รัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตย ก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม

การปราศรัยใหญ่ของพรรคก้าวไกล ที่สามย่านมิตรทาวน์ ได้สร้างปรากฏการณ์พิเศษอันส่งสัญญาณถึงชัยชนะแบบก้าวไกลแลนด์สไลด์ อาจเกิดขึ้นได้จริง 

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้ประกาศต่อหน้ามวลชนว่า นี่เป็นเวลาที่อันดับในโพลของพรรคก้าวไกลขึ้นมากที่สุด และสูงกว่าสมัยอนาคตใหม่ด้วยซ้ำ การค้นหาในกูเกิลเทรนด์สูงสุด ตั้งแต่มีพรรคก้าวไกลมา

 

 

วาทกรรมที่กระชากเรตติ้งพรรคสีส้มคือ การเลือกพรรคก้าวไกล เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เชื่อถือได้ ตรงปก เลือกแบบไหนได้แบบนั้นแน่นอน มีลุงไม่มีเรา-มีเราไม่มีลุง

ร้อนถึง อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร ต้องอุ้มท้อง 9 เดือนขึ้นเวทีปราศรัยสุดท้ายที่เขตดอนเมือง ก่อนลาคลอด เธอตะโกนดังๆว่า “เราต้องปิดสวิตช์ สว. และ 3 ป.”

นักสังเกตการณ์ทางการเมืองประเมินว่า เพื่อไทยตกเป็นรองก้าวไกล เพราะความคลุมเครือ ไม่ชัดเจนเรื่องดีลลับข้ามขั้ว จึงถูกบีบให้อุ๊งอิ๊ง และเศรษฐา ทวีสิน ต้องออกมาประกาศว่า ไม่จับมือทั้งสองลุง

อย่างไรก็ตาม ระหว่างการหาเสียง ทุกพรรคย่อมงัดทุกกลยุทธ์ออกมาเรียกคะแนนนิยม แม้แต่พรรคในขั้วเดียวกันก็ต้องแข่งขันกันอย่างเต็มที่ หลังวันที่ 14 พ.ค.2566 ก็ต้องเริ่มเล่นเกมใหม่

นอกเหนือจากการเป็นพรรคฝ่ายประชาธิปไตยเหมือนกัน ความสัมพันธ์ส่วนตัวระหว่าง พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และ ผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ คนใกล้ชิดทักษิณและคุณหญิงพจมาน ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม 

ความทรงจำอันเจ็บปวด

เมื่อวันที่ 20 เม.ย.2566 ทิม-พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ไปเปิดอกคุยกับสรยุทธ สุทัศนจินดา ในช่องยูทูปกรรมกรข่าว คุยนอกจอ โดยช่วงหนึ่งพิธาเล่าความหลังเรื่องรัฐประหาร 19 ก.ย.2549 และการสูญเสียบิดาแบบกะทันหัน

“คุณพ่อผมเสียชีวิตในคืนรัฐประหาร 2549 ผมอยู่กับนายกฯทักษิณ ที่นิวยอร์ก ผมบินกลับมาที่กองทัพอากาศ งานศพพ่อของผมคืนแรก ก็ไปไม่ได้ เพราะถูกกักตัวอยู่ในกองทัพ ผมไม่มีเงินจ่ายค่าทำศพพ่อ เพราะโดนแช่แข็งทางบัญชี ผมไปที่ธนาคารจะไปเบิกมาจ่าย ค่าทำศพพ่อตัวเอง ผมยังทำไม่ได้เลย ต้องยืมเงินคนอื่นมาจ่ายทำศพคุณพ่อ”

ผู้ที่ฟังเรื่องนี้ครั้งแรก คงรู้สึกแปลกใจกับคำพูดที่ว่า “ผมอยู่กับนายกฯ ทักษิณที่นิวยอร์ก” แต่เรื่องนี้ ทิม พิธา ก็ไม่เคยปิดบังกรณีที่เขาเคยไปทำงานร่วมกับทีมงานของ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี สมัยนั้น ก่อนจะเดินทางไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ

แน่นอน ผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้เป็นอาของพิธา คือผู้ที่เปิดทางให้หลานชายได้เข้าไปสัมผัสโลกการเมืองในยุคทองของทักษิณ และพรรคไทยรักไทย  

สำหรับเรื่องของบิดา และการรัฐประหาร 2549 พิธา เคยให้สัมภาษณ์ในนิตยสาร Who Magazine เมื่อปี 2551 ว่า เวลานั้น ตัวเขากำลังเรียนหนังสืออยู่ที่บอสตัส ส่วนผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ ติดตามนายกฯทักษิณ มาประชุมสหประชาชาติที่นิวยอร์ก โดยผดุงเป็นคนแจ้งข่าวให้เขาทราบว่า พ่อเสียชีวิตแล้ว

พิธานั่งเครื่องบินจากบอสตันมายังนิวยอร์ก เขาเป็นห่วงแม่กับน้องชาย เพราะไม่มีพ่อครอบครัวจะอยู่อย่างไร จึงตัดสินใจบินกลับไทยทันที แต่ไม่มีไฟล์ทบินกลับไทยโดยตรง ผดุงจึงพาเขานั่งเครื่องบินเช่าเหมาลำของทักษิณไปที่อังกฤษ เมื่อส่งทักษิณและคณะแล้ว เครื่องบินลำนั้นก็เดินทางกลับไทย

เมื่อเครื่องบินเช่าเหมาลำแตะพื้นสนามบินกองทัพอากาศ มีทหารหลายนายวิ่งขึ้นมาบนเครื่อง พยายามถามว่าเขาเป็นใคร พิธาอธิบายว่า เป็นนักเรียนที่สหรัฐ พ่อเสียชีวิตกะทันหัน เลยรีบจะมางานศพ และบอกว่า ไม่เกี่ยวกับการเมือง ทหารจึงยอมปล่อยตัวออกมา

ทางชีวิตพิธา

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นบุตรชายของ พงษ์ศักดิ์ ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตที่ปรึกษา รมว.เกษตรและสหกรณ์ เป็นพี่ชายของ ผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ และเทียน ภาษิณ ลิ้มเจริญรัตน์

ในวัยเยาว์ ทิมเรียนมัธยมฯ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตรียนวิทยาลัย ก่อนไปใช้ชีวิตที่นิวซีแลนด์นานถึง 7 ปี กลับมาเรียนที่เมืองไทยจนจบปริญญาตรีคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

จบปริญญาโท คณะการเมืองการปกครอง มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และบริหารธุรกิจ ที่เอ็มไอที สโลน สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ สหรัฐ

หลังจากบิดาที่เสียชีวิต ด้วยโรคติดเชื้อในกระแสเลือด และมีหนี้สินนับร้อยล้านบาท จากธุรกิจน้ำมันรำข้าว ทิม พิธา ตัดสินใจดรอปเรียนและกลับมาดูแลธุรกิจแทน

ทิม พิธา ล้างหนี้สิน สร้างธุรกิจเติบโตมูลค่าเป็นพันล้านบาท เป็นบริษัทผู้ผลิตน้ำมันรำข้าวรายใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ และอันดับ 5 ของโลก

บุรุษผมสีดอกเลา

“บุรุษผมสีดอกเลาผู้นี้ มีอำนาจในการตัดสินใจว่า เรื่องใดจะเข้าถึงทักษิณ และถ้าเรื่องใดเขาจัดการเอง ส.ส.ในพรรคไทยรักไทยทุกคนรู้ดีว่า ผดุง คือตัวจริง เสียงจริง” สรกล อดุลยานนท์ คอลัมนิสต์ชื่อดังค่ายมติชน เคยเขียนถึง ผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ ในฐานะ The man behind ของทักษิณ เมื่อปี 2544  

ประวัติย่อๆ ของ ผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ จบปริญญาตรีคณะเศรษฐศาสตร์ สาขาบัญชี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ทำธุรกิจส่วนตัว ก่อนที่ทักษิณ และพจมาน จะดึงตัวเข้ามาช่วยงานที่อาณาจักรตระกูลชินวัตร

จริงๆแล้ว ผดุงเป็นเพื่อนรักของ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ พี่ชายของคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ทั้งคู่เป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่เรียน ป.1 ผดุงจึงเห็นทักษิณมาแต่เป็นนักเรียนโรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน และคุณหญิงอ้อ เรียนอยู่ชั้น ม.ศ.3 โรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนแวนต์ 

ในอาณาจักรธุรกิจของทักษิณ-พจมาน ผดุงได้เป็นผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการบริษัท เอสซีแอสเสท จำกัด เมื่อทักษิณเล่นการเมือง ผดุงจึงมารับหน้าที่ติดตามทักษิณ แต่ไม่ใช่แค่คนถือแฟ้ม 

รัฐบาลทักษิณสมัยแรก สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีคลัง และได้เป็นรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจอีกตำแหน่งหนึ่ง ทักษิณจึงตั้งที่ปรึกษารองนายก รัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ชื่อ ผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ 

ช่วงนี้เองที่ผดุงส่งหลานชายชื่อ ทิม พิธา เข้าไปเป็นทีมงานของสมคิด เรียนรู้เรื่องการเมืองอยู่ระยะหนึ่ง ทิมเองก็เคยให้สัมภาษณ์ว่า เขาได้รู้จักนักการเมืองในสภาฯหลายคนในช่วงนั้น

หลังรัฐประหารปี 2549 ชื่อของ “ผดุง” บุรุษผมสีดอกเลาเงียบหายไป กระทั่งรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เมื่อ จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ ได้นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีมหาดไทย ยิ่งลักษณ์ได้แต่งตั้งให้ผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ ดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีมหาดไทย

ปัจจุบัน ผดุงยังเป็นคนทำงานที่ทักษิณ-พจมาน ไว้วางใจยิ่ง แม้จะไม่ปรากฏตัวต่อสาธารณะ แต่แกนนำพรรคเพื่อไทย รู้ดีว่า ศักยภาพของผดุง ยังเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง