มนต์รัก 'ทักษิณ' แชมป์อีสานสะดุด 'ก้าวไกล' ตัดแต้ม
ฝ่าฝนหาเสียงโค้งสุดท้าย เศรษฐา ลุยอีสานหนัก อุ๊งอิ๊ง ส่งคลิปเสียงอ้อนขอคะแนนทุกกลุ่มไลน์ แกนนำเพื่อไทยหวังชนะขาด ก้าวไกลกระแสแรงขึ้น ถึงไม่ชนะแต่ตัดแต้ม ตาอยู่รอเสียบหลายพรรค
สถานการณ์การเลือกตั้ง พ.ศ.นี้ยังไม่หนีการเมือง 2 ขั้ว อ่านจากโพลหลายสำนักต่างชี้ไปทิศทางเดียวกัน ขั้วเสรีนิยมเป็นต่อขั้วอนุรักษ์นิยม แต่การแข่งขันในฝั่งเดียวกัน กลับเข้มข้น ถึงขั้นเอาเป็นเอาตาย
ช่วงวันหยุดยาว 29-30 เม.ย. และ 1 พ.ค.2566 เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย นำทัพลงพื้นที่อีสาน เปิดปราศรัยใหญ่ ไล่มาตั้งแต่ศรีสะเกษ, สุรินทร์, มหาสารคาม ,บุรีรัมย์ ,นครพนม และสกลนคร
ทีมนักรบห้องแอร์ กำหนดจุดปราศรัยในเขตเลือกตั้งที่เรียกว่า พื้นที่ช่วงชิง ซึ่งส่วนใหญ่ผู้สมัคร ส.ส.เพื่อไทย ต้องสู้กับผู้สมัคร ส.ส.ภูมิใจไทย
ก่อนยุบสภาฯ ส.ส.ภาคอีสาน จำนวน 133 ที่นั่ง แกนนำพรรคเพื่อไทย ตั้งเป้าจะต้องกวาดมาให้ได้ 120 ที่นั่ง เหมือนการเลือกตั้งปี 2554 สมัยยิ่งลักษณ์ฟีเวอร์
ย้อนไปดูผลการเลือกตั้งปี 2562 เฉพาะภาคอีสาน พรรคเพื่อไทย ได้ 84 ที่นั่ง จากทั้งหมด 116 ที่นั่ง ส่วนที่เหลือก็แบ่งกันไป พรรคภูมิใจไทย 16 ที่นั่ง, พรรคพลังประชารัฐ 11 ที่นั่ง, พรรคประชาธิปัตย์ 2 ที่นั่ง และอีก 3 พรรคคือ อนาคตใหม่, ชาติไทยพัฒนา และชาติพัฒนา ได้พรรคละ 1 ที่นั่ง
สมัยที่แล้ว พรรคเพื่อไทย ชนะยกจังหวัดภาคอีสาน 10 จังหวัดได้แก่ อุดรธานี (8 เขต), บึงกาฬ (2 เขต), หนองคาย (3 เขต), สกลนคร (6 เขต), กาฬสินธุ์ (5 เขต), หนองบัวลำภู (3 เขต), อำนาจเจริญ (2 เขต), ยโสธร (3 เขต), มหาสารคาม (5 เขต) และมุกดาหาร (2 เขต)
ประเมินกันเบื้องต้นว่า การเลือกตั้ง ส.ส.ปี 2566 สมรภูมิภาคอีสาน 10 จังหวัดข้างต้น พรรคเพื่อไทยมีแนวโน้มชนะยกจังหวัดอีกครั้ง รวมถึงอีกหลายจังหวัดโซนอีสานกลางหากไม่มีกรณีพรรคก้าวไกล ตัดแต้ม และเปิดทางให้ผู้สมัคร ส.ส.ประเภทเสาเข็ม แทรกเข้าป้าย
จากผลสำรวจคนไทยเลือกพรรคการเมืองใด ของสวนดุสิตโพล เมื่อเร็วๆนี้ จำแนก ตามภูมิภาค พบว่า คนอีสานนิยมเพื่อไทยมากที่สุด ร้อยละ 48.92 รองลงไปคือ พรรคก้าวไกล ประมาณร้อยละ 10
มนต์รักทักษิณ
20 ปีที่แล้ว ไม่มีใครเชื่อว่า คนอีสาน จะเทใจพรรคไทยรักไทย จนได้เป็นแชมป์อีสาน และผู้สมัคร ส.ส.หน้าใหม่จำนวนมาก ได้เป็น ส.ส.สมัยแรก หรือที่เรียกกันว่า ส.ส.นกแล
ผลการเลือกตั้ง 6 ม.ค.2544 พรรคไทยรักไทย ได้ ส.ส.เขต 200 คน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 48 คน ซึ่ง ส.ส.กว่าร้อยชีวิต ก็มาจากภาคอีสาน
ชัยชนะของทักษิณ ชินวัตร นั้นมาด้วยชุดนโยบายประชานิยม อาทิ 30 บาทรักษาทุกโรค, กองทุนหมู่บ้าน ,พักชำระหนี้ ฯลฯ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่พรรคการเมืองเสนอนโยบายโดนใจคนรากหญ้า
อีก 4 ปีถัดมา พรรคไทยรักไทยชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ ได้ ส.ส.เขต 310 คน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 67 คน เฉพาะภาคอีสาน ไทยรักไทยกวาดมาเกือบหมด เหลือให้พรรค ปชป. 2 ที่นั่ง และพรรคมหาชน 1 ที่นั่ง
นี่คือการแสดงพลังการเมืองของคนอีสาน ที่ทำให้พลังจารีตสั่นไหว และปี 2548 จึงเกิดขบวนการต้านระบอบทักษิณ
หลังรัฐประหาร 2549 พรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย ยังได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งแบบถล่มทลายในภาคอีสาน จวบจนกระทั่งรัฐประหาร 2557 และมีการเลือกตั้ง การเกิดขึ้นของพรรคอนาคตใหม่ ได้ส่งผลสะเทือนถึงพรรคเพื่อไทย เพราะมีฐานเสียงกลุ่มเดียวกัน
ส้มตัดแดง
ผลการเลือกตั้งปี 2562 ทั้งภาคอีสาน พรรคอนาคตใหม่ ได้ ส.ส. 1 ที่นั่งก็จริง แต่เมื่อส่องเข้าไปดูคะแนนรายเขต ปรากฏว่า ผู้สมัคร ส.ส.พรรคสีส้ม ได้คะแนนอันดับ 2 ส่วนใหญ่ เฉลี่ยคะแนนเขตละหมื่นแต้ม
การเลือกตั้งปีนี้ ชื่อทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย ยังครองใจคนอีสานอยู่โดยมีพรรคก้าวไกล ก้าวขึ้นมาเป็นคู่แข่งในตลาดการเมืองภาคอีสาน
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ก็เข้าใจสภาพการเมืองอีสาน จึงมีวรรคทอง “จะเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยได้ ต้องชนะใจคนอีสานให้ได้” ระหว่างการปราศรัยเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กาฬสินธุ์ เมื่อปี 2565
เมื่อครั้งพรรคก้าวไกลจัดประชุมใหญ่ที่ จ.ขอนแก่น พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประกาศวิสัยทัศน์พลิกชะตากรรมคนอีสาน ดินแดนต้องคำสาปห้ามพัฒนา และ ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ลั่นคำโตๆว่า ภาคอีสานไม่มีเจ้าของ และเชื่อประชาชนจะเปลี่ยนแปลง
พิธารู้ดีว่า ความเก๋าของ ส.ส.อีสาน พรรคเพื่อไทย ย่อมเหนือกว่าผู้สมัคร ส.ส.หน้าใหม่ของพรรคก้าวไกล แต่ 2-3 ปีมานี้ จำนวนผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งหน้าใหม่เพิ่มขึ้น และไม่ได้ภักดีต่อแบรนด์ทักษิณ เหมือนคนรุ่นพ่อรุ่นแม่
อย่างไรก็ตาม ผู้สมัคร ส.ส.พรรคสีส้มในภาคอีสาน ยังเป็นรองอดีต ส.ส.พรรคสีแดง ไม่อาจเอาชนะได้ แต่กลับเป็นการแย่งคะแนนในฝั่งเดียวกัน
รูปธรรมของการตัดแต้มกันเอง และอาจเป็นการเปิดทางให้มีตาอยู่มาคว้าพุงปลาไปกิน ขอตัวอย่าง 2 เขตเลือกตั้ง จ.ขอนแก่น
เลือกตั้ง สส.สมัยที่แล้ว สนามขอนแก่น ผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ได้คะแนนเฉลี่ยเขตละ 1-2 หมื่นคะแนน
เขต 2 อ.เมืองขอนแก่น พรรคเพื่อไทย ส่ง เอม รัมภามาศ ฑีฆธนานนท์ ลูกสาวเสี่ยอุ้ย เจ้าของตลาดเจริญศรี ลงแข่งกับแบงค์ชัย อิทธิพล ชลธราศิริ พรรคก้าวไกล
แชมป์เก่าเขต 2 ปี 62 คือ วัฒนา ช่างเหลา ลูกชายเสี่ยเอกราช ที่ย้ายจากพรรคพลังประชารัฐ ไปพรรคภูมิใจไทย ก็เป็นทั้งตัวเต็งและตาอยู่
เขต 4 อ.อุบลรัตน์ อ.เขาสวนกวาง มุกดา พงษ์สมบัติ เป็น สส.สมัยแรกปี 2539 และปีนี้ ยังพกความมั่นใจลงสนามอีกหน สู้กับรุ่นลูกรุ่นหลาน วุฒิรักษ์ แพงตาแก้ว พรรคก้าวไกล
ส่วนเอกราช ช่างเหลา อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ก็รอเป็นตาอยู่ ด้วยการทุ่มทรัพยากรเต็มที่ หวังล้มแชมป์เก่า
การแข่งขันในลักษณะดังกล่าวนี้ ยังมีอยู่อีกหลายจังหวัด หลายเขตเลือกตั้ง สังเกตได้จากการเคลื่อนทัพหาเสียงของเพื่อไทยในโค้งสุดท้ายที่พุ่งเป้าไปในพื้นที่ผู้สมัคร ส.ส.มีคะแนนนิยมส่วนตัวตกเป็นรอง
บรรดาตาอยู่ที่รอเสียบ มีทั้งผู้สมัคร ส.ส.ประเภทบ้านใหญ่ จากพรรคภูมิใจไทย พรรคไทยสร้างไทย และพรรคพลังประชารัฐ
หากวันนี้ไม่มีพรรคก้าวไกล มนต์รักทักษิณที่ยังมีอิทธิพลในคนรากหญ้า คงจะทำให้พรรคเพื่อไทยกวาด ส.ส.อีสานไปได้ไม่ต่ำกว่า 125 ที่นั่ง