ศึกเพื่อไทยไฟต์ 'สว.บ้านป่า' VS 'สว.สายปลอดลุง'

สภาสูงแตก สว. ตัวตึงสายบ้านป่ารอยต่อฯ ตั้งแง่โหวต ‘เศรษฐา ทวีสิน’ สว.สายปลอดลุง ไร้ก้าวไกล ก็พร้อมเทให้เพื่อไทย 

ก่อนถึง 22 สิงหา..สถานการณ์ในการโหวตนายกรัฐมนตรี รอบที่ 3 พรรคเพื่อไทย จะขานชื่อ เศรษฐา ทวีสิน ดูยังไร้หลักประกันความชัวร์ 

ปฏิบัติการแฉเพื่อชีวิตของ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่ประกาศขึงพืด เศรษฐา นัดหมายไว้วันที่ 21 ส.ค.2566 ก่อนวันโหวตนายกรัฐมนตรี 1 วัน หากมีหลักฐานเด็ดชนิดโป้งเดียวจอด อาจส่งผลต่อการตัดสินใจโหวตนายกฯ ของ สว.แน่ 

ถึงชั่วโมงนี้ พรรคเพื่อไทย อ้างว่า รวมเสียง สส.ได้ 314 เสียง แต่ก็มีคำถามกับ 40 เสียงของพลังประชารัฐ ที่ไม่ใช่มติพรรค และเป็น สส.คนหนึ่งออกมาพูดลอยๆ

รวมถึงการได้พรรครวมไทยสร้างชาติ เข้าร่วมรัฐบาล อาจทำให้เสียงสนับสนุนของ สว. ต่อแคนดิเดทนายกฯของเพื่อไทยดีขึ้นจริง แต่ยังไม่ถึงระดับปลอดภัย

เวลานี้ เพื่อไทยได้ สส. 314 เสียง ยังขาดอยู่อีก 61 เสียง จึงจะสอบผ่านเกณฑ์ 375 เสียง เศรษฐาจะฝ่าด่านก้าวขึ้นไปเป็นนายกฯได้ 

พรรคเพื่อไทยเอง ก็มั่นใจว่าจะได้รับเสียงสนับสนุนจาก สว.เพราะไม่มีเรื่องการแก้ไข มาตรา 112 และพรรคก้าวไกล ก็ไม่ได้เข้าร่วมรัฐบาล

เอาเข้าจริง เกมโหวตนายกฯของเพื่อไทย ส่อเค้าว่า จะสะดุด เมื่อ สว.ตัวตึงสายบ้านป่ารอยต่อฯ แสดงท่าทีแปลกๆ ถึงขั้นคาดการณ์ล่วงหน้า เศรษฐาจะไม่ผ่าน และเกมตั้งรัฐบาลในท้ายที่สุด ก็จะไหลไปหา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ 

อย่างเช่น เสรี สุวรรณภานนท์ สว.ในฐานะประธานกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ที่ลุกขึ้นมาตรวจสอบพฤติกรรมเศรษฐา เกี่ยวกับการหลบเลี่ยงภาษีที่ดิน ซึ่งการร้องเรียนเข้ามา

สว.ปลอดลุง

พรรคเพื่อไทย ยอมจ่ายต้นทุนมหาศาล เจรจาพรรคลุง ทั้งรวมไทยสร้างชาติ และพลังประชารัฐ แต่ก็ยังไม่มั่นในเสียง สว.

ดังนั้น แกนนำเพื่อไทย จึงแบ่งงานเดินสายล็อบบี้ สว.เป็นรายตัว มีทั้ง สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และ สมศักดิ์ เทพสุทิน ที่พยายามล็อกเป้า สว.กลุ่ม 50 เสียง(กลุ่มที่มาจากการคัดเลือกกันเอง)

ภูมิธรรม เวชยชัย หัวหน้าทีมเจรจาจัดตั้งรัฐบาล ก็ออกแรงเดินหน้าพูดจากับ สว.บางกลุ่ม โดยเฉพาะ สว.สายอิสระ 10-15 คน

รวมถึง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส  หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย  ยังเป็นกำลังสำคัญล็อบบี้ สว.สายทหาร-ตำรวจ  นัยว่า เสรีพิศุทธ์ต้องการสร้างผลงานให้เข้าตาคนแดนไกล และมีเป้าหมายตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี

การที่รวมไทยสร้างชาติ ตอบรับเข้าร่วมรัฐบาลเพื่อไทย ประกอบกับเพื่อไทยยืนยันไม่แก้ 112 และมีคำยืนยัน ที่จะไม่มีพรรคก้าวไกลมาร่วมในอนาคต  ทำให้มี สว.ประมาณ 60-70 เสียง พร้อมหนุนเศรษฐา 

สว.สายปลอดลุง แยกออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่คือ สว.สายนักธุรกิจ นักวิชาการ เอ็นจีโอ และข้าราชการพลเรือน 30 เสียง

สว.สายบ้านใหญ่ หรือกลุ่ม 50 สว. ก็มีแนวโน้มเทให้เพื่อไทย มากกว่าร้อยละ 80 

สำหรับ สว.สายข้าราชการทหาร-ตำรวจ ที่ใกล้ชิด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จำนวนหนึ่ง น่าจะเลือก “งดออกเสียง” ยกเว้นมีสถาน การณ์พิเศษ ส่งสัญญาณให้การกดปุ่มไม่เห็นชอบ

“นายทหารเพื่อนประยุทธ์หลายคนพูดว่า เมื่อไม่มีก้าวไกล ไม่มีการแก้ ม.112 ก็ไม่มีเงื่อนไข ที่จะไม่โหวตให้เพื่อไทย แต่อย่างว่าแหละพวกเขา ก็รอนาทีสุดท้าย ถ้ามีใครกดปุ่ม ก็เปลี่ยนใจได้” แหล่งข่าวในสภาสูง กล่าว

สว.บ้านป่ารอยต่อฯ

นักสังเกตการณ์ทางการเมืองประเมินว่า สถานการณ์ของเพื่อไทย ในการโหวตนายกฯ รอบที่ 3 ถ้าไม่ผ่านเกณฑ์ 375 เสียง เกมจัดตั้งรัฐบาลจะไหลไปอยู่ในมือของ “บิ๊กบราเธอร์” บ้านป่ารอยต่อฯ

จนถึงนาทีนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพลังประชารัฐ ผู้กุมสภาพเสียงโหวต สว.ประมาณ 60 เสียง ยังทำตัวเป็น “มังกรซ่อนกาย” ใครถามอะไร ก็ตอบว่า “ไม่รู้ ไม่รู้” ดูท่าทีจับทางลำบาก

ขณะเดียวกัน มหรรณพ เดชวิทักษ์ สว.สายบ้านป่ารอยต่อฯ มีความเคลื่อนไหวผิดปกติ ดูสอดประสานกับ สว.ตัวตึง สายต้านระบอบทักษิณ ที่ออกมาฟันธงว่า เศรษฐา ไม่ผ่านแน่

ที่ตลกร้าย ไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร มือขวา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงประกาศว่า สส.พลังประชารัฐ 40 เสียง พร้อมโหวตนายก รัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย แบบไม่มีข้อต่อรองใดๆทั้งสิ้น

ไผ่ ลิกค์ ออกมาพูดถี่ขึ้นเรื่องโหวตให้เพื่อไทย ไม่ว่าแคนดิเดตนายกฯจะเป็นเศรษฐา หรืออุ๊งอิ๊ง ยิ่งพูด คนยิ่งระแวงลุงป้อม

เนื่องจาก พล.อ.ประวิตร และกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ก็ไม่มีใครปริปากพูดถึงเรื่องการเคลื่อนไหวของไผ่ ลิกค์

มีรายงานข่าวว่า พลังประชารัฐ ได้ยื่นข้อเสนอ 3 รัฐมนตรีว่าการ และ 1 รัฐมนตรีช่วย โดยตำแหน่งที่ต้องการคือ รองนายกรัฐมนตรี คุมตำรวจ ,มหาดไทย, เกษตรและสหกรณ์ และศึกษาธิการ

หากเพื่อไทย ไม่ตอบสนองค่ายลุงป้อม ก็จะไม่มีตัวแทนพลังประชารัฐไปนั่งแถลงข่าวกับเพื่อไทย และให้ไปรอวัดผลวันโหวตนายกฯ 

พล.อ.ประวิตร ค่ายบ้านป่ารอยต่อฯ มั่นใจว่า ฝั่งตัวเองมีเสียง สว.อยู่ในมือพอสมควร เมื่อรวมเสียง สส.พลังประชารัฐ 40 เสียง บวก สว.อีก 60 เสียง ก็ประมาณ 100 เสียง 

ถ้าวันโหวตนายกฯ เสียง สส.และ สว.หาย 100 เสียง พรรคเพื่อไทยก็ตกที่นั่งลำบาก และเศรษฐา อาจตกสวรรค์

แหล่งข่าวในสภาสูงกล่าวว่า เศรษฐาไปไม่รอด แม้เกมจะไหลไปอยู่ที่ค่ายบ้านป่ารอยต่อฯ พล.อ.ประวิตร จะเป็นนายกฯได้จริงหรือ เมื่อไม่มี 141 เสียงของเพื่อไทยสนับสนุน

ดังนั้น การเคลื่อนไหวของ ไผ่ ลิกค์ และ สว.ตัวตึงบางกลุ่มคือ เกมสองหน้าของค่ายบ้านป่ารอยต่อฯ ทั้งเขย่าขวัญเศรษฐา และโชว์บทพ่อพระใจดีโหวตฟรีๆ ไม่มีต่อรอง 

เป้าหมายที่แท้จริงของเกมสองหน้าคือ การต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรี ให้ได้กระทรวงเกรดเอ ตามที่ตัวเองต้องการ 

สรุปว่า 21 ส.ค.นี้ จะเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญของเพื่อไทย และคนแดนไกล จะยอมรับข้อเสนอของบิ๊กบราเธอร์บ้านป่า หรือเล่นเกมเสี่ยงแตกหัก