‘ครูต่าง’ ไทสกล ขุนพลอีสาน ‘ลุงป้อม’

“ชัยมงคล ไชยรบ” คงจะทำให้นักข่าวสภาฯ จดจำชื่อนี้ได้แล้ว ในฐานะฝ่ายค้านมือวางอันดับต้นๆ ของค่ายบ้านป่ารอยต่อฯ

เหตุเกิดจากการประชุมร่วมรัฐสภา วาระแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา บรรยากาศช่วงหนึ่งมีวิวาทะระหว่าง สส.พลังประชารัฐ ซุ้มลุงป้อม และซุ้มธรรมนัส

เมื่อ ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร ในฐานะฝ่ายค้านได้ลุกขึ้นอภิปรายพาดพิงการจัดตั้งรัฐบาลแพทองธาร ที่ตระบัดสัตย์ไม่เอาพรรค พปชร.

ตอนหนึ่ง สส.ชัยมงคล ได้ทิ้งวาทะเด็ดว่า “รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลที่มาจากคนชั้นสูง เพื่อคนชั้นสูง อาศัยมือของประชาชนในคราบประชาธิปไตยเพื่อกอบโกยผลประโยชน์ ตะกละตะกลามและมูมมาม”

หลายคนคงอยากรู้จัก สส.ชัยมงคล มากขึ้น เพราะ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เพิ่งสนับสนุนให้เขาเป็นรองหัวหน้าพรรค และรับผิดชอบภาคอีสาน

ทำไมลุงป้อม จึงเลือก สส.ชัยมงคล เป็นขุนพลอีสาน หากย้อนดูเส้นทางการเมืองของเขา ก็คงไม่น่าแปลกใจที่เห็นความเก๋า และความเขี้ยวของ สส.คนนี้

ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร สมัยแรก ซึ่งชาวสกลนคร หรือ “ไทสกล” รู้จักกันในชื่อ “ครูต่าง” ที่เล่นการเมืองท้องถิ่นมานานกว่า 30 ปี และเป็นนายก อบจ.สกลนคร 3 สมัย

ปี 2547 ครูต่าง ชัยมงคล ลงสมัครนายก อบจ.ครั้งแรกในนาม “กลุ่มก้าวใหม่ ไทสกล” โดยใช้ฐานคะแนนของ สส.สกลนคร ตระกูล “ตรีสวัสดิชัย” ได้รับเลือกเป็นนายก อบจ.สกลนคร

ปี 2555 เป็นปีการเลือกตั้งนายก อบจ.สกลนคร ดุเดือดมาก เพราะครูต่าง ชัยมงคล ต้องสู้กับคนเสื้อแดง 2 กลุ่มคือ ชูพงษ์ คำจวง กลุ่มเพื่อไทยสกลนคร และ ศักดิ์ระพี พรหมชาติ กลุ่มเพื่อนจตุพร (นปช.สกลนคร)

สุดท้าย ชัยมงคล ก็ได้รับเลือกเป็นนายก อบจ.อีกสมัย เพราะสองผู้สมัครสายเสื้อแดงตัดคะแนนกันเอง

ปี 2563 ครูต่าง ชัยมงคล ลงสนามนายก อบจ.ในนามกลุ่มคิดต่างสร้างเมือง แต่พ่ายคู่แข่งคนเดิม ชูพงษ์ คำจวง พรรคเพื่อไทย

ย้อนไปช่วงการเลือกตั้ง สส.ปี 2562 ครูต่าง ชัยมงคล ได้รวบรวมเพื่อนนายก อบจ.อีสานเหนือ มาอยู่ภายใต้ร่มเงาบ้านริมน้ำของ สุชาติ ตันเจริญ

เนื่องจาก “พ่อมดดำ” สุชาติ พาพลพรรคบ้านริมน้ำเข้าไปสังกัดพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งมีทั้งอดีต สส.สายอีสาน และนักการเมืองท้องถิ่น

รายชื่อนักการเมืองท้องถิ่นสายบ้านริมน้ำ เวลานั้นได้แก่ ชัยมงคล ไชยรบ อดีตนายก อบจ.สกลนคร  สมชอบ นิติพจน์ อดีตนายก อบจ.นครพนม  ยุทธนา ศรีตะบุตร นายก อบจ.หนองคาย  ศราวุธ สันตินันตรักษ์ อดีตนายก อบจ.หนองบัวลำภู  มลัยรัก ทองผา อดีตนายก อบจ.มุกดาหาร และ สถิรพร นาคสุข อดีตนายก อบจ.ยโสธร

ตอนนั้น สุชาติ มอบให้ครูต่าง ชัยมงคล เป็นแม่ทัพ พปชร.รับผิดชอบ 5 จังหวัด ได้แก่ สกลนคร หนองคาย นครพนม มุกดาหาร และยโสธร แต่พ่ายกระแสเพื่อไทยทุกเขต

เฉพาะสกลนคร ครูต่าง ชัยมงคล ส่งลูกชาย ณัฐกานต์ ไชยรบ ลงสมัคร สส.สกลนคร เขต 4 แต่ก็พ่ายเพื่อไทย

หลังพ่ายแพ้ในสนามนายก อบจ.สกลนคร ครูต่างก็เก็บตัวเงียบ กระทั่งต้นปี 2565 ครูต่าง ชัยมงคล และวิริยะ ทองผา อดีตนายก อบจ.มุกดาหาร ได้ร่วมงานกับพรรคสร้างอนาคตไทย

เมื่อพรรคสร้างอนาคตไทยไม่ไปต่อ สองกุมาร อุตตม สาวนายน และสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ หวนกลับ พปชร. จึงทำให้ชัยมงคล และวิริยะ ตามมาด้วย

เหตุที่ชัยมงคล ไม่ได้ตามลูกพี่ สุชาติ ตันเจริญ ไปพรรคเพื่อไทย เพราะพื้นที่สกลนคร สส.เก่าครองพื้นที่เต็มหมดแล้ว ครูต่าง จึงต้องสวมเสื้อพรรคลุงป้อมลงสนาม

เขตเลือกตั้งที่ 5 (อ.สว่างแดนดิน และ อ.ส่องดาว) เป็นฐานเสียงท้องถิ่นของครูต่าง จึงมีคะแนนเสียงในมืออยู่แล้วส่วนหนึ่ง บังเอิญกระแสเพื่อไทยตกต่ำ จึงทำให้ครูต่าง เอาชนะวงศ์อะเคื้อ บุญศล ลูกสาวอดีต สส.สกลนคร เพื่อไทย ด้วยคะแนนทิ้งห่างกัน 7 พันคะแนน

ปัจจุบัน สส.พลังประชารัฐ สายอีสาน อยู่กับลุงป้อม 5 คนคือ ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร วิริยะ ทองผา สส.มุกดาหาร  กระแสร์ ตระกูลพรพงศ์ สส.หนองคาย กาญจนา จังหวะ สส.ชัยภูมิ และจำลอง ภูนวนทา สส.กาฬสินธุ์

ด้วยความที่ครูต่าง คุ้นเคยกับเพื่อน สส.หลายคน มาแต่สมัยเล่นการเมืองท้องถิ่น จึงกลายเป็น “พี่ใหญ่” ของกลุ่ม สส.อีสาน

ต้นปีหน้า มีเลือกตั้งนายก อบจ.ทั่วประเทศ ครูต่าง ชัยมงคล คงจัดทีมนายก อบจ.ลงแข่งกับเพื่อไทย ในโซนอีสานเหนือบางจังหวัด

นับจากนี้ไป ก็น่าจับตาดูว่า ครูต่าง ชัยมงคล ผู้เคารพศรัทธาพระยาพิชัยดาบหัก เป็นต้นแบบของผู้นำที่ยึดคติว่า “ข้าขอเป็นบ่าวนายเดียว” จะเปลี่ยนพรรคอีกหรือไม่ หากสัญญาณยุบสภามาถึง