พลัสฯ ขานรับตลาดอสังหาฯ ฟื้น ยกระดับมาตรฐานงานบริหารอาคาร ตอบโจทย์เทรนด์โลก

เข้าสู่ช่วงสุดท้ายไตรมาส 3 ของปี 65 กันแล้ว ซึ่งจะเห็นแนวโน้มของการกลับมาของ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่ดูสดใสมากยิ่งขึ้น โดย ศูนย์ประเมินค่าทรัพย์สินไทย หรือ AREA ได้ประเมินถึงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั้งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลว่า ตลาดที่อยู่อาศัย มีอัตราการเติบโตสูงถึง 68% เทียบจากปีที่แล้ว มูลค่ารวมของตลาดมากกว่า 380,857 ล้านบาท มีโครงการเปิดใหม่ในช่วง 7 เดือนแรก (มกราคม-กรกฎาคม 2565) มีจำนวนมากถึง 210 โครงการ ย่อมส่งผลให้ธุรกิจบริหารจัดการโครงการอสังหาริมทรัพย์ มีโอกาสเติบโตและขยับตัวตามไปด้วยเช่นกัน   

พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญธุรกิจบริหารจัดการโครงการอสังหาริมทรัพย์ทุกประเภท มองเห็นโอกาสของภาค ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่จะสามารถเติบโตขึ้นเฉลี่ยที่ 1.5 - 2 เท่าของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) จึงเตรียมพร้อมรองรับการเติบโต ด้วยการพัฒนาคุณภาพบุคลากร และคุณภาพงานบริการให้ตอบโจทย์ลูกค้า รวมถึงพัฒนามาตรฐานการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร โดยเน้นการดูแลเชิงป้องกัน ด้วยการวางแผน Preventive Maintenance สำหรับดูแลอุปกรณ์ และระบบต่างๆ ที่ประกอบในโครงการ รวมถึงการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเสริมประสิทธิภาพอีกด้วย เป็นการช่วยยืดอายุการใช้งาน และช่วยลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว อาทิ

• มาตรฐานวิศวกรรมอาคาร Building Engineering System รวมไปถึงมีการตรวจสอบตามระยะเวลาที่วางแผนไว้ เพื่อแบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ ให้ความสำคัญกับระบบวิศวกรรมในอาคาร เช่น ปั๊มน้ำ ไฟฟ้า ลิฟต์ ให้ทำงานได้ตามปกติ ระบบแจ้งเตือนมาตรอัจฉริยะ Smart Meter (Water/Electricity) ระบบแจ้งเตือนเมื่อเกิดน้ำรั่ว มีอัตราการไหลของน้ำผิดปกติ และแจ้งเตือนเมื่อมีแรงดันไฟฟ้าสูง หรือต่ำกว่าปกติ (ไฟรั่ว, ไฟเกิน) รวมถึงการซ่อมบำรุงระบบวิศวกรรมในอาคารแบบตรงจุดปัญหา ซึ่งจะเป็นตัวช่วยในการประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวอย่างยั่งยืน 
• มาตรฐานความปลอดภัย มีการสำรวจสภาพของอาคารอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งส่วนนี้ถือว่ามีความสำคัญมาก เพราะเปรียบเสมือนตัวขับเคลื่อนให้อาคารมีชีวิต ไม่ว่าจะเป็นระบบไฟฟ้า ระบบประปา ระบบลิฟต์ รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัย เช่น ระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ Fire Alarm System มีเทคโนโลยี LIV-24 ที่คอยตรวจจับและแจ้งเตือนอัคคีภัยเมื่อพบสัญญาณ รวมถึงประสานงานไปยังโครงการได้แบบ REAL-TIME แจ้งเตือนเหตุอัคคีภัย ทีมงานจะตรวจสอบและประสานไปยังโครงการได้รวดเร็วขึ้น นอกจากความปลอดภัยของผู้ใช้อาคารแล้ว ความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงานก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นเดียวกัน นั่นคือ ต้องมีการอบรมตามหลักสูตรที่กฎหมายกำหนด รวมถึงการอบรมเพิ่มเติมจากส่วนกลางของบริษัทฯ ทั้งนี้เพื่อเพิ่มทักษะความเชี่ยวชาญในงานที่ต้องดูแลความปลอดภัยเป็นสำคัญ

• มาตรฐานบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อม ลดการใช้พลังงาน การจัดการพลังงาน Energy Management โดยมี LIV-24 เทคโนโลยีดูแลความปลอดภัยอัจฉริยะ และจัดการระบบวิศวกรรมอาคารเต็มรูปแบบตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งระบบนี้จะเก็บข้อมูล วิเคราะห์พฤติกรรมการใช้พลังงาน และนำมาวางแผนลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็นภายในพื้นที่ขนาดใหญ่ที่มีการใช้กำลังไฟฟ้าสูง และดำเนินการต่อเนื่อง อาทิ โรงงานอุตสาหกรรม โดยอาคารเหล่านี้จะมีการเก็บอัตราค่าไฟฟ้าตามช่วงเวลาของการใช้ (Time of Use Tariff : TOU Tariff) รวมถึงการติดตั้งเทคโนโลยีและวางแผนในการบริหารจัดการพลังงาน ซึ่งพบว่า ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายต้นทุนด้านพลังงาน ค่าซ่อมแซม และความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ 10 - 40% รวมถึงช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานได้มากถึง 30% อีกด้วย

โดย พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญธุรกิจบริหารจัดการโครงการที่พักอาศัยที่ดูแลลูกบ้านมากกว่า 80,000 ครัวเรือน เชื่อมั่นว่า มาตรฐานระดับฐานสากล ประกอบกับความเชี่ยวชาญในทุกๆ ด้าน ตั้งแต่ให้คำปรึกษาการบริหารจัดการโครงการ ดูแลระบบวิศวกรรมอาคาร การบริหารทรัพย์สินและการเงิน รวมไปถึงการออกแบบและส่งมอบบริการตามความต้องการของลูกค้าเหล่านี้จะสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยในการอยู่อาศัยร่วมกันของลูกบ้าน ทั้งช่วยอำนวยความสะดวกสบายไร้กังวลให้กับลูกบ้านในทุกๆ โครงการที่ได้เข้าไปดูแล พร้อมส่งมอบประสบการณ์การอยู่อาศัยที่ดีให้แก่ลูกบ้านคนสำคัญ