โอกาสใหม่และอาชีพใหม่

โอกาสใหม่และอาชีพใหม่

ปลายปีที่แล้วประเทศจีนเริ่มเปิดให้บริการแท็กซี่ไร้คนขับในเมืองใหญ่ 12 แห่งเช่นอู่ฮั่นซึ่งคนไทยคุ้นเคยกันดี เป็นการสะท้อนความก้าวหน้าของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่ทำงานร่วมกับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่กำลังเป็นที่สนใจของผู้บริโภคชาวไทยในปัจจุบัน

ความก้าวหน้าของจีนในด้านเทคโนโลยีเริ่มเห็นเด่นชัดมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะเรื่องการพัฒนาเมืองในรูปแบบ "Smart City" ซึ่งใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเต็มรูปแบบเพื่อยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนสมัยใหม่ เราจึงเห็นบริการดิจิทัลมากมายที่จีนนำมาใช้จนทำให้เติบโตได้อย่างก้าวกระโดด

แต่ความเป็นจริงที่ต้องยอมรับก็คือบริการอันทันสมัยเหล่านี้อาจทำให้คนที่ปรับตัวตามความเป็นไปของโลกไม่ทันต้องได้รับผลกระทบ เช่น คนขับรถแท็กซี่ทั่วประเทศจีนซึ่งน่าจะมีเกิน 10 ล้านคนที่อาจตกงานได้ทันทีเมื่อแท็กซี่ไร้คนขับเหล่านี้ขยายบริการได้ตามแผน

เพราะระบบเอไอที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่องนั้นทำให้เจ้าของบริษัทรถแท็กซี่ไม่ต้องกังวลเรื่องการขาดลามาสายของคนขับ ไม่ต้องห่วงว่าคนขับจะป่วยหรือมีอาการไม่สบาย จนทำให้ขับรถผิดพลาดจนเกิดอุบัติเหตุ เพราะคนขับที่เป็นระบบเอไอไม่มีข้อจำกัดเหล่านี้แถมยังทำงานได้ 24 ชั่วโมงไม่ต้องการเวลาหยุดพัก

 

สอดคล้องกับการประเมินสถานการณ์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศที่คาดการว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าตำแหน่งงานที่มีอยู่ในโลกยุคปัจจุบันจะหดหายไปถึง 60% นั่นหมายความว่าอาชีพที่มั่นคงมีรายได้หล่อเลี้ยงประชากรกว่าครึ่งหนึ่งนั้นจะหายไปจากโลก

แต่ในอีกมุมหนึ่งก็จะมีหน้าที่การงานใหม่ๆ ที่ถือกำเนิดขึ้นมาเช่นเดียวกับในวันนี้ที่เรามีอาชีพ KOL (Key Opinion Leader), Influencer, Youtuber ฯลฯ ที่คนในอดีตจินตนาการไม่ถึงเลยว่าจะมีอาชีพแบบนี้เกิดขึ้น เพราะไม่มีใครคิดว่าถึงวันหนึ่งเราจะนิยมซื้อสินค้าผ่านระบบออนไลน์ และพึ่งพาการขายผ่านคนเหล่านี้มากกว่าพนักงานขาย

บทบาทของเทคโนโลยีในวันนี้จึงเป็นเหมือนสวิทช์ที่ทั้งเปิดและปิดในเวลาเดียวกัน นั่นคือปิดหนทางให้กับคนที่ไม่ได้เตรียมตัวรับการเปลี่ยนแปลงแต่ในขณะเดียวกันก็เปิดโอกาสให้กับคนที่เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เพื่อพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ

การเปลี่ยนแปลงแบบนี้เกิดขึ้นตลอดเวลา บริษัทเก่าแก่ที่มีความเป็นมายาวนานนับร้อยปีจึงจำเป็นต้องปรับตัวและเปลี่ยนแปลงธุรกิจให้เข้ากับบริบทของโลกอยู่เสมอ เช่นบริษัท GE ที่เติบโตจากอุตสาหกรรมด้านไฟฟ้าแต่คนในยุคปัจจุบันอาจรู้จัก GE ที่เคยมีบทบาทในด้านสถาบันการเงิน และกลายเป็นผู้ผลิตเครื่องยนต์เจ็ตสำหรับเครื่องบินโดยสารและธุรกิจอื่นๆ อีกมากมายในปัจจุบัน

เพราะการเปลี่ยนแปลงของโลกจากเดิมที่เน้นการแสวงหาทรัพยากรธรรมชาติ ธุรกิจที่ไปได้ดีก็มักเป็นสัมปทานด้านการขุดค้นแร่ธาตุต่างๆ ก่อนจะเป็นโรงงานอุตสาหกรรม พลังงาน และเทคโนโลยี จนถึงยุคดิจิทัลในทุกวันนี้

จุดเริ่มต้นของธุรกิจนับตั้งแต่ยุคก่อตั้งจึงอาจเป็นคนละเรื่องคนละราวกับธุรกิจในยุคปัจจุบัน ซึ่งไม่ว่าจะปรับตัวไปทางใด ก็ล้วนเป็นหนทางเพื่ออยู่รอดและเติบโตต่อไปให้ได้ และคนในองค์กรก็ต้องเรียนรู้ ที่จะปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา