ความสุขยุคดิจิทัล (จบ)

ความสุขยุคดิจิทัล (จบ)

เกริ่นถึงหนทางสร้างความสุขไปในสัปดาห์ที่แล้ว 6 ข้อ วันนี้ขอต่อใน ข้อ 7 ต้องตระหนักว่า สิ่งแวดล้อมและคนรอบตัวล้วนมีอิทธิพลต่อความสุขของเราเสมอ

หากเราใช้ชีวิตในวันที่ท้องฟ้าสดใสและคนรอบข้างจิตใจดีมีความสุขด้วยกันทุกคนเราก็ย่อมสัมผัสได้ถึงความสุขนั้นและพลอยมีใจผ่องใสเป็นสุขด้วยเช่นกัน

แต่ในทางตรงกันข้ามหากเราอยู่ร่วมกับกลุ่มคนที่มีจิตใจเศร้าหมอง มีความทุกข์ที่เกิดจากสาเหตุต่างๆ เราก็ย่อมทุกข์กายทุกข์ใจตามไปด้วยจนอาจถึงขั้นเป็นโรคซึมเศร้า เราจึงต้องมีความรู้ความเข้าใจในสถานการณ์ต่างๆ รอบตัวและสร้างสมดุลทางอารมณ์ให้ได้เร็วที่สุด

ข้อ 8 รู้ว่าอะไรควรทำและไม่ควรทำ โดยเฉพาะสิ่งที่สร้างความสุขให้กับเราได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาวก็ไม่ต้องลังเลที่จะทำ เพราะอาจไม่มีโอกาสได้ทำอีก เช่นเดียวกับบางสิ่งที่ทำแล้วอาจทุกข์ใจและกลายเป็นภาระแก่ชีวิตก็ไม่ควรทำ

ข้อ 9 เห็นคุณค่าของผู้อื่น และเห็นคุณค่าที่ผู้อื่นชื่นชมตัวเรา เพราะในสังคมการทำงานย่อมมีกัลยาณมิตรที่เข้าอกเข้าใจและช่วยเหลือเกื้อกูลเราอยู่เสมอ ซึ่งคนเหล่านี้เราจำเป็นต้องรู้ถึงคุณค่าที่เขามีต่อเรา และในขณะเดียวกันหากเขาชื่นชมเราก็ต้องรู้สึกขอบคุณเขาด้วยเช่นกัน

เมื่อมีโอกาสได้พบคนที่เขาชื่นชมตัวเรา ไม่ว่าจะมาจากหน้าที่การงานที่ทำร่วมกัน หรือเป็นผลงานเขียน งานวิจัย ฯลฯ ที่เขาได้สัมผัส เราย่อมรู้สึกดีที่ได้รับการยอมรับซึ่งมันเป็นความสุขลึก ๆ ในใจที่เราควรรับรู้ถึงคุณค่าของมัน

ข้อ 10 ความสุขเกิดขึ้นได้จากเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ทุกวัน ไม่จำเป็นต้องรอให้ครบปีเหมือนวันเกิด แต่ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวล้วนทำให้เรามีความสุขได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นดินฟ้าอากาศที่เป็นใจให้เราทำงานได้อย่างเป็นสุข หรือพี่น้องเพื่อนฝูงที่ทำให้เรามีสังคมที่ดี

แม้กระทั่งการจราจรในวันที่รถไม่ติดทำให้เรามีเวลาทำงานหรือให้เวลากับครอบครัวได้มากขึ้น หรือบางวันที่งานยุ่งเป็นพิเศษเพราะลูกค้ามีคำสั่งซื้อเข้ามามากมายก็เป็นความสุขที่เราสามารถค้าขายได้คล่อง ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นความสุขที่เราสร้างขึ้นมาเองได้ทั้งนั้น

ข้อ 11 ความสุขที่ไม่ยึดติดทางกายภาพ แม้ว่าเราจะสุขสบายที่สุดเมื่อไร้โรคภัยไม่เจ็บป่วย แต่สังขารเป็นสิ่งไม่เที่ยงและเราก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ บางครั้งเมื่อเราต้องป่วยและต้องหยุดพักรักษาตัวเราก็อาจสัมผัสได้ถึงความสุขเมื่อได้ออกจากโรงพยาบาลกลับไปพักฟื้นที่บ้าน

ข้อ 12 ต่อเนื่องจากข้อ 11 เราจึงพบว่าตราบใดที่เรายังมีชีวิตนั่นคือยังคงมีความสุขได้เสมอ เพราะไม่ว่าจะเป็นเศรษฐีหรือยาจกสุดท้ายแล้วทุกคนก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงความตายได้ การได้ออกจากห้อง ICU มาอยู่ห้องธรรมดาจึงเป็นความสุขที่เรานึกไม่ถึง และยิ่งได้กลับบ้านก็เป็นความสุขยิ่งกว่า

ข้อ 13 เจอใครก็ตามล้วนมีเรื่องให้สุขใจได้ตลอด เพราะแต่ละคนก็มักจะมีเรื่องราวดี ๆ ถ่ายทอดให้กับเรา ซึ่งนั่นเป็นการเติมพลังบวก และทำให้เราเกิดความสุขขึ้นในใจได้เช่นกัน แต่ในทางตรงกันข้ามหากเราปฏิเสธที่จะรับรู้ ก็เท่ากับเสียโอกาสสร้างความสุขไปโดยปริยาย

ข้อ 14 ความสุขจึงอาจเกิดได้ง่ายๆ ด้วยการรับฟัง เพราะเรามีเพียง 1 ปากแต่มีถึง 2 หูให้รับฟังเรื่องราวดี ๆ จากทุกคนรอบตัว ยิ่งฟังเรื่องดีๆ จากคนอื่นมากเท่าไรก็เป็นกำไรชีวิตที่เราอาจนำเอาแง่มุมต่างๆ เหล่านั้นไปใช้ต่อได้ในอนาคต

ข้อ 15 ความสุขจะไม่เกิดหากเรามัวหลงอยู่แต่ในอดีต โดยเฉพาะคนที่เคยประสบความสำเร็จและมีความสุขมากในวันวาน การคิดถึงแต่อดีตอาจทำให้ชีวิตในปัจจุบันแย่ลงได้เพราะเกิดการเปรียบเทียบและเกิดความน้อยใจที่ไม่สามารถสร้างความสำเร็จเหมือนมในอดีตได้

เลิกคิดถึงสิ่งที่เราไม่สามารถย้อนเวลากลับไปได้และแสวงหาความสุขจากสิ่งที่มีอยู่ในปัจจุบันซึ่งเราอาจมองข้ามไป ซึ่งนั่นคือสิ่งที่มอบความสุขให้กับเราได้อย่างแท้จริง