โบรก เชื่อ’งบกลุ่มแบงก์’ ทยอยออกดีตามคาด จ่ออัพเป้ากำไรปีนี้

นายภาสกร หวังวิวัฒน์เจริญ ผู้จัดการฝ่ายวิจัย บล.เอเซียพลัส  เปิดเผยว่า  ราคาหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์(แบงก์)วานนี้ (21 เม.ย.)ปรับตัวขึ้นเด่นจากนักลงทุนเข้ามาเก็งกำไร หลัง 3 ธนาคาร ประกาศกำไรไตรมาส1ปี 2565 เติบโตและการตั้งสำรองลด ซึ่งกำไรของ บมจ.ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป(TISCO) เป็นไปตามที่เราคาด ส่วนธนาคารเกียรตินาคินภัทร(KKP)  ดีกว่าที่เราคาด และ ธนาคารทหารไทยธนชาต(TTB) ดีกว่าที่ตลาด  ดังนั้นจึงคาดว่างบของกลุ่มแบงก์ใหญ่จะออกมาในทิศทางเดียวกันตามคาดและดีกว่าที่คาด 

ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยยังคงคาดกำไรสุทธิกลุ่ม (6 ธนาคาร)  ไตรมาส 1 ปี 2565  อยู่ที่ 39,227 ล้านบาท  เพิ่มขึ้น 7%  จากช่วงเดียวกันปีก่อนและเพิ่มขึ้น 19% จากไตรมาสก่อนหน้า  โดย มีปัจจัยหนุนด้วยแนวโน้ม Credit Cost กลุ่มแบงก์ ต่ำลงมาที่ 1.3% อานิสงส์จากเศรษฐกิจฟื้นตัว และที่ผ่านมาเร่งตั้งสำรองไปมากแล้ว ขณะที่ NPLมีทิศทางลดลงเล็กน้อย 1% ยังบริหารจัดการได้ 

 สำหรับงบไตรมาส 1 คิดเป็นสัดส่วน 30% ของงบทั้งปี และแนวโน้มกำไรสุทธิของกลุ่มธนาคารในระยะข้างหน้ายังมีความไม่แน่นอนปัจจัยเสี่ยงกดดันกลุ่มแบงก์ โดยเฉพาะสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ส่งผลต่อเงินเฟ้อและราคาน้ำมันยืนระดับสูงนานแค่ไหนและเศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวจากภาคการท่องเที่ยวได้ตามแผนหรือไม่  ทำให้ยังคงคาดกำไรสุทธิกลุ่ม (  6 แบงก์)  ปีนี้ อยู่ที่ 188,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% จากปีก่อน 

นายภาสกร กล่าวว่า  คาดเศรษฐกิจไทยปี 2565 – 2566 ทิศทางปรับตัวเพิ่มขึ้น ตามการทยอยฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว คาดหนุนต่อรายได้ครัวเรือน ช่วยลดความ เสี่ยงด้านงบดุลที่ยังไม่ได้สะท้อนศักยภาพการชำระหนี้ที่แท้จริงของลูกหนี้ อันเป็นผลมาจากมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้  บล.เอเซียพลัส  มองว่า มีโอกาสที่จะปรับเพิ่มคาดการณ์กลุ่มฯ ปีนี้ได้เช่นกัน 

นายกรกช เสวตครุตมัส นักวิเคราะห์ กลุ่มการเงิน บล.กสิกรไทย กล่าวว่า  3 ธนาคารที่ประกาศงบไตรมาส 1 ปี 2565 มาแล้ว ดีกว่าคาด ทำให้คาดการณ์กำไรงบกลุ่มธนาคารปรับเพิ่มขึ้นเป็น 36,500 ล้านบาท จากที่คาดไว้ 35,390ล้านบาท เพิ่มขึ้น1% จากช่วงเดียวกันปีก่อนและเพิ่มขึ้น 10% จากไตรมาสก่อนหน้า และคาดกาณ์กำไรงบกลุ่มธนาคารทั้งปีนี้มีโอกาสปรับขึ้นจากที่คาดไว้ที่ 147,640 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 5% จากปีก่อน 

โดยคาดว่า แนวโน้นงบธนาคารอื่นๆ ที่จะทยอยประกาศออกมา โดยเฉพาะธนาคารใหญ่น่าจะดีกว่าหรือตามคาดแน่นอน และกำไรไตรมาส 2 น่าจะยืนหรือฟื้นตัวดีขึ้นจากไตรมาส 1ต่อได้แต่ไตรมาส 3 กำไรจะเริ่มทรงตัวจนถึงไตรมาส 4 กำไรมีโอกาสปรับลดลงจากค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นตามฤดูกาลจ่ายโบนัสและเริ่มเงินลงทุนทางด้านดิจิทัลในช่วงสิ้นปีนี้ 

ทั้งนี้ยังต้องจับตาปัจจัยเสี่ยงจากราคาน้ำมันและเกณฑ์การควบคุมธนาคารเช่นการปรับค่าธรรมเเนียม ค่าทวงถามหนี้ และหากภาคท่องเที่ยวไม่กลับมาส่งผลต่อเศรษฐกิจชะลอตัว จะส่งผลต่องบกลุ่มธนาคารโดยตรง   แนะซื้อ งบดีอย่าง KKP ราคาเหมาะสม 80 บาทและ SCBB หลังสวอปหุ้นมีโอกาสเติบโตจากธุรกิจใหม่ๆ  ราคาเหมาะสม 149บาท   

นายธนวัฒน์ รื่นบันเทิง นักวิเคราะห์อาวุโส บล.ทิสโก้ กล่าวว่า งบกำไรไตรมาส 1ปี 2565 ของ 3 ธนาคารที่ประกาศมาเป็นไปตามคาด จากรายได้เพิ่มขึ้น  ขณะที่หนี้NPLไม่เป็นปัญหาและตั้งสำรองลดลง ทำให้คาดว่าแนวโน้มของกลุ่มฯ (7 ธนาคารไม่รวม TISCO) เป็นไปตามเป้าคาดไว้ที่ 48,990 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11 % จากช่วงเดียวกันปีก่อนและเพิ่มขึ้น22% จากไตรมาสก่อนหน้า

ทั้งนี้ยังคงเป้ากำไรของกลุ่มฯทั้งปีนี้ไว้ที่ 199,317 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% จากปีก่อน  เนื่องจากยังต้องติดตามเศรษฐกิจไทยปีนี้จะฟื้นตัวได้หรือไม่ หากราคาน้ำมันปรับลดลง มีโอกาสที่อัตราการขยายตัวเศรษฐกิจเพิ่ม เป็นปัจจัยหนุนกลุ่มธนาคารโดยตรง ขณะที่หนี้NPL คาดเพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 4.1% จากปีก่อน 3.5% มีมาตรการธปท.ช่วยปรับโครงสร้างหนี้ และสินเชื่อทั้งระบบโต 4.9%  ดีกว่าปีก่อน  ทำให้ราคาปัจจุบันมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้น