จับตา "พลังงาน" เคาะรับส่วนลดค่า Ft "ผู้ใช้ไฟบ้าน-ธุรกิจขนาดเล็ก"
กกพ.เร่งสำรวจผู้ใช้ไฟประเภท 1.1 และ 1.2 ที่ใช้ไฟไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน เพื่อรับมาตรการภาครัฐรับส่วนลดค่า Ft รอบเดือน พ.ค.-ส.ค. 65 “ปลัดพลังงาน” ย้ำ ภายในสัปดาห์นี้พร้อมเคาะจำนวนตัวเลขส่วนลดค่า Ft
นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงานกกพ.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) กล่าวว่า ภายหลังที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเมื่อวันที่ 19 เม.ย. 2565 เห็นชอบปรับปรุงถ้อยคำมาตรการลดภาระค่าครองชีพของประชาชน โดยอนุมัติให้ส่วนลดอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยและประเภทกิจการขนาดเล็ก (ไม่รวมส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ) ที่มียอดการใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน เป็นระยะเวลา 4 เดือน ตั้งแต่เดือนพ.ค.-ส.ค. 2565
ซึ่งจะทำให้มาตรการมีความชัดเจนและเป็นการช่วยเหลือแบบมุ่งเป้าและตรงกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด โดยจะใช้งบกลาง ซึ่งก่อนหน้านี้ กระทรวงพลังงานทำรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นในเบื้องต้นราว 2,000-3,500 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม สำนักงานกกพ.จะเร่งหารือกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เพื่อจะดูว่าจำนวนผู้ใช้ไฟฟ้าประเภท 1.1 (บ้านอยู่อาศัยที่ติดตั้งมิเตอร์ไม่เกิน 5 แอมป์ และมีการใช้ไฟฟ้า ไม่เกิน 150 หน่วย/เดือน) และผู้ใช้ไฟฟ้าประเภท 1.2 (บ้านอยู่อาศัยที่ติดตั้งมิเตอร์เกิน 5 แอมป์ และบ้านอยู่อาศัยที่ ติดตั้งมิเตอร์ไม่เกิน 5 แอมป์ แต่มีการใช้ไฟฟ้าเกิน 150 หน่วย/เดือน) โดยผู้ใช้ไฟทั้ง 2 ประเภทจะต้องใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน เพื่อตรงกลุ่มเป้าหมายที่ครม.อนุมัติ ว่ามีจำนวนเท่าไหร่ ให้สอดคล้องนโยบายรัฐบาล
“ก่อนประกาศปรับค่า Ft รอบเดือนพ.ค.-ส.ค. 2565 กกพ.ได้ประเมินตัวเลขผู้ใช้ไฟฟ้าไม่ถึง 300 หน่วย ให้กับสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สภาพัฒน์ กระทรวงการคลัง ว่ามีทั้งหมดจำนวนกี่ราย พร้อมประเมิณตัวเลข ก่อนนำเสนอเข้าครม. ซึ่งทั้งกระทรวงพลังงาน สภาพัฒน์ฯ กระทรวงการคลัง ได้กำหนดกรอบวงเงินเบื้องต้นไว้ราว 2,000-3,500 ล้านบาท” นายคมกฤช กล่าว
นายคมกฤช กล่าวว่า ตัวเลขงบประมาณดังกล่าว ถือเป็นตัวเลขที่ กกพ.ได้จัดทำและคำนวณให้ก่อนประกาศปรับขึ้นค่า Ft ในรอบเดือนพ.ค.-ส.ค. 2565 ในอัตราเดิมราว 22 สตางค์ต่อหน่วย โดยประมาณการณ์ตัวเลขที่จะต้องใช้อยู่ประมาณราว 1,900 ล้านบาท และเมื่อมีการปรับขึ้นค่า Ft มีการคำนวนตัวเลขใหม่จะอยู่ที่ราว 24 สตางค์ต่อหน่วย ดังนั้น ตัวเลขที่มีการนำเสนอตามข่าวจึงเป็นตัวเลขที่ประมาณการณ์ในกรอบงบประมาณ
อย่างไรก็ตาม กรอบแนวคิดเดิมที่กระทรวงพลังงานได้เคยเสนอคือ จะให้ผู้ใช้ไฟฟ้าที่ใช้ไฟไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน ที่จ่ายค่าไฟไม่เกิน 1,200 บาทต่อเดือน จะได้รับส่วนลดค่าไฟฟ้าคือการจ่ายค่าไฟในอัตราค่า Ft รอบเดือนม.ค.-เม.ย. 2565 คือ โดยให้เรียกเก็บที่ 1.39 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งจะจ่ายค่าไฟในอัตราค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 3.78 บาทต่อหน่วย
ในขณะที่ ผู้ใช้ไฟเกิน 300 หน่วยต่อเดือน จะต้องจ่ายค่าไฟตามรอบเดือนพ.ค.-ส.ค. 2565 ตามที่ กกพ. อนุมัติปรับขึ้นค่า Ft ที่ 23.38 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้เรียกเก็บที่ 24.77 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลจะต้องจ่ายค่าไฟในอัตราค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 4.00 บาทต่อหน่วย
"เท่าที่ทราบมีการปรับเกณฑ์ผู้ใช้ไฟเน้นกลุ่มผู้ใช้ไฟประเภท 1.1 กับ 1.2 และเพื่อเสนอความเห็นชอบของครม. อาจจะมีการประเมิณวงเงินสนับสนุนและส่วนลด Ft ใหม่ โดยจะอิงตัวเลขลดค่า Ft ลง 22 สตางค์ต่อหน่วย หรือมากกว่านั้น ตนก็ไม่แน่ใจ เพราะไม่เห็นรายละเอียดที่มีการปรับแก้ไข ซึ่งเมื่อถึงเวลาต้องเบิกงบประมาณทั้ง 3 การไฟฟ้าก็จะใช้งบตามจำนวนที่ประชาชนใช้ไฟจริง" นายคมกริช กล่าว
นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า กระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างศึกษารวบรวมจำนวนผู้ใช้ไฟบ้านและกิจการขนาดเล็กเพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขตามมติครม.ล่าสุด คาดว่าภายในสัปดาห์นี้จะสามารถสรุปตัวเลขผู้ใช้ไฟใน 2 กลุ่มและจำนวนส่วนลดค่า Ft ว่าควรจะลดเท่าไหร่ เป็นต้น