AGE ปั้นธุรกิจ “ส่งออกมันสำปะหลัง ตั้งเป้ารายได้ใหม่ “พันล้าน”
“เอจีอี” ปั้นธุรกิจ “ส่งออกมันสำปะหลัง” ขึ้นแท่นธุรกิจใหม่สร้างรายได้ปีนี้่ “พันล้าน” หลังจัดตั้งบริษัทและเริ่มดำเนินการเดือนเม.ย. ขณะที่ตั้งเป้าผลประกอบการปี 65 แตะ 1.5 หมื่นล้าน ขานรับ “ถ่านหิน-โลจิสติกส์” เติบโตสูง
นายพนม ควรสถาพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทได้จัดตั้งบริษัทย่อย บริษัท เอจีอี อกริ เทรดดิ้ง จำกัด ดำเนินธุรกิจจัดหา จัดจำหน่าย และส่งออก สินค้าทางการเกษตร แล้วเสร็จเมื่อต้นปี 2565 ที่ผ่านมา ล่าสุดบริษัทดังกล่าวได้ดำเนินธุรกิจใหม่แล้ว ในธุรกิจส่งออกมันสำปะหลังโดยบริษัทเริ่มธุรกิจเมื่อเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งปี 2565 ตั้งเป้าจะมีรายได้จากธุรกิจส่งออกมันสำปะหลัง 1,000 ล้านบาท หลังประเทศจีนมีความต้องการเข้ามาจำนวนมาก
สอดคล้องกับธุรกิจโลจิสติกส์ที่มีการขยายตัวค่อนข้างสูง เนื่องจากปัจจุบันราคาสินค้าเกษตรปรับตัวสูงขึ้นมาก ค่าขนส่งสูงขึ้น เนื่องจากปัญหาขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ แต่ตลาดทั้งในและต่างประเทศมีความต้องการสินค้าเกษตรเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นธุรกิจโลจิสติกส์มีความต้องการตอนนี้สูง
สำหรับ ธุรกิจถ่านหินเดือนม.ค.-ก.พ. 2565 ตามดัชนีราคาถ่านหินของ The Newcastle Export Index (NEX) ทะลุไปถึง 350 ดอลลาร์ต่อตัน สูงกว่าปี 62 ก่อนที่จะมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งมีราคา 99.7 ดอลลาร์ต่อตัน เนื่องจากความต้องการการใช้ถ่านหินภาคอุตสาหกรรมในประเทศ และต่างประเทศยังมีต่อเนื่อง โดยรายได้จากการขายถ่านหินในช่วงสองเดือนแรกปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 60% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ปกติบริษัทจะมีสต็อกถ่านหินไว้ประมาณ 300,000-500,000 ตัน โดยปีนี้บริษัทยังตั้งเป้า ปริมาณยอดขายถ่านหินที่ระดับ 6.5 ล้านตัน เนื่องจากตอนนี้มีลูกค้าชะลอดูสถานการณ์ราคาถ่านหินก่อน แต่ก็ยังมีกลุ่มลูกค้าที่ต้องใช้ถ่านหินมีคำสั่งซื้อเข้ามาต่อเนื่อง
ดังนั้น แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2565 ที่บริษัทจะแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในวันที่ 12 พ.ค. นี้ คาดว่าจะเติบโตสูง และเป็นการเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 4 ปี 2564 โดยได้รับปัจจัยหนุนจากราคาถ่านหินที่ปรับตัวสูงขึ้น เป็นประวัติการณ์และราคาถ่านหินก็ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง
“บริษัทได้รับปัจจัยบวกราคาถ่านหินอยู่ในระดับสูงและแนวโน้มยังสูงต่อเนื่องเข้ามาเต็มๆ ในไตรมาส 1 ปี 2565 และคาดว่าจะต่อไปในไตรมาส 2 ปี 65 อีกด้วย เนื่องจากบริษัททำธุรกิจเทรดดิ้ง”
สำหรับ แนวโน้มรายได้รวมปีนี้แตะ 15,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นสัดส่วนรายได้จากธุรกิจโลจิสติกส์ 5% ธุรกิจถ่านหิน 95% ซึ่งได้รับปัจจัยหนุนจากราคาถ่านหินที่ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากดีมานด์ใช้ถ่านหินในและต่างประเทศยังมีต่อเนื่อง