กรมวิชาการเกษตรผนึกเอกชนตรวจสุขภาพเมล็ดพันธุ์

กรมวิชาการเกษตรผนึกเอกชนตรวจสุขภาพเมล็ดพันธุ์

กรมวิชาการเกษตร จับมือภาคเอกชนร่วมตรวจรับรองสุขภาพเมล็ดพันธุ์ส่งออกปลอดศัตรูพืช เพิ่มช่องทางรับบริการ ลดระยะเวลา ทันต่อสถานการณ์ เสริมขีดความสามารถการค้าเมล็ดพันธุ์ไทย พร้อมยกระดับใบรับรองสุขอนามัยพืชไทยเข้าระบบดิจิทัล

       นายระพีภัทร์  จันทรศรีวงศ์  อธิบดีกรมวิชาการเกษตร  เปิดเผยว่า กรมวิชาการเกษตรได้จัดทำโครงการรับรองห้องปฏิบัติการตรวจสุขภาพเมล็ดพันธุ์ ซึ่งเป็นโครงการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐ และเอกชนด้านการตรวจสอบศัตรูพืชของเมล็ดพันธุ์เพื่อการส่งออก

โดยให้ห้องปฏิบัติการภาคเอกชนที่ผ่านการรับรองจากกรมวิชาการเกษตรสามารถดำเนินการตรวจศัตรูพืชเพื่อนำผลการตรวจมาใช้ประกอบการออกใบรับรองสุขอนามัยพืชได้

กรมวิชาการเกษตรผนึกเอกชนตรวจสุขภาพเมล็ดพันธุ์

  ซึ่งช่วยเพิ่มช่องทางการให้บริการแก่ผู้ส่งออกภายใต้มาตรฐาน และข้อกำหนดของกรมวิชาการเกษตร  และช่วยลดระยะเวลาการตรวจสุขภาพของเมล็ดพันธุ์เพื่อการส่งออก เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดได้อย่างทันสถานการณ์  ส่งผลให้สามารถบริหารจัดการการส่งออกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และส่งเสริม นโยบายการเป็นศูนย์กลางเมล็ดพันธุ์ (Seed Hub) ของประเทศไทย 

โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจรับรองห้องปฏิบัติการภาคเอกชนจำนวน 4 แห่ง  คาดว่าเมื่อผ่านการรับรองจากกรมวิชาการเกษตรแล้วห้องปฏิบัติการทั้ง 4  แห่ง จะสามารถให้บริการแก่ผู้ส่งออกได้ประมาณเดือนมิถุนายน  2565

กรมวิชาการเกษตรผนึกเอกชนตรวจสุขภาพเมล็ดพันธุ์

       นอกจากนี้ กรมวิชาการเกษตรยังได้ออกแบบและพัฒนาการขอใบรับรองสุขอนามัยพืชแบบอิเล็กทรอนิกส์  (E-Phyto) ซึ่งช่วยยกระดับใบรับรองสุขอนามัยพืช (Phytosanitary Certificate) ของไทยเข้าสู่ระบบดิจิทัล  เป็นที่ยอมรับในเวทีการค้าเมล็ดพันธุ์ และการกำกับดูแลการเคลื่อนย้ายเมล็ดพันธุ์ระหว่างประเทศ  และเสริมสร้างความเชื่อมั่นในระบบการตรวจสอบศัตรูพืชของไทย ที่มีความชัดเจน รวดเร็ว ทันสถานการณ์

โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่มีการแข่งขันทางการค้าสูง  ช่วยลดขั้นตอน ภาระงาน และการผ่านพิธีการศุลกากรของสินค้าไทยทั้งที่ต้นทาง และประเทศปลายทาง ส่งผลให้การค้าเมล็ดพันธุ์ของไทยมีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น

 

       ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมการผลิต และการส่งออกเมล็ดพันธุ์ของประเทศไทยภายใต้นโยบายศูนย์กลางเมล็ดพันธุ์  กรมวิชาการเกษตรได้ร่วมกับ สมาคมการค้าเมล็ดพันธุ์ไทย  สมาคมเมล็ดพันธุ์ภาคพื้นเอเชีย แปซิฟิก  และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จัดงาน Asian Seed Congress 2022 วันที่ 14-18 พฤศจิกายน 2565

เพื่อส่งเสริมการผลิตและการส่งออกเมล็ดพันธุ์คุณภาพสูงของไทย เสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมเมล็ดพันธุ์ไทยในเวทีการค้าระหว่างประเทศ  และประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ภาพลักษณ์เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางการค้าเมล็ดพันธุ์ระดับโลก

 โดยภายในงานมีกิจกรรมสำคัญ ได้แก่  การแสดงผลงานของประเทศไทยในการส่งเสริมการผลิต และส่งออกเมล็ดพันธุ์คุณภาพสูงของไทย  โดยกรมวิชาการเกษตร และสวทช. การแสดงสินค้าเมล็ดพันธุ์ของภาคเอกชนไทย และต่างประเทศ  และการเจรจาการค้าเมล็ดพันธุ์ระหว่างคู่ค้า  ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานจากอุตสาหกรรมเมล็ดพันธุ์ทั่วโลกมากกว่า 500 ราย

 

 

พิสูจน์อักษร  โดย....สุรีย์   ศิลาวงษ์